มวยปล้ำอาชีพ ของ เดอะมิซ

ครองแชมป์ยูเอสและแชมป์แท็กทีมยูนิฟายด์ 3 เส้น

ตุลาคม 2004 เขาได้เข้าร่วมประกวดแข่งขันทัฟ อีนัฟซีซั่น4 โดยผู้ชนะจะได้เซ็นสัญญากับWWE เป็นเงินรางวัล $1,000,000 ซึ่งเขาได้รองชนะเลิศ[4][6] จากนั้นเขาได้ไปฝึกมวยปล้ำกับค่าย Deep South Wrestling (DSW)[7] และ Ohio Valley Wrestling (OVW)[8] และเปิดตัวกับWWEในปี2006[9][10][11] ในช่วงปลายปี 2007 ได้มาอยู่ECWและร่วมทีมกับจอห์น มอร์ริสัน[12][13] คว้าทั้งแชมป์โลกแท็กทีมและแชมป์แท็กทีม WWE และยังได้รับรางวัลสแลมมีอะวอร์ดประเภทแท็กทีมแห่งปี 2008[14] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25เสียแชมป์ให้คาร์ลีโตและปรีโมแบบลัมเบอร์แจ็กแมตช์[15] หลังจากที่มิซได้แยกปล้ำเดี่ยวจากการดราฟท์มาอยู่รอว์[16] ก็ได้คว้าแชมป์ยูเอสมาจากโคฟี คิงส์ตันเป็นแชมป์เดี่ยวเส้นแรกในWWE[1][17][18][19] และยังคว้าแชมป์แท็กทีมยูนิฟายด์ร่วมกับบิ๊กโชว์ในนามโชมิซที่ได้มาจากทีมดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์(ทริปเปิลเอชและชอว์น ไมเคิลส์) ทำให้มิซครองแชมป์ถึง3เส้น[20][21][22] ในNXTมิซได้มีบทเป็นผู้ฝึกสอน(Pro)ให้กับแดเนียล ไบรอัน[23] ต่อมาได้เสียแชมป์แท็กทีมให้เดอะฮาร์ทไดนาสตี้(เดวิด ฮาร์ท สมิธและไทสัน คิด)ทำให้บิ๊กโชว์โกรธและชกหน้ามิซแตกทีมกันในที่สุด[24]

มิซได้คว้ากระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ (2010)ของฝั่งรอว์ ทำให้สามารถชิงแชมป์ WWEเมื่อไรก็ได้เพียง 1 ครั้ง[25] ต่อมาได้จ้างอเล็กซ์ ไรลีย์ลูกศิษย์ของมิซในNXTซีซั่น2มาเป็นลูกน้อง ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010)เสียแชมป์ยูเอสให้แดเนียล ไบรอัน[26] ต่อมามิซได้ชนะจอห์น ซีนาแบบไม่มีการปรับแพ้ฟาล์ว โดยความช่วยเหลือจากเดอะเน็กซัสทำให้มิซเป็นกัปตันทีมฝั่งรอว์เจอกับทีมฝั่งสแมคดาวน์ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2010)โดยมิซเป็นฝ่ายนำทีมแพ้[27] ในรอว์ 22 พฤศจิกายนมิซได้ใช้สิทธิ์กระเป๋าคว้าแชมป์ WWE สมัยแรกจากแรนดี ออร์ตันได้สำเร็จ[28] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27สามารถป้องกันแชมป์จากซีนาได้จากการช่วยของเดอะร็อก[29] แต่ก็เสียแชมป์ให้ซีนาในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)[30] มิซได้ชนะ3เส้าเป็นผู้ท้าชิงกับซีนาแบบ I Quit Match ในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011)แต่ก็ไม่ได้แชมป์คืน[31][32] คืนต่อมามิซออกมาบอกว่าสาเหตุที่ทำให้เขาอดได้แชมป์ก็คือไรลีย์ เพราะตั้งแต่เอ็กซ์ตรีมรูลส์ที่ไม่ยอมออกมาช่วย แล้วในรอว์มันก็ทำแผนแตกจนกรรมการจับได้เมื่อคืนนี้มันก็มาฟาดหัวฉัน มิซบอกขอโอกาสชิงแชมป์อีกครั้งคืนนี้แบนไรลีย์ออกจากข้างเวทีด้วย ผู้จัดการเมลมาบอกว่ามิซฉันได้ยินคำขอของนายแต่ฉันไม่อนุมัติแกแพ้แล้วแกกับซีนาจบลงแค่นี้ มิซหันไปด่าไรลีย์ บอกว่าเพราะแกคนเดียว ไรลีย์บอกแต่ฉันไม่ใช่คนที่พูด I Quit มิซโมโหต่อยหน้าไรลีย์ และบอกว่าถ้าฉันไม่จ้างแกเป็นผู้ช่วยแกก็ไม่ได้มาอยู่ในรอว์ ด้วยซ้ำแกมันไม่มีอะไรดีสักอย่างแกถูกไล่ออก ไรลีย์ทนไม่ไหวไล่กระทืบมิซ ยับเยินและเหวี่ยงไปอัดที่กั้นคนดู และเหวี่ยงขึ้นโต๊ะผู้บรรยายเหวี่ยงขึ้นเวทีแล้ววิ่งมาถีบหน้าก่อนจะเดินจากไป จากนั้นก็ท้าเจอกันในแคปิเทล พูนิชเมนท์โดยมิซแพ้

