ประวัติ ของ เพลย์โดว์

จุดเรื่มต้น

วัตถุสร้างจากเพลย์โดว์

เพลย์ โดว์ หรือแป้งโดว์ เป็นที่รู้จักกันว่าไร้สารพิษ ไม่มีการย้อมสี สามารถนำมาใช้ปั้นให้เป็นรูปร่างใหม่ ๆ ได้อีก แต่แท้จริงแล้วเพลย์โดว์เป็นสารที่ยืดหยุ่นง่าย คล้ายๆกับพวกปูนที่ใช้อุดรอยรั่ว คิดค้นโดย โนอาห์ แมควิคเกอร์ ซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัท คูตอล โปรดักส์ ผลิตสารตั้งต้นของสบู่ ในเมืองซินซินเนติ เริ่มต้นจากโครเจอร์ โกรเซอรีมาขอให้ผลิตสินค้าที่ใช้สำหรับทำความสะอาดคราบตกค้างของถ่านที่ติดที่ผนังห้อง[5] แต่ในช่วงหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่สองมีการใช้แก๊สธรรมชาติมาแทนการเผาถ่านหินเพื่อให้ความอบอุ่นในบ้าน ทำให้เขม่าควันที่เกิดขึ้นในบ้านลดลง ประกอบกับมีการใช้ผนังห้องแบบไวนิลที่สามารถล้างออกได้ง่ายเข้ามาแทนผนังแบบเก่า ทำให้ตลาดธุรกิจของสินค้าที่ใช้ทำความสะอาดผนังซบเซาลงอย่างมาก โจ แมควิคเกอร์ (หลายชายของแมควิคเกอร์) ร่วมงานกับคูตอล พยายามประคองไม่ให้บริษัทล้มละลาย เขาพบว่า มีการใช้สินค้าทำความสะอาดคราบผนังนี้ไปประดับต้นคริสมาสต์ตามโรงเรียนเด็กเล็กต่าง ๆ[1]

การนำเสนอสินค้า

โจ แมควิคเกอร์ ได้นำเสนอสินค้าเพลย์โดว์ในงานประชุมทางการศึกษากับบริษัทที่คอยหาสินค้าให้กับโรงเรียนต่าง ๆ[1] และห้างชื่อดังวู้ดเวิด แอนด์ โลธอปในเมืองวอชิงตัน, ดีซี เริ่มวางขายสินค้าเพลย์โดว์[6] ในปี 1956 ตระกูลแมควิคเกอร์ได้ก่อตั้งบริษัทเรนโบว์ คราฟท์เพื่อผลิตและจำหน่ายเพลย์โดว์[7] และในปีเดียวกันนี้ มีการเพิ่มไลน์การผลิตของเพลย์โดว์แบบแพ็คสามกระป๋อง (กระป๋องละ 7 ออนซ์) และมีการสาธิตตามร้านค้าต่าง ๆ ต่อมามีการเปิดร้านขายในห้างเมซี่ในนิวยอร์ก และห้างมาร์แชล ฟิลด์ในชิคาโก เมื่อปี 1957 ด็อกเตอร์เทียน หลิว (นักเคมีวิทยา)ได้ลดปริมาณของเกลือในเพลย์โดว์(เพื่อให้แป้งโดว์แห้งโดยที่สีไม่ซีด) มีการโฆษณาเพลย์โดว์ทางโทรทัศน์ตามรายการเด็กต่าง ๆ กัปตันจิงโจ้, โรงเรียนดิงดอง, และ ห้องรอมเปอร์ ในปี 1958เพลย์โดว์มียอดขายเกือบ 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ.[1]

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ในปี 1964 เพลย์โดว์ส่งออกไปประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี[1] ช่วงยุค 1980 ได้เลิกใช้กระดาษแปะข้างกระป๋อง (รวมถึงฝาข้างใต้ที่ทำจากเหล็กทำให้เกิดสนิม) มาใช้กระป๋องพลาสติกซึ่งเก็บได้ดีกว่าแทน[8] ก่อนนั้นในปี 1965 บริษัทเรนโบว์ คราฟท์จดสิทธิบัตรเพลย์โดว์ไว้[9] แต่ต่อมาในปีเดียวกันนั้น เจอเนรัล มิลส์ ซื้อเรนโบว์ คราฟท์ ทั้งหมดรวมถึงเพลย์โดว์ ในราคา 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และได้ใช้สารประกอบของเคนเนอร์ โปรดักส์เองแทนสารประกอบเดิม.[1][6] ในปี 1971 ได้รวมบริษัทเรนโบว์ คราฟท์ และ เคนเนอร์ โปรดักส์ เข้าด้วยกันและในปี 1987 ตันก้า คอร์ปอเรชั่น ได้ซื้อขึ้นมาทั้งหมด ต่อมาปี 1991แฮสโบร กลายมาเป็นเจ้าของสินค้าเพลย์โดว์ และผลิตจำหน่ายมาจนถึงทุกวันนี้ ผ่านบริษัทลูกชื่อว่า เพลย์สคูล[1] ในปี 1996 เพลย์โดว์เพิ่มสีทอง และสีเงินเพื่อฉลองที่ครบรอบ 40 ปี

สัญลักษณ์

กลางปี 1950 ข้างกระป๋องเพลย์โดว์จะเป็นรูปวาดของเด็กๆ ต่อมาในปี 1960 ได้เปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์รูปภูตเอลฟ์ แต่ภายหลังก็เปลี่ยนมาใช้รูปเพลย์โดว์พีท เป็นการ์ตูนเด็กผู้ชายสวมเสื้อสม็อคและหมวกบาเรตต์[1] เมื่อปี 2002 ได้เปลี่ยนหมวกบาเรตต์ของพีทมาเป็นหมวกเบสบอลแทน[1] ตั้งแต่นั้นจะได้เห็นเพลย์โดว์พีทมีชีวิตร่าเริงในโฆษณาเรื่อยมา จากนั้นมีน้องใหม่ชื่อ ทับบี้ ในช่วงพบปะพูดคุยที่งานมหกรรมของเล่น ปี 2012

แหล่งที่มา

WikiPedia: เพลย์โดว์ http://www.cbc.ca/undertheinfluence/season-1/2012/... http://www.allbusiness.com/manufacturing/miscellan... http://cincinnati.com/blogs/ourhistory/2013/01/24/... http://www.failedsuccess.com/index.php?/weblog/com... http://books.google.com/books?id=F2ApK7QnbPUC&pg=P... http://books.google.com/books?id=jftapGDTmYUC&pg=P... http://www.hasbro.com/playdoh/en_US/About.cfm?page... http://entertainment.howstuffworks.com/play-doh.ht... http://www.ideafinder.com/history/inventions/playd... http://patimg1.uspto.gov/.piw?Docid=03167440&homeu...