เดอะโซเชียลเน็ตเวิร์ก[3] (อังกฤษ: The Social Network) เป็นภาพยนตร์แนวดรามาที่กำกับโดย เดวิด ฟินเชอร์ และมี เควิน สเปซีย์ นักแสดงรางวัลออสการ์ เป็นผู้อำนวยการสร้างร่วม เนื้อหาเกี่ยวข้องกับประวัติการก่อตั้งเฟซบุ๊ก บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ชั้นนำของโลก ดัดแปลงจากหนังสือ "แบบว่า...บังเอิญรวย" (The Accidental Billionaires: The Founding Of Facebook, A Tale of Sex, Money, Genius, and Betrayal) ของเบ็น เมซริช นำแสดงโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ และจัสติน ทิมเบอร์เลค ประพันธ์ดนตรีประกอบโดย เทรนต์ เรซเนอร์ นักร้องนำวงไนน์อินช์เนลส์ และแอตติคัส รอสส์ กำหนดออกฉายในอเมริกาวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 และในประเทศไทยวันที่ 2 ธันวาคม ปีเดียวกัน โดย โคลัมเบียพิกเจอส์ เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ได้รับรางวัลจากสถาบันและองค์กรภาพยนตร์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญได้แก่ รางวัลลูกโลกทองคำ 4 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ชีวิตยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออกสาร์ ครั้งที่ 83 จำนวน 8 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ไอเซนเบิร์ก) บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม บันทึกเสียงยอดเยี่ยม ลำดับภาพยอดเยี่ยม และกำกับภาพยอดเยี่ยมเดอะ โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค คือภาพยนตร์ที่คอหนังทั่วโลกหลายล้านคนรู้จักมักคุ้น เพราะมีประสบการณ์ตรงกับเว็บไซต์ชื่อดัง เฟซบุ๊ค ซึ่งผู้ให้กำเนิดกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก เขาสร้างเว็บไซต์เพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างเพื่อนฝูงจนประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่สวนทางกับแนวคิดนี้คือ เว็บมาสเตอร์ กลับเป็นคนขาดความมีมนุษยสัมพันธ์ พูดคุยกับคนอื่นไม่ค่อยรู้เรื่อง อยู่จำกัดในแวดวงสังคมส่วนตัว และ ทำให้มิตรกลายเป็นศัตรู     บทภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือ ดิ แอ็คซิเดนทัล บิลเลี่ยนแนร์ ของ เบน เมซริช ช่วงแรกนำเสนอประวัติความเป็นมา หรือ ไอเดียเฟซบุ๊ค อิงสมุดบึนทึกออนไลน์ ซัคออนอิท ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (เจสซี่ย์ ไอเซนเบิร์ก) เขียนระบายอารมณ์โกรธเคืองภายหลังถูกแฟนสาวบอกเลิก หนังเปิดฉากในผับแห่งหนึ่ง นักศึกษาไอทีแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดดินเน่อร์กับ เอริก้า ออลไบรท์ (รูนี่ย์ มารา)ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนจ็อกแจ็กจอแจส่งเสียงรบกวนการสนทนาระหว่างหนุ่มสาว ดูเหมือนว่าต่างฝ่ายก็ยึดติดในมุมมองของตัวเอง แล้วลงเอยด้วยความขัดแย้ง     มาร์คกลับมาที่หอพักใช้คอมพิวเตอร์ตัวเองแฮ็กเซิร์ฟเว่อร์ของมหาวิทยาลัย แอบดึงรูปนักศึกษาสาวทั้งหมดออกมา ขอให้เพื่อนสนิท เอดูอาร์โด เซเวอริน (แอนดรูว์ การ์ฟีลด์) ตั้งสมการ-อัลกอริทึ่ม แล้วเขาเขียนโปรแกรมเปิดเว็บ เฟซแมช ขึ้นมาให้บรรดานักศึกษาหนุ่มโหวตเลือกเพื่อจัดอันดับว่าใครสวย และ ร้อนแรงที่สุดจนระบบล่ม เขาถูกฝ่ายบริหารเรียกไปตำหนิกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวลงหนังสือพิมพ์เข้าตา ทิวยา นเรนทรา กับ เพื่อนฝาแฝด ไทเล่อร์ และ คาเมรอน วิงเกิลวอส ที่กำลังวางแผนจัดทำเว็บไซต์ ฮาร์วาร์ด คอนเน็กชั่น ในการสื่อสารระหว่างนักศึกษาร่วมสถาบันอยู่พอดี     มาร์คได้แนวคิดนี้มาพัฒนาเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้แตกต่างจากเว็บไซต์อื่นๆโดยอาศัยเงินทุนจากเอดูอาร์โด และ ถ่วงเวลาเขียนโค้ดโปรแกรมให้ฝาแฝดวิงเกิลวอสออกไปเรื่อยๆ กระทั่งทำ เดอะเฟซบุ๊ค.