ประวัติ ของ เทศกาลดำขาว

ต้นกำเนิด

ขบวนพาเหรดใหญ่เมื่อปี 2007

เทศกาลดำขาวมีต้นกำเนิดในสมัยอาณานิคม และมีจุดกำเนิดจากชาวเมสติโซ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างหลากหลายวัฒนธรรมที่พบในเมืองปัสโต คือ วัฒนธรรมในภูมิภาคแอนดีส แอมะซอน และแปซิฟิก รวมถึงความเชื่อพื้นเมืองในการเฉลิมฉลองพระจันทร์ (กิยา), พิธีกรรมเต้นรำบูชาพระจันทร์ในเวลาเก็บเกี่ยวของชาวปัสโตและชาวกิยาซิงกา, และพิธีกรรมบูชาพระอาทิตย์เพื่อให้คุ้มครองผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้ได้เกิดการผสมผสานกับศาสนาคริสต์จากอิทธิพลจากชาวสเปน จนมาเป็นเทศกาลในเมืองปัสโตนี้ โดยได้มีจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1546

ผู้เข้าร่วม ฮูเอโกเดเนกริโตส จะต้องทาสีใบหน้าเป็นสีดำ (ค.ศ. 2007)

กิจกรรม ฮูเอโกเดเนกริโตส เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของเทศกาลดำขาว มีจุดกำเนิดในช่วงวันก่อนวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ ณ เวลานั้นจะเล่นกันในหมู่ชาวผิวขาวและชาวเมสติโซ เดิมกิจกรรมนี้จัดเป็นวันหยุดสำหรับชาวผิวสีในกรันเกากา ภูมิภาคที่เมืองปัสโตตั้งอยู่ ในปี 1607 เกิดกบฏทาสในเรเมดิโอส จังหวัดอันติโอเกีย ซึ่งทำให้เกิดความแตกตื่นในหมู่ชาวผิวสี จึงมีการเรียกร้องให้วันที่ 5 มกราคมเป็นวันหยุดเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์และเป็นการรักษาสันติภาพในสังคม โดยชาวผิวสีในเกากาจะออกมาเต้นรำกับเพลงแอฟริกาและทาสีกำแพงสีขาวอันโด่งดังของเมืองเป็นสีดำ ซึ่งกิจกรรมนี้ได้แพร่กระจายจนถึงตอนใต้ของประเทศ

ฮูเอโกเดบลังโกส อีกส่วนสำคัญของเทศกาล มีจุดกำเนิดในช่วงเช้ามืดของวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ (6 มกราคม) ในปี 1912 โดยได้สร้างกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ การละเล่น ความสัมพันธ์ และความสนุกสนานในชีวิตประจำวัน โดยมีเรื่องเล่าว่า

ที่ซ่องโสเภณีแห่งหนึ่งที่ตั้งอยูในกาเยเรอัล ซึ่งเป็นที่อยู่ของหญิงร็อบบี มีกลุ่มช่างตัดเสื้อจากร้านตัดเสื้อชื่อดังของดอนอังเฮล ซารามา ซึ่งในกลุ่มนั้นก็มีอังเฮล มาริอา โลเปซ และมักซิโม เอราโซ ด้วย ทั้งสองคนพาหญิงร็อบบี้เหล่านั้นไปหยิบเครื่องสำอางฝรั่งเศสของหญิงที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด และเกลี่ยแป้งพร้อมน้ำหอมบนใบหน้าของหญิงเหล่านั้นท่ามกลางเสียงร้องว่า บิบันโลสบลังกิโตส! (¡Vivan los Blanquitos!)

