รูปแบบรายการ ของ เดอะแร็ปเปอร์

ซีซั่นที่ 1 และ 2

รอบที่ 1 : Audition

ผู้เข้าแข่งขันจะต้องขึ้นมาร้องเพลงแบบแร็ปคนละ 1 เพลง โดยที่โค้ชทั้ง 4 คนมีสิทธิ์เลือกเข้าทีมได้โดยการเหยียบคันเร่ง โดยหากมีโค้ชเหยียบคันเร่งเพียงคนเดียว ผู้เข้าแข่งขันจะได้ไปอยู่กับทีมนั้นทันที หากไม่มีโค้ชเหยียบคันเร่งเลย ผู้เข้าแข่งขันจะตกรอบ และหากมีโค้ชเหยียบคันเร่งตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โปรดิวเซอร์ทั้ง 2 คนจะเป็นผู้เลือกว่าจะส่งมอบผู้เข้าแข่งขันให้ไปอยู่กับทีมใด อนึ่ง จะมีกติกาพิเศษ คือ หากโปรดิวเซอร์ทั้งสองคนส่งมอบผู้เข้าแข่งขันให้กับโค้ชทีมหนึ่งแล้ว โค้ชอีกทีมหากต้องการชิงตัวสามารถโยนหมวกทองลงพื้นได้ หากมีโค้ชคนเดียวโยนหมวกทอง ผู้เข้าแข่งขันจะไปอยู่กับทีมของโค้ชที่โยนหมวกทองทันที แต่ถ้ามีโค้ชโยนหมวกทองตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกสวมหมวกทองของโค้ชคนใดคนหนึ่งเพื่อเข้าทีมได้ตามที่ต้องการ แต่หมวกทองนี้สามารถแย่งผู้เข้าแข่งขันได้เพียงทีมละคนเดียวเท่านั้น

รอบที่ 2 : Battle

ในรอบนี้ แบ่งออกเป็นด้วยกัน 2 รอบ คือ รอบ Battle และรอบ 8 บาร์หนีตาย

รอบ Battle

ในรอบนี้ โค้ชของแต่ละทีมจะต้องเลือกลูกทีมมาแบทเทิลกันเองในทีม ตามเพลงทีโค้ชแต่ละทีมได้กำหนดไว้ให้ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีอยู่ด้วยกัน 2-3 คน และจะมีเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้นในแต่ละกลุ่มที่จะสามารถผ่านเข้ารอบได้ โดยผู้เข้าแข่งขันที่จะได้เข้ารอบนั้นจะถูกเลือกโดยโปรดิวเซอร์ทั้ง 2 คน แต่ถ้าหากว่าโปรดิวเซอร์ทั้ง 2 คนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันที่จะเลือกผู้เข้าแข่งให้ผ่านเข้ารอบ สิทธิ์การเลือกก็จะไปตกไปอยู่ที่โค้ชประจำทีมของผู้เข้าแข่งขันโดยให้โค้ชเป็นคนเลือกเอง ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านเข้ารอบในรอบนี้ ก็จะต้องไปแร็ปสดแก้ตัวในรอบ 8 บาร์หนีตาย อนึ่ง จะมีกติกาพิเศษ คือ หากโปรดิวเซอร์ทั้งสองคนส่งมอบผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งเข้ารอบต่อไปแล้ว โค้ชอีกทีมหากต้องการชิงตัวผู้เข้าแข่งขันอีกคนหนึ่งที่แพ้เข้ารอบต่อไปในฐานะลูกทีมของตนเอง โค้ชสามารถโยนหมวกทองลงพื้นได้ และผู้เข้าแข่งขันคนนั้นจะผ่านเข้ารอบและไปอยู่กับทีมของโค้ชที่โยนหมวกทอง ซึ่งคล้ายกับการ Steal ในรายการ The Voice แต่หมวกทองนี้สามารถแย่งผู้เข้าแข่งขันได้เพียงทีมละคนเดียวเช่นกัน

รอบ 8 บาร์หนีตาย

ในรอบนี้ ผู้ที่ไม่ผ่านเข้ารอบในรอบ Battle จะต้องมาแร็ปสดแก้ตัวในรอบนี้เพื่อให้ตนเองผ่านเข้ารอบ โดยใช้ Beat เพลงเดียวกัน ความยาว 8 บาร์เท่ากัน ซึ่งเนื้อหาที่จะแร็ปนั้นมาจากโจทย์ของโค้ชแต่ละทีมที่ได้กำหนดเอาไว้ และโค้ชก็จะเลือกผู้เข้าแข่งขันมาได้แค่ 1 คนเท่านั้นเพื่อที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ผ่านรอบนี้จะตกรอบไปในที่สุด

