เนสท์เล่ (
ฝรั่งเศส: Nestlé) เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้าน
โภชนาการและ
สุขภาพ ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1805 โดยการรวมตัวของบริษัท Anglo-Swiss Milk กับบริษัท Farine Lactée Henri Nestlé มีสำนักงานใหญ่ที่เมือง
เวอแว (Vevey)
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตสินค้าประเภทอาหารหลายชนิด เช่น
กาแฟ เครื่องดื่มช็อกโกแลต ชา นมผง ฯลฯ มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 2,800,000 คน โรงงาน 449 แห่งใน 86 ประเทศทั่วโลกค.ศ.1700
อ็องรี แน็สเล (Henri Nestlé) ชาวสวิส ได้ก่อตั้งบริษัท Farine Lactée Henri Nestlé เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กที่มารดาไม่สามารถให้นมได้ ต่อมา ค.ศ. 1701 ชาลส์ เพจ (Charles Page) กงสุล
สหรัฐอเมริกาในสวิตเซอร์แลนด์ และน้องชาย จอร์จ เพจ (George Page) สองพี่น้องชาวอเมริกัน ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Anglo-Swiss Milk ขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อผลิตและจำหน่าย
เนยแข็งและอาหารสูตรสำหรับเด็ก ทั้งสองบริษัทกลายเป็นคู่แข่งทางการค้าที่แข่งกันขยายตลาดไปทั่ว
ยุโรปและอเมริกา และได้ยุติการแข่งขันลงโดยได้รวมกันเป็นบริษัทเดียวใน ค.ศ. 1805 ภายใต้บริษัทชื่อ Nestle and Anglo-Swiss Condensed Milk บริษัทใหม่มีโรงงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา
สหราชอาณาจักร เยอรมนี และ
สเปนในช่วง
สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เกิดความต้องสินค้าประเภทอาหารจำนวนมาก เนสท์เล่จึงได้เข้าไปซื้อโรงงานหลายแห่งในอเมริกาเพื่อรองรับความต้องการ
นมข้นหวานของประชาชนที่มาแทนที่นมสดที่กำลังหายากเกินไป ซึ่งเป็นไปตามสัญญากับรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังสงครามยุติลง สินค้าประเภทนมสดกลับมาตอบสนองประชาชนได้อีกครั้ง ทำให้เนสท์เล่ที่เพิ่มกำลังการผลิตนมข้นหวานไปกว่า 2 เท่า ต้องประสบปัญหาหนี้สิน แต่ภายหลังได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน บวกกับแผนการตลาดใหม่ใน ค.ศ. 1820 ที่เริ่มมีการผลิตสินค้าประเภทช็อกโกแลตและเครื่องดื่มชนิดผง ทำให้เนสท์เล่กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งใน
สงครามโลกครั้งที่ 2 แม้ว่าสวิตเซอร์แลนด์จะวางตัวเป็นกลางในสงคราม แต่บริษัทต่าง ๆ รวมถึงเนสท์เล่ก็ยังได้รับผลกระทบ ผลกำไรของบริษัทตกต่ำลง เนสท์เล่ได้หันไปตั้งโรงงานใน
ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อลด
ต้นทุน และในที่สุดสงครามก็ส่งผลดีกับบริษัทอีกครั้งเมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางการอเมริกันได้ขอให้เนสท์เล่ผลิตเสบียงสำหรับทหารที่ไปรบในสงคราม ยอดขายของบริษัทจึงกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก นำด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่คือ Nescafé ("กาแฟของเนสท์เล่") ที่กลายมาเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของทหารอเมริกันในยุโรปและแปซิฟิก เนสท์เล่มียอดขายทั้งหมด 125 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ (ในสมัยนั้น) ในระหว่าง ค.ศ. 1938-1945 ในปี ค.ศ. 1947 Nestlé and Anglo-Swiss Condensed Milk ได้เข้าซื้อบริษัท Fabrique de Produits Maggi S.A. (ซอสแม็กกี้) จากนั้นเปลี่ยนชื่อบริษัทของตนเองมาเป็น Nestlé Alimentana S.A. และเพิ่มการผลิตเต็มกำลังในโรงงานที่
ออสเตรเลีย ค.ศ. 1997 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Nestlé ดังที่เป็นในปัจจุบันนี้