ทางหลวงแผ่นดิน
- ถนนชยางกูร เริ่มต้นจากหลักกิโลเมตรที่ 0 (ตัดกับถนนสรรพสิทธิ์) ตัดผ่านอำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอำนาจเจริญ ถึงจังหวัดนครพนม สร้างในสมัย "หม่อมเจ้าวิเศษศักดิ์ ชยางกูร" ดำรงตำแหน่งนายช่างแขวงการทางอำนาจเจริญ ประมาณ พ.ศ. 2480-2487 หม่อมเจ้าวิเศษศักดิ์ ชยางกูร ทรงเป็นโอรสในพระองค์เจ้าไชยานุชิต ต่อมาได้สถาปนาเป็น "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป" ต้นราชสกุล "ชยางกูร"
- ถนนแจ้งสนิท เริ่มต้นจากถนนสรรพสิทธิ์ (แยกแขวงการทางอุบลราชธานีที่ 1) ผ่านอำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอเขื่องใน จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดมหาสารคาม ถึงอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น บรรจบกับถนนมิตรภาพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2) เริ่มสร้างในสมัย นายวิชิต แจ้งสนิท ดำรงตำแหน่งนายช่างแขวงการทางยโสธร ประมาณ พ.ศ. 2481-2488
วงเวียนน้ำพุ
ทางหลวงท้องถิ่น
การคมนาคมทางบก (ถนนที่สำคัญในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี)การตั้งชื่อถนนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ถนนตามทิศทางของดวงอาทิตย์ จากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก และชื่อถนนที่ตั้งในทิศทางขวางตะวัน (ทิศเหนือ-ทิศใต้)โดยชื่อถนนส่วนใหญ่จะตั้งชื่อตามพระนามข้าหลวงต่างพระองค์และโอรส และตามตำแหน่งเจ้านายที่เป็นคนอุบลราชธานีและชื่อข้าหลวงประจำจังหวัด (เจ้าเมืองอุบลราชธานี) ตามลำดับและนอกจากนี้ก็ได้ตั้งชื่อตามประวัติศาสตร์ ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ เช่น
ชื่อถนนที่ตั้งตามทิศทางจากทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก (ตามชื่อข้าหลวงต่างพระองค์และเจ้านายเมืองอุบลราชธานี) คือ
- ถนนพรหมราช ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระพรหมราชวงศา" (กุทอง สุวรรณกูฏ) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 4 ต้นราชตระกูล "สุวรรณกูฏ"
- ถนนพรหมเทพ ตั้งชื่อตามราชทินนาม "เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ์" (เจ้าหน่อคำ) สืบเชื้อสายมาจาก ราชวงศ์นครจำปาศักดิ์ เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 5 ต้นราชตระกูล "พรหมเทพ"
- ถนนเขื่อนธานี ตั้งชื่อตามแนวเขตคูเมืองเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยสร้างเมืองอุบลราชธานี เมื่อเก่าผุพังลงจึงได้มีการปรับปรุงให้เป็นถนน และได้ชื่อตามแนวเขตคูเมืองเดิม คือ "เขื่อนธานี"
- ถนนศรีณรงค์ ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระยาศรีสิงหเทพ" (ทัด ไกรฤกษ์) และ "พระยาภักดีณรงค์" (สิน ไกรฤกษ์) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 7 และ 8 ตามลำดับ
- ถนนพิชิตรังสรรค์ ตั้งชื่อตามพระนามของ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร" ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว ประทับ ณ เมืองอุบลราชธานี ระหว่าง พ.ศ. 2433-2436 ต้นราชสกุล "คัคณางค์"
- ถนนสรรพสิทธิ์ ตั้งชื่อตามพระนามของ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์" ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลอีสาน ประทับ ณ วังสงัด เมืองอุบลราชธานี ระหว่าง พ.ศ. 2436-2453 ต้นราชสกุล "ชุมพล"
- ถนนอุปลีสาน ตั้งชื่อตามพระนามของ "หม่อมเจ้าอุปลีสาณ ชุมพล" โอรสในกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์กับหม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา สกุลเดิม "บุตโรบล" (บุตรีท้าวสุรินทร์ชมภู(หมั้น)และหลานราชบุตร(สุ่ย)เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 3)
ชื่อถนนที่ตั้งตามทิศทางจากทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก (ตามชื่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์) คือ
- ถนนพโลรังฤทธิ์ ตั้งชื่อตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อจีนฮ่อยกทัพมาเมืองหนองคายและเมืองเวียงจันทน์ ในครั้งนี้เมืองอุบลราชธานีได้มีการเกณฑ์ไพร่พลไปช่วยในการปราบปรามด้วยและได้มีการรวบรวมกำลังอยู่ที่บริเวณนี้ใต้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นอนุสรณ์จึงได้ตั้งชื่อเอาไว้เพื่อเป็นการระลึกถึง ซึ่งคำว่า "พโลรังฤทธิ์" หมายถึง กองทหารที่เพียบพร้อมไปด้วยกำลังและอิทธิฤทธิ์
- ถนนพโลชัย ตั้งชื่อตามเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่กองทัพทหารเมืองอุบลราชธานีไปปราบปรามจีนฮ่อที่เมืองหนองคายและเมืองเวียงจันทนืได้รับชัยชนะ จึงได้ตั้งชื่อเอาไว้เพื่อให้เป็นอนุสรณ์เพื่อการระลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษ ซึ่งคำว่า "พโลชัย" หมายถึง กองทหารที่มีชัยเหนือศัตรู