รอบที่ 3 : Play Off

ในรอบนี้ แบ่งออกเป็นด้วยกัน 2 รอบ คือ รอบ Play Off และรอบ 8 บาร์เข้าชิง

รอบ Play Off

ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะถูกเลือกมาจากการสุ่มไพ่ของโค้ชแต่ละทีม แบ่งออกเป็น 6 สายประกอบไปด้วย สาย A, B, C, D, E และ F ซึ่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องออกมาทำโชว์คนละ 1 โชว์แล้วให้โค้ชแต่ละคนโหวตผ่านเข้าสู่รอบ 8 บาร์เข้าชิง โดยโค้ช 1 คนมีสิทธิ์โหวตได้แค่ 1 คน และห้ามโหวตให้ลูกทีมของตนเอง ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ถูกโค้ชเลือกจะตกรอบทันที ในกรณีทีมไหนไม่มีลูกทีมที่จะเข้าไปแข่งในรอบสุดท้าย โปรดิวเซอร์จะให้หมวกทองแก่ลูกทีมคนไหนก็ได้ในทีมเพื่อไปแข่งในรอบสุดท้าย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วโค้ชทุกคนจะมีลูกทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบ Final Rhyme ทุกทีม แต่ในซีซันที่ 2 ทางรายการได้ปรับเปลี่ยนกติกาเล็กน้อย โดยผู้เข้าแข่งขันที่มีคะแนนสูงสุด จะผ่านเข้าสู่รอบ Final Ryhme ทันที แต่ในกรณีที่มีผู้เข้าแข่งขันที่มีคะแนนสูงสุดเท่ากัน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องไปแข่งขันต่อในรอบ 8 บาร์เข้าชิง และในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันตกรอบ แล้วโปรดิวเซอร์ต้องการให้ผ่านเข้ารอบ โปรดิวเซอร์ทั้งสองมีสิทธิ์โยนหมวกทองคนละ 1 ใบเพื่อที่จะให้ผู้เข้าแข่งขันเข้ารอบต่อไปได้

รอบ 8 บาร์เข้าชิง

ในรอบนี้ ผู้ที่ผ่านเข้ารอบในรอบ Play Off จะต้องมาแร็ปสดในรอบนี้เพื่อให้ตนเองผ่านเข้ารอบไปในรอบ Final Rhyme โดยใช้ Beat เพลงเดียวกัน ความยาว 8 บาร์เท่ากัน ซึ่งเนื้อหาที่จะแร็ปนั้นมาจากโจทย์ของโปรดิวเซอร์ทั้งสองที่ได้กำหนดเอาไว้ และโปรดิวเซอร์ทั้งสองก็จะเลือกผู้เข้าแข่งขันมาได้แค่ 1 คนเท่านั้นเพื่อที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยเบื้องต้น ผู้เข้าแข่งขันทุกสายจะแร็ปภายใต้โจทย์เดียวกัน คือ Represent ตัวเอง แต่ในซีซันที่ 2 ทางรายการได้ปรับเปลี่ยนกติกาเล็กน้อย โดยให้ผู้เข้าแข่งขันที่มีคะแนนสูงสุดเท่ากันเท่านั้นที่จะต้องมาแข่งขันในรอบนี้ เพื่อหาผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวที่จะสามารถเข้าไปในรอบต่อไปได้

รอบที่ 4 : Final Rhyme

ในรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายที่จะหาผู้ชนะซึ่งจะได้เป็น THE RAPPER โดยที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 คน (ในซีซั่นที่ 2 ทั้งหมด 8 คนโดยมี 2 คนที่ได้รับหมวกทองจากโปรดิวเซอร์) ที่ผ่านเข้าสู่รอบนี้จะต้องทำการแสดงโชว์ออกมาผ่านการถ่ายทอดสด ผู้ชมทางบ้านสามารถโหวตผู้เข้าแข่งขันที่อยากให้เป็นผู้ชนะกี่คนก็ได้ที่ต้องการ แต่จะสามารถโหวตได้เพียงคนละหนึ่งครั้งเท่านั้น ผลโหวตจะมาจากคะแนนทาง SMS (และรวมถึงการโหวตผ่าน Line ด้วยในซีซั่นที่ 1) ผู้ที่ได้รับผลโหวตสูงที่สุดจะเป็นผู้ชนะและได้เป็น THE RAPPER คว้าเงินรางวัล 1,000,000 บาทไป และในซีซันที่ 2 มีการเพิ่มของรางวัลอีก 1 ชิ้น คือรถ TOYOTA Yaris ATIV S+ มูลค่า 639,000 บาท

2020 Civil War

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

รอบที่ 1 : Head To Head

ในรอบนี้ แบ่งออกเป็นด้วยกัน 2 รอบ คือ รอบเพลงเดี่ยว และรอบเพลง Battle

รอบเพลงเดี่ยว

ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะถูกเลือกมาจากโค้ชแต่ละทีม แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ซึ่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องออกมาทำโชว์คนละ 1 โชว์ และผู้เข้าแข่งขันคนแรกจะได้รับหมวกทองไปก่อน หลังจากจบโชว์ของผู้เข้าแข่งขันคนถัดไปแล้ว โปรดิวเซอร์จะเลือกให้หมวกทองแก่ผู้เข้าแข่งขันตามลำดับโชว์ไป จนกระทั่งเมื่อครบ 4 โชว์แล้ว ผู้ที่มีหมวกทองเป็นคนสุดท้ายจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทันที ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่เหลือก็จะต้องไปแร็ปแก้ตัวในรอบเพลง Battle

