เธลีมา (
อังกฤษ: Thelema) เป็น
ปรัชญาทางจิตวิญญาณและ
สังคมแบบ
รหัสยศาสตร์และ
คุยหลัทธิตะวันตก[1] รวมถึงเป็น
ขบวนการศาสนาใหม่ที่ก่อตั้งช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 โดย
แอลีสเตอร์ โครวลีย์ (ค.ศ. 1875–1947) นักเขียน นักปรัชญาและรหัสยิกชาวอังกฤษ
[2] เธลีมามีแนวคิดสำคัญคือการค้นหาและติดตาม
เจตจำนงแท้ของตนอันอยู่เหนือความปรารถนาทั่วไป เธลีมามีที่มาจาก คัมภีร์แห่งกฎ (The Book of the Law) ซึ่งโครวลีย์แต่งขึ้นในปี ค.ศ. 1909 หลังได้รับคำบอกจาก
ไอวาส (Aiwass) "เสียง" ที่โครวลีย์ได้ยินในเดือนเมษายน ค.ศ. 1904
[3][4][5] คัมภีร์นี้ได้วางรากฐานและสัจพจน์กลางที่ว่า "ทำตามเจตจำนงควรเป็นสิ่งสูงสุด"
[6] ("Do what thou wilt shall be the whole of the Law")
[7] มโนทัศน์นี้เน้นย้ำถึงเสรีภาพและการเดินตามวิถีทางของตน โดยได้รับการชี้นำจากความรักและการแสวงหาเจตจำนงแท้แห่งตน
จักรวาลวิทยาของเธลีมาประกอบด้วยเทพเจ้าหลายองค์จาก
ศาสนาอียิปต์โบราณ เทพสำคัญ ได้แก่
นูอิต (Nuit) ท้องฟ้ายามราตรีที่แทนด้วยสตรีเปลือยที่ปกคลุมด้วยดวงดาว พระองค์ถือเป็นเทพีสูงสุดและ "
พระแม่" ผู้เป็นบ่อเกิดของทุกสรรพสิ่ง
[8] นูอิตมาจาก
นูต เทพีแห่งท้องฟ้าของอียิปต์
แฮดิต (Hadit) พระสวามีของนูอิตที่แทนด้วยจุดเล็กไม่มีที่สิ้นสุด พระองค์เป็นตัวแทนของการสำแดง การเคลื่อนไหวและเวลา
[8] และ
รา-ฮูร์-คูอิต (Ra-Hoor-Khuit) ร่างจำแลงของเทพ
ฮอรัส พระองค์เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์และเป็นพลังงานที่ไหลเวียนในพิธีกรรมของเธลีมา
[8] เจตจำนงแท้เป็นแนวคิดหลักของเธลีมา โดยโครวลีย์เชื่อว่าการค้นพบและบรรลุเจตจำนงแท้เป็นหนทางสู่ความเข้าใจและเติมเต็มตนเอง หรือที่เรียกว่า
เกรตเวิร์ก (Great Work)
[9]เซเรมอเนียลแมจิก (ceremonial magic หรือเรียกเพียง แมจิก (magick)) เป็นการปฏิบัติที่สำคัญในเธลีมา เป็นการฝึกฝนทางกาย จิตใจและจิตวิญญาณ เซเรมอเนียลแมจิกถือเป็นสื่อกลางในการเปิดเผยเจตจำนงแท้
[10] และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับเจตจำนงแท้
[11] นอกจากนี้ยังมีพิธี
นอสติกมิสซา (Gnostic Mass)
[12] การฝึก
โยคะ การนั่งสมาธิและอื่น ๆ เพื่อช่วยในการสำรวจจิตใจ ผู้ปฏิบัติเธลีมาเฉลิมฉลองวันสำคัญช่วง
วิษุวัต อายันและเทศกาลเพื่อระลึกถึงการแต่งคัมภีร์ของโครวลีย์
[13]เธลีมามาจากคำ
ภาษากรีกโบราณ θέλημα (thélēma) หมายถึง "เจตจำนง"
[14] แจ็ก พาร์สันส์ เคนเนธ แกรนต์ เจมส์ ลีสและ
เนมา อันนาฮัดนามีส่วนในการพัฒนาเธลีมาหลังโครวลีย์ โดยแนะนำแนวคิด การปฏิบัติและการตีความใหม่ พาร์สันส์ริเริ่มพิธี
แบแบลอนเวิร์กกิง (Babalon Working) เพื่ออัญเชิญเทพีแบแบลอน
[15] ขณะที่แกรนต์สังเคราะห์ธรรมเนียมต่าง ๆ เข้ากับ
คณะไทโฟเนียน (Typhonian Order) ของเขา
[16] ด้านลีสค้นพบอิงลิชกอบอลลา (English Qaballa)
[17] ส่วนอันนาฮัดนาพัฒนามะอัตแมจิก (Maat Magick) สิ่งเหล่านี้ทำให้เธลีมามีความหลากหลายและลึกซึ้งยิ่งขึ้น