ในรอว์ (2 กันยายน 2013) หลังจากที่โคดี โรดส์แพ้ให้แรนดี ออร์ตัน ทำให้โคดีถูกไล่ออกจาก WWE โดยคำสั่งของ ทริปเปิลเอช ประธาน COO ของสมาคม WWE[9] ในรอว์ (9 กันยายน 2013) โกลดัสต์ได้เจอกับออร์ตันเพื่อช่วยให้โคดีได้กลับมาทำงานแต่ก็แพ้[10] ในรอว์ (30 กันยายน 2013) ทริปเปิลเอชกับสเตฟานี แม็กแมน ได้เชิญครอบครัวโรดส์ ให้ออกมาคุยกันที่เวที ดัสตี โรดส์, โคดี โรดส์ และโกลดัสต์ ออกมากันพร้อมหน้า ทริปเปิลเอช บอกว่าเราให้โอกาสพวกนายแล้ว ให้โคดีเจอกับออร์ตัน เพื่อรักษางานของโคดี แต่ก็แพ้ จากนั้นเราก็ให้โอกาสอีก ให้โกลดัสต์เจอกับออร์ตัน แล้วก็แพ้อีก จากนั้นสเตฟานีก็ให้ดัสตี้เลือกว่าจะให้ลูกคนไหนกลับเข้าทำงานแต่เขากลับบอกให้สเตฟานีไปลงนรกซะ ทริปเปิลเอช บอกจะให้โอกาสอีกครั้ง ให้โคดีกับโกลดัสต์ เจอกับเซท รอลลินส์และโรแมน เรนส์ ในแบทเทิลกราวด์ (2013) ถ้าชนะได้ก็จะให้กลับเข้าทำงานทั้งสองคน แต่ถ้าแพ้ล่ะก็นายสองคนจะไม่มีวันได้กลับมา WWE อีกตลอดกาล และพ่อของพวกนายจะถูกไล่ออกจากตำแหน่งเทรนเนอร์ NXT ด้วย ดัสตี้ขอต่อรองว่าจะอยู่ที่มุมเวทีของลูกๆ ด้วย ซึ่งสเตฟานีก็ตกลง ครอบครัวโรดส์ กำลังเดินกลับแต่ก็โดนเดอะชีลด์ขึ้นมากระทืบ[11] ในแบทเทิลกราวด์โคดีและโกลดัสต์ได้เป็นฝ่ายชนะทำให้ครอบครัวโรดส์ได้กลับมาทำงานใน WWE อีกครั้ง[12][13]

ในรอว์ (14 ตุลาคม 2013) โคดีและโกลดัสต์ได้เอาชนะรอลลินส์และเรนส์คว้าแชมป์แท็กทีมได้สำเร็จ จากการช่วยเหลือของบิ๊กโชว์[14][15] ในเฮลอินเอเซล (2013) โคดีและโกลดัสต์สามารถป้องกันแชมป์แท็กทีมได้ในแมตช์ 3 เส้า[16] ในทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2013) โคดีและโกลดัสต์ต้องป้องกันแชมป์ 4 เส้ากับไรแบ็กเซล(ไรแบ็กและเคอร์ติส แอ็กเซล), บิ๊กโชว์และเรย์ มิสเตริโอ และเดอะเรียลอเมริกันส์(แจ็ก สแวกเกอร์และซีซาโร) แต่สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จอีกครั้ง[17] ในรอยัลรัมเบิล (2014) โคดีและโกลดัสต์ได้เสียแชมป์ให้กับเดอะนิวเอจเอาต์ลอวส์ (โรด ด็อก และบิลลี กัน) เป็นแมตช์ก่อนเริ่มรายการ[18] ในรอว์ (3 กุมภาพันธ์ 2014) โคดีและโกลดัสต์ได้ชิงแชมป์กับนิวเอจเอาต์ลอวส์ในกรงเหล็ก แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์คืนมาได้[19]

ในเพย์แบ็ค (2014) หลังจากโคดีและโกลดัสต์แพ้ไรแบ็กเซล โคดีก็บอกให้โกลดัสต์ไปหาคู่แทกทีมใหม่[20] จากนั้นโกลดัสต์ก็ต้องหาคู่แทกทีมใหม่แทนโคดี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ[21][22] ในรอว์ (16 มิถุนายน 2014) โคดีได้เปิดตัวในบทบาทใหม่ในชื่อสตาร์ดัสต์ โดยจับคู่กับโกลดัสต์เอาชนะไรแบ็กเซลไปได้[23] ในรอว์ (25 สิงหาคม 2014) โกลด์และสตาร์ดัสต์ ได้กลายเป็นฝ่ายอธรรมโดยเล่นงานดิอูโซส์หลังจากชนะแมตช์ชิงแชมป์แท็กทีมแบบเคาต์เอาต์ ทำให้ทั้งคู่ไม่พอใจเพราะแชมป์ยังเป็นของอูโซส์เหมือนเดิม[24] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014) โกลด์และสตาร์ดัสต์ได้เอาชนะอูโซส์ และคว้าแชมป์แท็กทีมสมัยที่2 ได้สำเร็จ[25] ก่อนจะเสียแชมป์ให้กับเดอะมิซและแดเมียน มิซดาวในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014) และแตกทีมกันในที่สุด[26]