ประวัติ ของ เยซ็อง

เยซ็องเป็นชายหนุ่มที่รักในเสียงเพลง เขาพยายามฝึกซ้อมดนตรีการขับร้องอย่างหนักโดยไม่ฟังใคร ในขณะเดียวกัน ผลการเรียนของเขาในขณะนั้นก็พากันดิ่งลงเหวไปตามระเบียบ ทั้งๆที่เยซ็องเป็นคนที่มีผลการเรียนดี จนคุณแม่ของเขาถึงกับเดินเข้ามาในห้องและทำลายเครื่องเสียงทิ้ง เยซ็องเป็นคนที่มุมานะและมีความพยายามมาก เขานั่งรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับบ้านในเวลาเที่ยงคืนหลังจากเรียนพิเศษวิชาการขับร้องพร้อมกับ ยุนโฮ สมาชิกที่ได้เดบิวต์เข้าไปในวง ทงบังชินกี ก่อนหน้าที่จะได้เดบิวต์เยซ็องท้อแท้ใจมาก เพราะฐานะครอบครัวค่อนข้างไม่ดี อายุก็เริ่มเยอะขึ้นทุกวัน หากว่ายังไม่ได้เดบิวต์เสียที เขาก็ไม่มีเงินไปจุนเจือครอบครัว ดังนั้น เมื่อเยซ็องได้รับประกาศนียบัตรวุฒิอนุปริญญา (ก่อนเดบิวต์เพียงไม่กี่เดือน) เขาตั้งใจว่าจะออกจากการเป็นเด็กฝึกหัดไปหางานทำ แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผัน เมื่อทางต้นสังกัดได้เลือกให้เขากับเพื่อนๆอีก 11 คน ได้เปิดตัวเป็นศิลปินใหม่ในนาม Super Junior ทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงเสียที ซึ่งเยซ็องได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง เมื่อมีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ของเขาและจงจินน้องชายของเขา เขาจึงได้เปิดร้านอาหาร'พับโทล' (เกาหลี:밥톨) อยู่หน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก หรือในบริเวณที่เรียกว่าฮงแดในตัวเมืองโซล ให้ครอบครัวช่วยกันดูแล แต่ปัจจุบันได้ถูกปิดตัวลงแล้ว และไปเปิดร้าน Hendel & Gretel แทนที่หน้าตึก KBS และเปิดร้าน WHYSTYLE (ร้านแว่นตา) ที่มยองดง เขาเป็นคนรักสัตว์มากคนหนึ่ง โดยเลี้ยงเต่าไว้ที่ห้องชื่อว่าตังโกม่า (ปัจจุบันเขาได้นำตังโกม่าไปบริจาคให้กับสวนสัตว์แล้ว เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพที่ตังโกม่าต้องมีสถานที่สำหรับการจำศีล หากยังอยู่ในความดูแลของเขา อาจจะไม่เป็นผลดี) เยซ็องเป็นคนรักสุขภาพ โดยที่เขาไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เลย แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเขาสุขภาพไม่ค่อยดี เป็นโรคนอนไม่หลับและมีอาการเจ็บหลังเรื้อรังเนื่องจากการใช้งานร่างกายที่หนักเกินไป