ประวัติ ของ เปรื่อง_ชื่นประโยชน์

เปรื่อง ชื่นประโยชน์ เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของนายแปลก และนางพิณ ชื่นประโยชน์ ศึกษาที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย แต่ไม่ชอบ จึงลาออกมาเป็นนักเรียนดุริยางค์ที่กองดุริยางค์ทหารบก มีผลงานแต่งเพลง เพลงแรกตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี ชื่อเพลง "เพื่อนรักเก่า" ขับร้องโดย เฉลา ประสบศาสตร์ เรียบเรียงเสียงประสานโดย ครูนารถ ถาวรบุตร

ครูเปรื่องเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกับมงคล อมาตยกุล และเชาว์ แคล่วคล่อง เป็นนักดนตรีบรรเลงตามโรงละคร และโรงภาพยนตร์ และตระเวนออกแสดงไปกับคณะจันทโรภาส ของพรานบูรพ์ และย้ายมาเป็นนักแต่งเพลงประจำวงดนตรีดุริยะโยธิน ในปี พ.ศ. 2494

ผลงานแต่งเพลงของครูเปรื่องเริ่มเป็นที่ยอมรับ โดยมีผลงานแต่งเพลงละครร่วมกับครูเพลงท่านอื่น เช่น มงคล อมาตยกุล, ชาลี อินทรวิจิตร, ส. อาสนจินดา, เสน่ห์ โกมารชุน, สุวัฒน์ วรดิลก เป็นต้น

ในปี พ.ศ. 2501 ครูเปรื่องก่อตั้งวงดนตรี "ป. ชื่นประโยชน์" ขึ้นรับงานทั่วไป เปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่สี่แยกบางขุนพรหม และแต่งตำราวิชาดนตรีออกเผยแพร่ และยังได้เป็นหัวหน้าวงดนตรีพินทุสร ของ องค์การ ร.ส.พ.

เพลงที่มีชื่อเสียงของครูเปรื่อง ได้แก่เพลง "มารหัวใจ" ขับร้องโดย วริษา เศวตรักษ์ "พ่อพระในดวงใจ" ขับร้องโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี "มนต์รักเรียกหา" ขับร้องโดย สุเทพ วงศ์กำแหง "คอย" และ "สักวันหนึ่ง" ขับร้องโดย นริศ อารีย์ "จ้าวหัวใจ" ขับร้องโดย นิรมล อิศรางกูร ณ อยุธยา

ครูเปรื่องได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2507 จากเพลง "มารหัวใจ" และ พ.ศ. 2509 จากเพลง "ไม่มีวัน" ทั้งสองเพลงขับร้องโดยสวลี ผกาพันธุ์ โดยเฉพาะเพลงไม่มีวัน ได้รับรางวัลทั้งในสาขาทำนอง คำร้อง และเรียบเรียงเสียงประสานยอดเยี่ยม

ครูเปรื่องได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2538 ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2544 อายุ 79 ปี

ใกล้เคียง

เปรื่องปราชญ์ ประสาตร์สาน เปรื่อง ชื่นประโยชน์ เปรื่อง สุจริตกุล เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เรื่องเล่าเช้านี้ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า