ประวัติ ของ เฟอานอร์

เฟอานอร์เป็นโอรสองค์ใหญ่ของฟินเว กษัตริย์แห่งโนลดอร์ กับชายาองค์แรกคือมีริเอล เขาถือกำเนิดในนครทิริออน นครหลวงของพวกเอลฟ์บนแผ่นดินอามัน มารดาของเฟอานอร์สิ้นพระชนม์เมื่อให้กำเนิดพระองค์ ชื่อ 'เฟอานอร์ (Fëanor) ' เป็นชื่อมารดาตั้ง มีความหมายว่า "จิตวิญญาณแห่งอัคคี" ส่วนชื่อบิดาตั้งคือ คูรูฟินเว (Curufinwë) มีความหมายว่า 'บุตรแห่งฟินเวผู้เปี่ยมฝีมือ' หลังจากพระนางมีริเอลสิ้นพระชนม์ กษัตริย์ฟินเวอภิเษกชายาใหม่คืออินดิส เฟอานอร์จึงมีน้องชายต่างมารดาอีกสองคนคือ ฟิงโกลฟิน และ ฟินาร์ฟิน

เมื่อเฟอานอร์เจริญวัยได้แต่งงานกับแนร์ดาเนล บุตรสาวของมัคทันนายช่างใหญ่ มีโอรสเจ็ดองค์คือ มายดรอส มากลอร์ เคเลกอร์ม คารันเธียร์ คูรูฟิน อัมร็อด และอัมรัส

เฟอานอร์ได้สร้างความก้าวหน้าทางวิทยาการหลายประการให้แก่โลกอาร์ดา ตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ทรงคุณค่าของเขาได้แก่ อักขระเทงกวาร์ พาลันเทียร์ เฟอานอร์ยังได้คิดค้นวิธีการทำเหมือง การสกัดแร่ และการเจียระไนอัญมณี งานสร้างอัญมณีที่สำคัญของเขาคือการสร้างซิลมาริล อันเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ภายในซิลมาริลบรรจุแสงแห่งทวิพฤกษาไว้ด้วย

ต่อมาเมื่อเมลคอร์ พ้นจากการจองจำ และแก้แค้นเหล่าวาลาร์โดยการทำลายทวิพฤกษา เขาสังหารฟินเว ขโมยซิลมาริลแล้วหนีไปยังมิดเดิ้ลเอิร์ธ ทำให้เฟอานอร์โกรธแค้นถึงกับสาบานจะไล่ล่าล้างแค้นเมลคอร์ไปจนสิ้นโลก และตั้งสมญาให้เมลคอร์ใหม่ว่า มอร์กอธ คำสาบานของเฟอานอร์และโอรสทั้งเจ็ดมีชื่อเรียกว่า คำสาบานของเฟอานอร์ ซึ่งเป็นคำสาบานอันร้ายกาจที่นำมาซึ่งความพินาศของชาวโนลดอร์ทั้งปวง ตลอดจนผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับซิลมาริล เฟอานอร์นำบุตรชายทั้งเจ็ดและชาวโนลดอร์จำนวนมากติดตามมอร์กอธมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ ระหว่างทางเขาทำสงครามกับเอลฟ์ชาวเทเลริที่นครอัลควาลอนเด เนื่องจากชาวเทเลริไม่ต้องการให้เฟอานอร์นำเรือของพวกตนไปใช้ไล่ล่ามอร์กอธ สงครามครั้งนั้นมีชื่อเรียกว่า สงครามประหัตประหารญาติ

ทัพชาวโนลดอร์ได้เดินทางมาจนถึงมิดเดิ้ลเอิร์ธ และได้ทำสงครามขับเคี่ยวกับมอร์กอธหลายครั้งดังปรากฏอยู่ใน ซิลมาริลลิออน เฟอานอร์สิ้นพระชนม์หลังจากชาวโนลดอร์ได้รับชัยชนะใน การสัประยุทธ์ใต้หมู่ดาว เนื่องจากพระองค์ไล่ติดตามทัพของมอร์กอธไปเพียงลำพังจนตกอยู่ในวงล้อม และถูกแส้ของกอธม็อก เจ้าแห่งบัลร็อก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เฟอานอร์สิ้นพระชนม์ที่เชิงเขาเอเร็ดเวธริน โดยอัคคีภายในกายเผาไหม้ร่างของพระองค์กลายเป็นจุณ