คอม สำเร็จเมื่อ กุมภาพันธ์ 2004 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก่อนขยายฐานไปสู่มหาวิทยาลัยอื่นๆ เว็บโด่งดังมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลายราวกับการระบาดของเชื้อไวรัส เอดูอาร์โดจำต้องวางแผนการตลาดเพื่อหารายได้มาให้พอกับค่าใช้จ่ายต่างๆจากการขายโฆษณา แต่เขาไม่สามารถหาสปอนเซ่อร์รายใหญ่ได้     ส่วน ฌอน ปาร์กเกอร์ (จัสติน ทิมเบอร์เลค)อดีตเว็บมาสเตอร์ แน็ปสเตอร์ เครือข่ายแลกเปลี่ยนไฟล์เพลงดิจิตอล ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลเล็งเห็นอนาคตของ เฟซบุ๊ค จึงทาบทามนายทุนใหญ่ในซิลิคอนวัลลี่ย์ให้รู้จักกับมาร์ค จัดการก่อตั้งบริษัท บริหารงานอย่างเป็นระบบ มาร์ค กับ ลูกน้อง พักการเรียนเพื่อทุ่มเทให้เว็บไซต์แจ้งเกิดสุดตัว ขณะเอดูอาร์โดกลับไปเรียนต่อปีสุดท้าย และ ได้เข้าเป็นสมาชิกสโมสรนักศึกษาชั้นสูง จึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มร้าวฉาน ประกอบกับผลประโยชน์ภายหลังกระจายหุ้นใหม่ไม่ลงตัว เอดูอาร์โดรู้สึกตัวว่าถูกทรยศจึงฟ้องร้องในสิทธิหลายๆอย่างขึ้นมา เช่นเดียวกับฝาแฝดวิงเกิลวอสกล่าวหามาร์คขโมยความคิดริเริ่มของพวกเขา     หนังเล่าเรื่องตัดสลับเหตุการในห้องไต่สวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ประมวลรายละเอียดกรณีพิพาทจากมุมมองของทุกฝ่ายลักษณะเดียวกับ ราโชมอน หรือแนว คอร์ทรูม ดราม่า กับการซักไซร้ไล่เรียงระหว่างโจทย์และจำเลย ประกอบด้วยบทสนทนาที่คมคาย เชือดเฉือนแกมเย้ยหยัน หรือ ตลกร้ายอยู่ในที แต่บทสรุปผลของคดีความยังคลุมเครือ เพราะคู่กรณีสามารถตกลงกันได้ในภายหลังโดยไม่เปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชน แอรอน ซอร์คิน ,มือเขียนบทไม่มีอคติ หรือ เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพียงแค่นำเสนอความคิดเห็นจากหลากหลายมุมมองของตัวละครให้ผู้ชมเข้าใจง่าย ไม่เบื่อหน่าย แล้วตัดสินใจเอาเองว่าใครถูกใครผิด    ประเด็นสำคัญของหนังที่ผู้ชมอาจดูไม่ทัน หรือ ไม่ถูกเน้นหนักในการอธิบายปรากฏการณ์เฟซบุ๊ค ทั้งในแง่ความนิยมของผู้ใช้ หรือ มูลค่าเชิงกำไร และ ผลกระทบต่อผู้คนในโลกยุคใหม่ นักแสดงทั้งหมดต่างก็ตีบทแตก เจสซี่ย์ ไอเซนเบิร์ก เล่นเป็นเด็กเนิร์ด ไอคิวสูงแต่อีคิวต่ำ ตรงกับบุคลิก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นคนดูยาก มักพูดสั้นห้วน เขากระฉับกระเฉงและทรงพลังเมื่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเหลือเชื่อ แอนดรูว์ การ์ฟีลด์ ในบท เอดูอาร์โด เซเวอริน กลับมีความเป็นมนุษย์มากที่สุด เมื่อรู้สึกน้อยใจที่มาร์คไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนจึงอายัดบัญชีค่าใช้จ่ายของบริษัท จัสติน ทิมเบอร์เลค เปล่งรัศมีเว็บมาสเตอร์ชื่อดังอย่าง ฌอน ปาร์กเกอร์ ทุกครั้งที่ปรากฏตัว นักแสดงประกอบคนอื่นๆล้วนทำได้เหมาะสมตามบทบาท    เดวิด ฟินเช่อร์ ,ผู้กำกับฝีมือดีรู้ว่าตัวเองจะเล่าเรื่องออกมาอย่างไรให้มีชีวิตชีวา ตื่นเต้น และ ยอกย้อนชวนฉงนอย่างสมจริงกับเหตุการณ์ซึ่งจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ เพลงของเรดิโอเฮ้ดสร้างบรรยากาศลึกลับของโลกไซเบอร์ จากเสียงเปียโนบรรเลงแว่วหวิว คลอการประสานเสียงนักร้องผู้หญิงล้วน .. ทั้งหมดนี้ทำให้ เดอะ โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค คือ ภาพยนตร์คุณภาพแห่งปี สมกับที่ผู้ชมรอคอย