- ถนนสุรศักดิ์ ตั้งชื่อตามราชทินนามของ "จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี" แม่ทัพบัญชาการกองทหารเมืองอุบลราชธานีไปปราบฮ่อที่แคว้นหลวงพระบางและแคว้นสิบสองจุไท และได้รับชัยชนะจึงได้ตั้งชื่อถนนนี้เอาไว้เป็นอนุสรณ์ และในสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลลาวพุงดำ
- ถนนสุริยาตร์ ตั้งชื่อตามทิศทางวงโคจรของดวงอาทิตย์ หรือ อีกนัยหนึ่งอาจมาจากชื่อของ "พระปทุมวรราชสุริยวงศ์" (เจ้าคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรก
ชื่อถนนที่ตั้งตามทิศทางจากใต้-เหนือ จากแนวริมฝั่งแม่น้ำมูลขึ้นไป (ตามคณะอาญาสี่ และตามราชทินนาม ของบุคคลที่สำคัญ) คือ
- ถนนอุปราช ตั้งชื่อตามตำแหน่งในการปกครองเมืองอุบลราชธานี ตามคณะอาญาสี่ หรือ อาชญาสี่
- ถนนราชบุตร ตั้งชื่อตามตำแหน่งในการปกครองเมืองอุบลราชธานี ตามคณะอาญาสี่ หรือ อาชญาสี่
- ถนนราชวงศ์ ตั้งชื่อตามตำแหน่งในการปกครองเมืองอุบลราชธานี ตามคณะอาญาสี่ หรือ อาชญาสี่
- ถนนอุบลเดช ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระอุบลเดชประชารักษ์" (เสือ ณ อุบล) ผู้ว่าราชการเมือง (ตามระบบเทศาภิบาล พ.ศ. 2440-2442)
- ถนนอุบลศักดิ์ ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระอุบลศักดิ์ประชาบาล" (กุคำ สุวรรณกุฏ) ยกกระบัตรเมือง (ตามระบบเทศาภิบาลพ.ศ. 2440-2442)
- ถนนอุบลกิจ ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระอุบลกิจประชากร" (ท้าวบุญเพ็ง บุตโรบล) ผู้รักษาตำแหน่งเจ้าเมืองอุบลราชธานีคนสุดท้ายและผู้ช่วยราชการเมือง ในสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
- ถนนสุรพล ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระสุรพลชยากร" (อุ่น วนะรมย์) ได้รับแต่งตั้งให้เป็น พล (เมือง) ทำหน้าที่กำกับดูแลกำลังพลของเมือง
- ถนนเทพโยธี ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระโยธีบริรักษ์" (เคลือบ ไกรฤกษ์) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 9
- ถนนสุนทรกิจวิมล ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระสุนทรกิจวิมล" (คูณ สังโขบล) มหาดไทยเมือง ในสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (ชื่อตามป้ายถนนคือ "ถนนสุนทรวิมล")
- ถนนจงกลนิธาน ตั้งชื่อตามราชทินนาม "พระจงกลนิธานสุพันธ์" (สุคำทัด สุวรรณกูฏ) กรมการเมืองผู้ใหญ่ ในสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
- ถนนพนม ตั้งชื่อตามราชทินนาม "อำมาตย์เอก พระพนมนครานุรักษ์" (ฮกไถ่ พิศาลบุตร) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 22
- สถานีรถไฟอุบลราชธานี เป็นสถานีรถไฟปลายทางของตะวันออกเฉียงเหนือ
หมายเหตุ
- คณะอาญาสี่ หรือ อาชญาสี่ ประกอบไปด้วย เจ้าเมือง อุปฮาด ราชวงศ์ และราชบุตร
- มณฑลลาวกาว ประกอบไปด้วย เมืองอุบลราชธานี นครจำปาศักดิ์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น มณฑลอีสาน ตั้งกองบัญชาการที่เมืองอุบลราชธานี และในปี พ.ศ. 2455 ได้แบ่งออกเป็น 2 มณฑลคือ มณฑลอุบลราชธานี และมณฑลร้อยเอ็ด
การขนส่งสาธารณะ
รถสองแถว
การคมนาคมทางบก (ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี)
- มีการบริการด้วยรถสองแถวประจำทาง เช่น สาย 8 สาย 10 เป็นต้น นอกจากนี้มีการบริการด้วยรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก (สามล้อเครื่อง) และรถแท็กซี่มิเตอร์ โดยให้บริการตามถนนสายต่างๆและสถานที่สำคัญ เช่น หน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ หน้าศาลากลางจังหวัด หน้าตลาดสดเทศบาล 3 เป็นต้น
การคมนาคมทางบก มีการบริการด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศจากจังหวัดต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือและโครงการเดินรถในเขตภาคใต้มายังจังหวัดอุบลราชธานี ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุบลราชธานี เช่น
- กรุงเทพมหานคร (หมอชิตใหม่) - อุบลราชธานี
- เชียงใหม่ (สถานีขนส่งอาเขต) - อุบลราชธานี
- ขอนแก่น - อุบลราชธานี
- อุดรธานี - อุบลราชธานี
- ระยอง - พัทยา - อุบลราชธานี
- หัวหิน - อุบลราชธานี
- ภูเก็ต - อุบลราชธานี
- แม่สาย - เชียงราย - อุบลราชธานี (ในอนาคต) เป็นต้น
และนอกจากนี้ยังมีการให้บริการด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศระหว่างประเทศซึ่งเดินทางมาถึงเมืองอุบลราชธานี คือ
- ปากเซ (แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว) - อุบลราชธานี
- จำปาศักดิ์ - อุบลราชธานี (กำลังดำเนินการ)
- คอนพะเพ็ง - อุบลราชธานี (โครงการ)
ท่าอากาศยาน
มีท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี (Ubon Ratchathani International Airport) โดยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัน นายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2531) ให้บริการโดยสายการบินดังนี้