เนื้อเรื่อง ของ เปลวฟ้าผ่าปฐพี

ภาคศึกโลกมืด

ในอดีตของญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ. 1500 - ค.ศ. 1700 นินจาเงาอัคคีมีชื่อเสียงโด่งดังและมีความรุ่งเรื่องถึงขีดสุด มีชื่อเสียงในเรื่องของความสามารถในการสร้างอาวุธพลังจิตขึ้นมาหลายอย่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ อาวุธอสูรเป็นอาวุธที่มีความแปลกพิสดารในตัวเอง เกิดจากการใช้พลังหยินและหยาง รวมทั้งศาสตร์ทางด้านฮวงจุ้ย[1] เรกกะและคุเร เป็นพี่น้องต่างมารดาของโอกะ หัวหน้านินจาเงาอัคคีรุ่นที่ 6 ที่เกิดในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เรกกะเกิดจากคาเงโฮชิ ภรรยาคนที่หนึ่ง คุเรเกิดจากเรนนะ ภรรยาคนที่สอง ตามกฎของเงาอัคคี ผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้านินจางาอัคคีมีเพียงคนเดียว คุเรถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวกาลกิณีแห่งหมู่บ้านและถูกกำจัด

ต่อมาหมู่บ้านนินจาเงาอัคคีถูกกองทัพของโอดะ โนบุนากะโจมตี เพื่อทำลายอาวุธพลังจิต โอกะตายในสนามรบ คาเงโฮชิต้องการจะช่วยชีวิตเรกกะให้มีชีวิตรอดต่อไป ใช้วิชาต้องห้ามส่งเรกกะข้ามมิติเวลา โดยมีคุเรติดตามไปด้วยความเคียดแค้น จากการที่คาเงโฮชิใช้วิชาต้องห้าม ส่งผลให้ร่างกายกลายเป็นอมตะ ไม่แก่ไม่ตาย และทนทุกข์ทรมานมาตลอดระยะเวลา 400 ปี [2] เรกกะข้ามมิติเวลามาพร้อมกับคุเร และเติบโตและใช้ชีวิตแบบเด็กหนุ่มธรรมดา อาศัยอยู่กับบิดาที่มีอาชีพเป็นช่างทำดอกไม้ไฟและพลุ

เรกกะเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ชื่นชอบนินจาในสมัยสงครามเป็นอย่างมาก มี คิริซาวะ ฟูโกะ เพื่อนเล่นในสมัยเด็ก ๆ และเรียนหนังสือด้วยกันเป็นเพื่อนสนิท ฟูโกะพยายามโจมตีและเอาชนะเรกกะทุกครั้งที่มีโอกาสแต่ก็ไม่สำเร็จ เรกกะพบกับซาโคชิตะ ยานางิ สาวน้อยผู้มีจิตใจดีงามและมีพลังพิเศษในการรักษาบาดแผล เรกกะประทับใจในตัวยานางิจึงขอสาบานตนเป็นนินจาคุ้มครองยานางิพร้อมกับเรียกยานางิว่าองค์หญิง ข่าวการเป็นนินจาให้ยานางิของเรกกะสร้างความไม่พอใจให้กับ คิริซาวะ ฟูโกะ และ อิชิจิมะ โดมอน จึงพยายามท้าเรกกะต่อสู้ แต่ไม่สามารถเอาชนะเรกกะได้ คาเงโฮชิ หญิงลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือฟูโกะพร้อมกับมอบอาวุธพลังจิตเทพวายุ อาวุธพลังจิตที่สามารถบังคับสายลมและสร้างพายุได้แก่ฟูโกะ[3]

ฟูโกะถูกเทพวายุควบคุม เรกกะและโดมอนติดตามมาช่วยเหลือฟูโกะจนได้สติกลับคืนมา พร้อมกับการปรากฏตัวของคาเงโฮชิ นินจาเงาอัคคีและจุดประสงค์ของการปรากฏตัว มิคางามิ โทคิยะ เป็นนักเรียนทุนที่มาเรียนตามคำสั่งของคาเงโฮชิเพื่อจับตาดูเรกกะ มีอาวุธอสูรเอ็นซูยในครอบครอง ทาเทซาโค อาจารย์ของเรกกะ เป็นผู้รอบรู้ในเรื่องของนินจาโดยเฉพาะนินจาเงาอัคคี ถูกคุเรจับตัวไปตามคำสั่งของโมริโครัน ผู้มีอำนาจในโลกมืด ยานางิที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกจับตัวไปด้วย เรกกะ ฟูโกะและโดมอนขอร้องคาเงโฮชิให้บอกข้อมูลที่ซ่อนตัวของคุเรและบุกไปเพื่อช่วยยานางิและทาเทซาโค[4]