มิซได้มีบทร่วมทีมกับอาร์-ทรูธในนามออซัม ทรูธเป็นทีมคู่หูตัวแสบที่ชอบรังแกคนอื่นๆ[33] จนในรอว์ 19 กันยายน หลังจากออซัม ทรูธแพ้ให้ซีเอ็ม พังก์และจอห์น ซีนา ทริปเปิลเอช ประธาน COO ของ WWE ออกมาสั่งไล่มิซและทรูธออกทันที แล้วก็เดินกลับไปหลังเวที มิซและทรูธวิ่งตามเข้ามารุมทำร้ายทริปเปิลเอช ทำให้นักมวยปล้ำคนอื่นต้องช่วยกันห้าม สุดท้ายทริปเปิลเอชก็สั่งให้จับมิซและทรูธโยนออกไปนอกอาคาร[34] หลังแมตช์ชิงแชมป์ WWE ในเฮลอินเอเซล (2011) ออซัม ทรูธได้แอบมุดเข้ามาในกรงเหล็กและทำร้ายนักมวยปล้ำ รวมทั้งกรรมการ และตากล้อง ทำให้ทริปเปิลเอช กับจอห์น โลรีนายติส และนักมวยปล้ำคนอื่นๆต้องออกมาช่วย ทริปเปิลเอชเลยเรียกตำรวจมาจับทั้งคู่ออกไปท่ามกลามความชุลมุลวุ่นวาย[35] ออซัม ทรูธได้กลับมาปล้ำในรอว์ 10 ตุลาคม ต่อมาในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011)ออซัม ทรูธได้แพ้จอห์น ซีนา และเดอะ ร็อก[36] ในรอว์ 21 พฤศจิกายน มิซได้หักหลังทรูธโดยจับใส่ท่า Skull-Crushing Finale เล่นงานกับพื้นทางเดินจนบาดเจ็บ[37] ในรอว์ 26 ธันวาคม ทรูธกลับมาล้างแค้นมิซ[38] มิซได้เริ่มโชว์ฟอร์มตกต่ำลงทั้งการปล้ำบนเวทีและการพูดออกไมค์ดูจะฝืนๆ ทำให้ WWE ลดระดับไปเป็นสตาร์ระดับกลางและคงไม่มีแผนจะผลักดันขึ้นมาอีกในอนาคต ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28มิซได้เข้าร่วมทีมของจอห์น โลรีนายติสเอาชนะทีมของทีโอดอร์ ลองไปได้แบบแท็กทีม 12 คน[39] มิซได้ไปเป็นพระเอกภาพยนตร์เรื่อง The Marine 3: Homefront และกลับมาในมันนีอินเดอะแบงก์ (2012)ด้วยทรงผมใหม่และไว้เครา ก่อนประกาศจะเข้าร่วมไต่บันไดชิงกระเป๋าสิทธิ์ชิงแชมป์ WWE สุดท้ายซีนาเป็นฝ่ายชนะ[40] ในรอว์ ตอนที่ 1000ได้คว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลสมัยแรกจากคริสเตียน[41] ก่อนเสียแชมป์อินเตอร์ให้กับโคฟี คิงส์ตัน[42] ต่อมามิซก็ได้เป็นฝ่ายธรรมะ[43] ในรอว์ครบรอบ 20 ปี มิซได้จัดรายการ MizTV โดยแขกรับเชิญคือริก แฟลร์ แต่ซีซาโรออกมาหาเรื่อง เลยโดนริกตบหน้าอกรัว จากนั้นมิซใส่ Skull Crashing Final แล้วริกบอกให้มิซใส่ Figure four leglock[44] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29ได้คว้าแชมป์อินเตอร์สมัยที่2จากเวด บาร์เร็ตต์[45] แต่ก็เสียแชมป์ให้บาร์เร็ตต์ในรอว์คืนถัดมา หลังจากครองได้เพียง 1 วัน[46]

แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลหลายสมัย

หลังจากไปถ่าย The Marine 4: Moving Target ในรอว์ 30 มิถุนายน 2014 มิซได้มาในกิมมิคใหม่โดยแต่งสูทสีขาว สวมแว่นกันแดด และบอกว่าเขาไปแสดงหนังมาและพวกผู้กำกับในฮอลลีวูดก็ต่างขอร้องอ้อนวอนให้เขาอยู่ในวงการต่อไป แต่เขาก็ตัดสินใจกลับมาที่ WWE เพราะว่าเขาได้รับการยอมรับในฮอลลีวูดก็จริงแต่ใน WWE ไม่ค่อยจะมีใครยอมรับความสามารถของเขาเท่าไหร่แถมยังชอบดูถูกด้วยทั้งๆ ที่เขาเป็นอดีตแชมป์โลกและเคยเป็นคู่เอกเรสเซิลเมเนีย มิซบอกว่าเขาจะไม่ไปจาก WWE จนกว่าจะได้เป็นคู่เอกเรสเซิลเมเนียอีกครั้ง ได้รับการยอมรับจากทุกคนและทุกคนจะต้องอ้อนวอนไม่ให้เขาจากไป คริส เจริโคก็ออกมาอีกคนและจัดการ Codebreaker ใส่เต็มหน้ามิซจนหงายเงิบไป ในแบทเทิลกราวด์ (2014)มิซได้ชนะแบทเทิลรอยัลคว้าแชมป์อินเตอร์สมัยที่3[47] ก่อนเสียแชมป์ให้ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ในซัมเมอร์สแลม (2014)[48] มิซได้จ้างแดเมียน มิซดาวมาเป็น stunt double โดยมิซดาวจะเลียนแบบกิริยาท่าทางทุกอย่างที่มิซทำ[49] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014)คว้าแชมป์อินเตอร์จากซิกก์เลอร์ได้เป็นสมัยที่4 ก่อนเสียแชมป์คืนในรอว์ถัดมาเพียง 1 วัน[50] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014)มิซและมิซดาวได้คว้าแชมป์แท็กทีมในแมตช์ 4 เส้า ก่อนจะเสียแชมป์ให้ดิอูโซส์ในรอว์ส่งท้ายปี 2014[51] ในรอว์ 2 กุมภาพันธ์ มิซได้ไล่มิซดาวออกจากการเป็น stunt double แต่จะจ้างให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัว ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31ได้ถูกมิซดาวหักหลังโดยการเหวี่ยงออกจากเวทีในแบทเทิลรอยัล

ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32ได้ร่วมปล้ำไต่บันได 7 คนชิงแชมป์อินเตอร์โดยแซค ไรเดอร์ได้แชมป์ คืนต่อมาในรอว์ มิซได้แชมป์อินเตอร์สมัย5จากแซคโดยการช่วยจากภรรยาของเขา มารีส[52] และป้องกันแชมป์จากแซคได้โดยการช่วยเหลือจากมารีส[53] ในเดือนพฤษภาคมได้ไปถ่าย The Marine 5: Battleground วันที่ 19 กรกฎาคม ได้ถูกดราฟท์มาอยู่สแมคดาวน์ในฐานะแชมป์อินเตอร์[54] จากนั้นได้เปิดศึกชิงแชมป์กับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์[55][56] ในโนเมอร์ซี (2016)เสียแชมป์ให้ซิกก์เลอร์จบการครองแชมป์ 188 วัน[57] ในสแมคดาวน์ตอนที่ 900 คว้าแชมป์คืนจากซิกก์เลอร์เป็นสมัย6[58] ทำให้ไปป้องกันแชมป์กับแซมี เซย์นในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2016)และมิซก็รักษาแชมป์ได้[59] ก่อนเสียแชมป์ให้ดีน แอมโบรสในสแมคดาวน์ตอนแรกของปี 2017[60] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33มิซกับมารีสได้ปล้ำแท็กทีมร่วมกันแพ้จอห์น ซีนาและนิกกี เบลลา[61] 10 เมษายน มิซกับมารีสได้ย้ายมาอยู่รอว์[62] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2017)ได้กระชากแชมป์อินเตอร์จากแอมโบรสเป็นสมัย7[63] เสียแชมป์ให้โรแมน เรนส์ในรอว์ 20 พฤศจิกายน 2017 ก่อนจะไปถ่าย The Marine 6: Close Quarters และได้กลับมากระชากแชมป์คืนจากเรนส์เป็นสมัย8 ในรอว์ครบรอบ 25 ปี 22 มกราคม 2018 ก่อนเสียแชมป์ให้เซท รอลลินส์ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 34[64]

16 เมษายน 2018 ผู้จัดการทั่วไปของรอว์ เคิร์ต แองเกิล ได้สั่งให้มิซย้ายไปสังกัดสแมคดาวน์[65] ในแบ็กแลช (2018)มิซได้รีแมตช์ชิงแชมป์อินเตอร์กับรอลลินส์ที่อยู่ฝั่งรอว์แต่ก็ไม่สามารถคว้าคืนได้[66] ต่อมาได้ชนะเจฟฟ์ ฮาร์ดีทำให้มิซได้เข้าร่วมไต่บันไดชิงกระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ (2018)[67] แต่ไม่ชนะ[68] ต่อมาได้เปิดศึกกับโจทก์เก่าอย่างแดเนียล ไบรอัน[69] และมิซสามารถเอาชนะไปได้ในซัมเมอร์สแลม (2018)โดยการแอบเอาสนับมือจากมารีสชกหน้าไบรอัน[70][71] ก่อนจะรีแมตช์กันในเฮลอินเอเซล (2018)แบบแท็กทีมผสมคู่ผัวเมียระหว่างมิซกับมารีสปะทะไบรอันกับบรี เบลลาและเป็นทีมมิซที่ชนะย้ำแค้นไปได้[72] ก่อนจะแพ้ให้ไบรอันเพียงไม่กี่นาทีในซูเปอร์โชว์-ดาวน์เพื่อสิทธิ์ผู้ท้าชิงแชมป์ WWE[73][74] ต่อมาได้มาจับคู่กับเชน แม็กแมนคว้าแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEร่วมกันได้สำเร็จ[75] ก่อนจะเสียแชมป์ให้ดิอูโซส์[76] และถูกเชนหักหลังในเวลาต่อมา[77] ทำให้ทั้งคู่ไปเจอกันแบบจับกดที่ไหนก็ได้ที่เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 35โดยเชนเป็นฝ่ายชนะ[78] วันที่ 15 เมษายน 2019 มิซก็ได้ย้ายมาสังกัดรอว์ในตอน Superstar Shake-up[79] ในมันนีออินเดอะแบงก์ 2019 มิซแพ้ให้กับเชนอีกครั้งในรูปแบบการปล้ำกรงเหล็ก[80] ในเดือนตุลาคม 2019 มิซได้ถูกดราฟท์มาสแมคดาวน์[81]

ในปี 2020 ได้ร่วมทีมกับมอรร์สันอีกครั้งและคว้าแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีมได้สำเร็จ

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: เดอะมิซ http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2009/04/14/910... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2009/08/17/104... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2009/10/05/113... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2010/01/30/126... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2010/04/26/137... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2010/11/22/162... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2011/05/02/180... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/Bios/miz.html http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/201... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/201...