โดย บิบันโลสบลังกิโตส! เป็นการตอบสนองต่อ ฮูเอโกเดเนกริโตส ที่ได้รับการคิดค้นก่อนหน้า เรื่องเล่านี้จะถูกนำไปเล่าต่อเป็นมุกตลกขำขัน โดยมีกลุ่มคนที่จะออกไปเล่นมุกนี้ให้กับผู้ที่เดินทางกลับจากโบสถ์หลังเข้าร่วมพิธีในวันสมโภช พร้อมกับพูดว่า ดำและขาวจงเจริญ! (Long live the Blacks and long live the Whites!)[6] พฤติการณ์เกลี่ยแป้งพร้อมน้ำหอมบนใบหน้าจะถูกนำไปปรับใช้ในเทศกาลต่อไป

การก่อตั้ง

ภาพด้านข้างของ ปาชาการ์นิวัล ในขบวนพาเหรดใหญ่ (ค.ศ. 2006)ครอบครัวกัสตัญเญดาใน ค.ศ. 2007

ในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1920 เทศกาลดำขาวได้มีการปรับปรุงรูปแบบเทศกาลให้มีความเหมาะสมและสวยงามยิ่งขึ้น โดยมีการคำนึงถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จัดงาน ในวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1926 เป็นครั้งแรกที่มีการจัดขบวนพาเหรด โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยนาริญโญเป็นผู้จัด และได้เลือกโรเมเลีย มาร์ติเนซ เป็นราชินีผู้นำขบวนในครั้งนี้ ผู้ร่วมงานได้แต่งกายด้วยชุดงานรื่นเริงและเต้นรำไปกับดนตรีท้องถิ่น พาเหรดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของเทศกาล ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวันสมโภช

ในวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 1929 ได้มีขบวนแห่ของนักขี่ม้ากว่าร้อยคนเข้ามาเชียร์เกมของคนผิวดำและคนผิวขาว เนื่องด้วยสถานที่จัดกิจกรรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับกองพันโบยากา ในเวลาบ่ายสามโมง เมื่อคนขี่ม้าเตรียมตัวแห่ ก็ได้มีอีกขบวนแห่ของครอบครัวกัสตัญเญดามาร่วมขบวนแห่ด้วย ครอบครัวนี้เดิมมีถิ่นฐานในอันติโอเกีย แต่เดินทางมาร่วมขบวนแห่ที่ปัสโต ซึ่งหลังจากใช้เวลาหลายปีเดินทางในปูตูมาโย ในขบวนแห่ของครอบครัวนี้มีพ่อ แม่ เด็กผู้หญิงสองคน เด็กชายสองคน และชายหนุ่มอีกสามคน พร้อมคนงานคอยต้อนล่อ หมูและแกะ อีกทั้งยังมีกรงลากที่มีนกแก้วและลิหลายตัว จากนั้นได้มีเสียงตะโกนแห่งประวัติศาสตร์ว่า "บิบาลาฟามิเลียกัสตัญเญดา" ("ครอบครัวกัสตัญเญดาจงเจริญ") ของตอร์เรส อาเรยาโน ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นธรรมเนียมสำคัญของเทศกาล

ครอบครัวกัสตัญเญดาได้รับการตีความเป็นหลากหลายรูปแบบ เช่น เป็นภาพการ์ตูนที่ปรากฏในวันที่ 4 มกราคม โดยภาพวาดนี้ยังเป็นภาพล้อเลียนครอบครัวบูเชลิ อาเยร์เบ ซึ่งมีดอนฮูเลียน บูเชลิ อาเยร์เบ ที่ต่อมาจะเป็นผู้ว่าการคนแรกของจังหวัดนาริญโญ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ขบวนพาเหรดของครอบครัวกัสตัญเญดาได้รับการนำมาเป็นกิจกรรมเปิดเทศกาลจนกระทั่งเริ่มมีกิจกรรม การ์นาบาลิโต ("คาร์นิวัลเด็ก")

ในคริสต์ทศวรรษ 1930–1940 มีการปรับโครงสร้างเทศกาลให้มีความชัดเจน ให้มีความโดดเด่นของศิลปะพื้นบ้าน ผ่านการสร้างงานประติมากรรมและรถแห่

การพัฒนาและการฟื้นฟูเทศกาล

ติงกุนนี รถแห่ที่ได้รับรางวัลรถแห่ยอดเยี่ยมในปี 2006

ในคริสต์ทศวรรษ 1950 ได้มีการปรับปรุงขบวนแห่ โดยรถแห่จะมีหุ่นที่สามารถขยับได้ ซึ่งสร้างครั้งแรกโดยศิลปินอัลฟอนโซ ซัมบราโน ในช่วงเวลาเดียวนายกเทศมนตรีเมืองปัสโต (บางครั้งพร้อมกับผู้ว่าการจังหวัดนาริญโญ) ได้เข้ามาควบคุมการจัดงานเทศกาล โดยได้มีการสนับสนุนทุนในการจัดทำรถแห่และจัดตั้งรางวัลรถแห่ยอดเยี่ยม

ในปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 มีการจัดหาวงดนตรีเชิงพาณิชย์ระดับชาติและนานาชาติเพื่อ วงที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Los Melódicos ของเวเนซุเอลา, Billo's Caracas Boys และ Ecuadorian Medardo ในช่วงเวลานั้นได้มีลุยส์ เกงกวน เป็นตากล้องคนแรกที่สร้างสถิติด้วยการถ่ายวีดิทัศน์ด้วยฟิล์ม (ขาวดำ) ขนาด 8 มม., ซูเปอร์ 8 และ 16 มม. ในงานคาร์นิวัล ใน ค.ศ. 1966 ดอนมาริโอ เฟร์นันโด โรดริเกซ ที่เกิดขึ้นในย่านโบลิบาร์ การ์นาบาลิโตหรือคาร์นิวัลสำหรับเด็ก งานฉลองที่เป็นอิสระนี้จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษในการเข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการ

การเข้ามาของทางหลวงสายแพนอเมริกันในคริสต์ทศวรรษ 1970 และรวมเมืองปัสโตในแผนเศรษฐกิจของโคลอมเบีย ส่งผลให้มีการปรับปรุงเทศกาล โดยได้มีรูปแบบการจัดงานที่แตกต่างจากเดิม มีเพลงใหม่และกระแสวัฒนธรรมที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยกระแสวัฒนธรรมนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ และจำนวนประชากรในปัสโตที่เพิ่มขึ้น ทำให้จำเป็นต้องมีการสร้างกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และรูปแบบการจัดงานที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถรักษาขนบธรรมเนียมเดิมไว้ โดยได้สร้างให้ครอบคลุมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล โดยจะมีถูกบังคับใช้ในเมืองปัสโตและเมืองใกล้เคียง

ศตวรรษที่ 21

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ตามกฎหมายฉบับที่ 706 เทศกาลดำขาวได้รับการระบุเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศโดยพรรคคองเกรสโคลอมเบีย[3] พร้อมกันนั้นได้มีการจัดสร้าง "จัตุรัสเทศกาลและวัฒนธรรม" เป็นสถานที่จัดเทศกาลโดยเฉพาะ นอกจากนี้แล้วเทศกาลยังได้รับการบรรจุเข้าในแผนรัฐบาลสำหรับปัสโต เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2009 เทศกาลดำขาวได้รับการยกย่องโดยยูเนสโกให้เป็นผลงานชิ้นเอกด้านมุขปาฐะและมรดกที่ไม่เป็นกายภาพของมนุษยชาติซึ่งต่อมาจะพัฒนามาเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม[4][5]

ใกล้เคียง

เทศกาลกินเจ เทศกาลดนตรีพัทยา เทศกาลพ้อต่อ เทศกาลของชาวยิว เทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลาแวลลีย์ เทศกาลดนตรีแจ๊สในประเทศไทย เทศกาลโคมไฟ เทศกาลเช็งเม้ง เทศกาลไหว้พระจันทร์ เทศกาลภาพยนตร์กาน

แหล่งที่มา

WikiPedia: เทศกาลดำขาว https://www.cheaptickets.co.th/flights/colombia/ev... https://derechoambientalcolombiano.org/%E0%B9%80%E... https://web.archive.org/web/20110707053601/http://... https://web.archive.org/web/20091004003221/http://... https://web.archive.org/web/20070106133233/http://... https://web.archive.org/web/20100316125003/http://... https://web.archive.org/web/20110707053058/http://... http://www.secretariasenado.gov.co/senado/basedoc/... http://portal.unesco.org/en/ev.php-URL_ID=46523&UR... https://ich.unesco.org/en/RL/carnaval-de-negros-y-...