ที่คฤหาสน์ของคุเร เรกะและเพื่อน ๆ ต่อสู้กับเรรัน เซกิโอและโคงาเนอิ คาโอรุ โดยมีมิคางามิที่ติดตามมาช่วยเหลือ เมื่อเผชิญหน้ากับคุเร ที่สามารถควบคุมเปลวเพลิงภายในตัวได้ เรกกะไม่สามารถเอาชนะคุเรได้ จึงปลดผนึกที่แขนขวาทำให้แปดมังกรเพลิงในตัวเป็นอิสระ เรกกะขอยืมพลังจากแปดมังกรเพื่อต่อสู้กับคุเรและคุเรไนซึ่งเป็นเปลวเพลิงของคุเร และช่วยยานางิและทาเทซาโคได้สำเร็จ หลังจากการต่อสู้กับคุเร คาเงโฮชิเปิดเผยความจริงที่ตนเองเป็นแม่ของเรกกะ และคุเรเป็นพี่ชายต่างมารดาซึ่งทายาทของนินจาเงาอัคคีทั้งคู่ เรกกะปลดผนึกแปดมังกรอีกครั้งและสามารถควบคุมมังกรเพลิงได้สองตัวคือไซฮะและนาดาเระ คุเรและโมริ โครัน จัดงานประลองแห่งโลกมืดขึ้น คุเรท้าให้เรกกะและเพื่อน ๆ เข้าร่วมการประลองโดยมีเงื่อนไขที่ผู้แพ้จต้องมอบอาวุธและทรัพย์สินที่มีให้แก่ผู้ชนะ ซึ่งทรัพย์สินที่คุเรต้องการคือหญิงสาวผู้มีพลังรักษา ซาโคชิตะ ยานางิ[5]

เรกกะและเพื่อน ๆ เข้าแข่งขันงานประลองแห่งโลกมืด และได้โคงาเนอิ คาโอรุ มาร่วมทีม โดยแข่งในรอบแรกกับทีมคู และในรอบสองกับทีมอุรุฮะ (มายา) เรกกะและเพื่อน ๆ สามารถเอาชนะได้ทั้งสองรอบ และได้มังกรเพลิงโฮมุระและเซ็ตสึนะมาครอบครอง ก่อนแข่งขันรอบสามกับทีมอุรุฮะ (คีตะ) และทีมอุรุฮะ (อสูร) ซึ่งได้มังกรเพลิงมาโดกะและรุย เรกกะและเพื่อน ๆ สามารถผ่านการแข่งขันในรอบสายต่าง ๆ จนถึงรอบขุนพล พบกับทีมอุรุฮะ (คุเรไน) ที่มีคุเรเป็นหัวหน้าทีม เรกกะถูกเฒ่าปริศนาปลดผนึกมังกรและพาไปยังห้วงความคิดภายในตัวเรกกะ เพื่อแย่งชิงแปดมังกรกลับคืน ในรอบขุนพล เรกกะได้มังกรเพลิงโคคู มังกรเพลิงที่มีพลังมากที่สุดในแปดมังกรมาครอบครอง และต่อสู้กับคุเรอย่างสูสีจนเอาชนะคุเรได้สำเร็จ หลังการต่อสู้ คุเรถูกโมริ โครันและโมคุเร็น อดีตอุรุฮะ (มายา) หักหลังและยิงตกทะเล คุเรได้เนออน หนึ่งในทศเทพของคุเรช่วยชีวิตจนปลอดภัย และหวนกลับมาล้างแค้นโมริ โครันอีกครั้ง[6]

