กติกา ของ เดอะวอยซ์ไทยแลนด์

การแข่งขันประกอบด้วย 3 รอบ คือ The Blind Audition, Battle Phase และ Live Show และจากฤดูกาลที่ 2 เป็นต้นมาได้เพิ่มรอบ Knockout เข้ามาอีก ทำให้กลายเป็นทั้งหมด 4 รอบ โดยในการ Blind Audition ผู้เข้าประกวดจะถูกคัดเลือกจากเสียงร้องเพียงอย่างเดียว โดยเหล่าโค้ชจะนั่งหันหลังให้กับผู้เข้าแข่งขันและเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ถูกใจ โค้ชจะกดปุ่มเพื่อหมุนเก้าอี้หันหน้ากลับมาหาผู้เข้าแข่งขันเพื่อรับเข้าสู่ทีม

  • กรณีโค้ชกดปุ่มหันเก้าอี้มาเพียงคนเดียว ผู้เข้าแข่งขันจะเข้าสู่ทีมของโค้ชคนนั้นทันที
  • กรณีมีโค้ชกดปุ่มหันเก้าอี้มามากกว่า 1 คน สิทธิในการเลือกร่วมทีมจะเป็นของผู้เข้าแข่งขัน
  • กรณีผู้เข้าแข่งขันร้องเพลงจบ โดยที่ไม่มีโค้ชคนใดหันมา ผู้เข้าแข่งขันจะตกรอบ Blind Audition
  • กรณีมีโค้ชกดปุ่มหันเก้าอี้มาแต่ถูกโค้ชคนที่หันก่อนหน้าหรือที่หันมาทีหลังใช้สิทธิ์บล็อกไว้ ผู้เข้าแข่งขันจะไม่มีสิทธิ์เลือกไปอยู่ทีมโค้ชคนนั้น และกรณีที่หันมาสองคนแต่คนที่สองถูกบล็อก ผู้เข้าแข่งขันจะเข้าสู่ทีมของโค้ชที่ใช้สิทธิ์บล็อกโดยอัตโนมัติ โค้ชแต่ละท่านจะใช้สิทธิ์บล็อกได้ 3 ครั้ง (2 ครั้ง ในฤดูกาลที่ 7) ตลอดการคัดเลือกรอบ Blind Audition

เมื่อเหล่าโค้ชได้รวบรวมสมาชิกในทีมแล้ว โค้ชจะคอยเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการขับร้องแก่ผู้เข้าแข่งขันเพื่อเข้าสู่รอบ Battle Phase ซึ่งในรอบนี้โค้ชจะทำการจับลูกทีมมาประชันในการร้องเพลงเดียวกันและโค้ชจะเป็นผู้ตัดสินเข้ารอบ Live Show โดยในรอบ Live Show ผู้เข้าแข่งขันของแต่ละทีมจะประชันกับผู้เข้าแข่งขันจากทีมอื่นๆ ในการแสดงถ่ายทอดสด โดยผู้ชมทางบ้านจะลงคะแนนโหวตเพื่อเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ชื่นชอบให้ผ่านเข้ารอบ และโค้ชเองจะเลือกผู้ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปเช่นกัน จนรอบสุดท้ายโค้ชแต่ละคนจะเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียว และผลตัดสินสุดท้ายจากการโหวตหลังการแสดงถ่ายทอดสดจะเป็นกำหนดว่าใครคือผู้ชนะ

ในฤดูกาลที่ 2 ได้เพิ่มรอบ Knockout ซึ่งสืบเนื่องมาจากรอบ Battle Phase ได้มีกติกาเพิ่มให้โค้ชสามารถช่วยลูกทีมจากทีมอื่นที่ต้องตกรอบ ให้สามารถเข้ารอบได้แล้วย้ายมาอยู่ทีมของตนเอง จึงทำให้เกิด Knockout Round ขึ้น ซึ่งจะทำการจับคู่ 2 คนบนเวทีเดียวกันโดยร้องคนละเพลงกันแล้วตัดเชือกคัดออกกัน ณ จุดนั้นเลย ต่างจาก Battle Phase ที่จะสลับกันร้องในเพลงเดียวกัน และในรอบนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเป็นคนเลือกเพลงเองซึ่งก็ต่างกับรอบ Battle Phase อีกเช่นกันที่โค้ชจะเลือกเพลงให้[1] ในฤดูกาลที่ 3 รอบ Knockout เปลี่ยนกติกาจากจับคู่มาสองคนเป็นจับกลุ่มสี่คนบนเวทีเดียวกันร้องคนละเพลงแล้วโค้ชจะเลือกคนที่เข้ารอบสองคนจากกลุ่มเข้ารอบต่อไป ในฤดูกาลที่ 6 รอบ Knockout สลับมาแข่งก่อนหน้ารอบ Battle และมีการแบ่งกลุ่มในการแข่งขันรอบ Final รอบแรก และในฤดูกาลที่ 7 รอบการแสดงสดรอบแรกเป็นการจับคู่ข้ามทีม

ใกล้เคียง