รอบเพลง Battle

ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 คน รวมถึงผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบจากการได้รับหมวกทองไปแล้วด้วย จะต้องแร็ปร่วมกันในเพลงเดียวกัน คนละ 8 บาร์ ซึ่งเนื้อหาที่จะแร็ปนั้นมาจากโจทย์ที่ทางรายการได้กำหนดเอาไว้ และโปรดิวเซอร์ทั้งสองก็จะต้องเลือกผู้เข้าแข่งขันมา 2 คนเพื่อที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป อนึ่ง จะมีกติกาพิเศษ คือโปรดิวเซอร์จะมีหมวกทอง 1 ใบ ซึ่งจะมอบให้ผู้เข้าแข่งขันที่ต้องการผ่านเข้ารอบได้อีก 1 คน โดยจะใช้เมื่อไหร่ก็ได้ และเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน โปรดิวเซอร์จะเลือกลูกทีมที่ตกรอบไปแล้วของทีมที่มีลูกทีมเหลือไม่ถึง 4 คนให้ผ่านเข้ารอบได้อีกทีมละ 1 คน

รอบที่ 2 : Group Battle

เป็นรอบที่โค้ชจะต้องมาแบ่งกันเป็น 2 ทีม โดย โค้ชจะถูกแบ่งเป็น 2 ทีม คือ URBOYTJ X PMC ปู่จ๋าน ลองไมค์ (ยัวร์จ๋าน) ​และ TWOPEE SOUTHSIDE X FUKKING HERO (2HE) โดยทั้ง 2 ทีมจะต้องสุ่มลูกทีมมาแข่งกัน 10 คู่ โดยจะมีโจทย์เพลงที่กำหนดไว้แล้ว

รอบที่ 3 : Semi-Final

เป็นรอบที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องกลับเข้าทีมโค้ชของตัวเองและจะต้องทำการแสดงโชว์แข่งขันกันเองภายในทีม โดยโค้ชเจ้าของทีมจะเป็นผู้ตัดสินหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว เพื่อเข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้ายในรอบ Final โดยจะมีกติกาพิเศษ คือ หลังจากโค้ชเจ้าของทีมเลือกผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โปรดิวเซอร์จะมีหมวกทองที่จะมอบให้ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ผ่านเข้ารอบให้สามารถผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้ายได้

รอบที่ 4 : Final Rhyme

ในรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายที่จะหาผู้ชนะซึ่งจะได้เป็น THE RAPPER ซึ่งรูปแบบการแข่งขันจะเหมือนกับ 2 ซีซั่นที่ผ่านมา โดยที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 ท่าน (4 คนจากการตัดสินของโค้ชแต่ละทีมและอีก 2 คนจากหมวกทองของโปรดิวเซอร์) ที่ผ่านเข้าสู่รอบนี้จะต้องทำการแสดงโชว์ออกมาผ่านการถ่ายทอดสด ผู้ชมทางบ้านสามารถโหวตผู้เข้าแข่งขันที่อยากให้เป็นผู้ชนะกี่คนก็ได้ที่ต้องการ แต่จะสามารถโหวตได้เพียงคนละหนึ่งครั้งเท่านั้น ผลโหวตจะมาจากคะแนนทาง SMS ผู้ที่ได้รับผลโหวตสูงที่สุดจะเป็นผู้ชนะและได้เป็น THE RAPPER และคว้าเงินรางวัล 1,000,000 บาทไป

ใกล้เคียง

เดอะแร็ปเปอร์ เดอะแรมเพจฟรอมเอ็กไซล์ไทรบ์ เดอะแลนซิต เดอะแร็ปเปอร์ 2020 Civil War เดอะแร็ปเปอร์ (ฤดูกาลที่ 2) เดอะแร็ปเปอร์ (ฤดูกาลที่ 1) เดอะแร็ปเปอร์ 2021 เดอะแฟกต์มิวสิกอะวอดส์ เดอะแบนด์ไทยแลนด์ เดอะแฟลช วีรบุรุษเหนือแสง

แหล่งที่มา

WikiPedia: เดอะแร็ปเปอร์ //scholar.google.com/scholar?q=%22%E0%B9%80%E0%B8%... //www.google.com/search?&q=%22%E0%B9%80%E0%B8%94%E... //www.google.com/search?as_eq=wikipedia&q=%22%E0%B... //www.google.com/search?q=%22%E0%B9%80%E0%B8%94%E0... //www.google.com/search?tbs=bks:1&q=%22%E0%B9%80%E... http://www.workpointtv.com/activities/51913 https://www.facebook.com/TheRapperTH/ https://www.jstor.org/action/doBasicSearch?Query=%... https://www.workpoint.co.th/news/pressrelease/1198...