ภาคสวรรค์มิคสัญญี

ภายหลังจากเสร็จสิ้นศึกโลกมืด เรกกะและทีมเงาอัคคี ถูกตามล่าจากอุรุฮะเบื้องหลังที่รับใช้โมริ โครัน โดยมีราเซ็นและคิรินเป็นหัวหน้า โมริ โครันค้นพบอาวุธอสูรต้องห้าม "สวรรค์มิคสัญญี" และต้องการครอบครองเพื่อความเป็นอมตะ แต่ในการครอบครองสวรรค์มิคสัญญีต้องอาศัยพลังของหญิงสาวที่มีพลังในการรักษาอย่างยานางิ เรกกะและเพื่อน ๆ ออกติดตามค้นหาสวรรค์มิคสัญญีตามคำบอกของโคคู หนึ่งในแปดมังกรเพลิงของเรกกะ โจ๊กเกอร์ หนึ่งในทศเทพของคุเรช่วยนำทางให้ เรกกะ ฟูโกะ โดมอน มิคางามิและโคงาเนอิ ต่อสู้กับอุรุฮะเบื้องหลัง เพื่อเปิดเส้นทางไปยังสถานที่ซ่อนของสวรรค์มิคสัญญี และทำลายก่อนที่โมริ โครันไปพบ[7]

เก็นจูโร่ หนึ่งในอุรุฮะ (มายา) ของคุเร ทรยศหักหลังมาสวามิภักดิ์กับโมริ โครัน และช่วยสร้างเรนเง ซึ่งเป็นผู้ใช้เปลวเพลิงที่เกิดจากเซลล์ของคุเรและคุเรไน เรกกะพบที่ซ่อนสวรรค์มิคสัญญี อาวุธอสูรที่สร้างโดยไคมะ ซึ่งอาวุธอสูรเลือกโมริ โครัน ที่มีความโลภและความต้องการเป็นอมตะเป็นผู้ครอบครอง แทนการเลือกเรกกะ ซึ่งเป็นสายเลือดเงาอัคคี คุเรไม่ตายอย่างที่โมริคาดหวังไว้ และหวนกลับมายังสถานที่ซ่อนสวรรค์มิคสัญญี และช่วยเรกกะกำจัดโมริ โครัน แต่อาโอย หนึ่งในสี่ยมทูตของโมริ โครัน ชิงตัวตัวยานางิเพื่อเป็นเครื่องสังเวยในการรวมร่างกับสวรรค์มิคสัญญี

เรกกะ ฟูโกะ โดมอน มิคางามิ โคงาเนอิ และคาเงโร่ บุกเข้ายังโซดอม สถานที่ใช้สำหรับรวมร่างกับอาวุธอสูร เรกกะและทุกคนในเงาอัคคี ต้องเล่นเกมความตายด้วยการชิงแผ่นดิสก์คำบอกปริศนาในแต่ละด่าน เพื่อหาสถานที่สุดท้ายซึ่งเป็นที่อยู่ของยานางิ เรกกะและเพื่อน ๆ ผ่านด่านแต่ละด่านพร้อมกับแผ่นดิสก์คำปริศนา และต่อสู้กับด่านสุดท้ายคือสี่ยมทูตได้แก่อาโอย ฮิรุโกะ คิริโตะและโดเด็ทสึ ทีมคูติดตามมาช่วยเหลือเรกกะและทุกคนในทีมเงาอัคคี ตามคำขอร้องของคาเงโร่ เงาอัคคีบุกตะลุยไปจนถึงด่านสุดท้ายคือที่อยู่ของยานางิและโมริ โครัน

ไคมะ โมริ โครัน รวมร่างกับสวรรค์มิคสัญญี เกิดเป็นร่างใหม่คือเทนโด จิโกกุ คุเรบุกเข้าโซดอม ต่อสู้กับเรนเงและปล่อยหลบหนีไป เรนเงหลบหนีคุเรมาหาโมริ โครัน แต่ต้องตายกลายเป็นเหยื่อของเทนโด จิโกกุ เรกกะพยายามช่วยเหลือยานางิแต่ไม่สำเร็จ อาโอยและฮิรุโกะ ยอมกลับใจมาช่วยเหลือยานางิและเรกกะ แต่โชคร้ายยานางิถูกกลืนเข้ารวมร่างกับเทนโด จิโกกุ ทำให้เรกกะตัดสินใจใช้พลังของมังกรเพลิงเรกชิน ในการเปลี่ยนวิญญาณยานางิมาเป็นเปลวฟ้าของตนเอง และกำจัดเทนโด จิโกกุ สำเร็จ แปดมังกรเพลิงถูกปลดปล่อยจากคำสาป คุเรไนและจิโซได้รับการปลดปล่อยจากคุเร พร้อมกับการล่มสลายของอาวุธอสูรที่ชั่วร้ายอย่างสวรรค์มิคสัญญี