เบื้องหลัง ของ เรสเซิลเมเนีย_ครั้งที่_22

เรย์ มิสเตริโอ ซึ่งเขาได้เป็นความหวังของตระกูล เกอร์เรโร ที่จะได้เป็นแชมป์คนต่อไป เนื่องจากเรย์ เป็นนักมวยปล้ำ ชาวอเมริกัน เชื้อสาย เม็กซิกัน ที่ยัง มีผลงานที่ดีอยู่ เขาจึงเอาชนะ ทริปเปิล เอช และ แรนดี ออร์ตัน ในศึก รอยัลรัมเบิล (2006) ได้ไปท้าชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เคิร์ต แองเกิล ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ต่อมาในศึก สแมคดาวน์ ออร์ตัน ได้ออกมาท้าเรย์ ให้เจอกันในศึก โนเวย์เอาท์ โดยมีสิทธิ์ท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเรสเซิลเมเนีย ของเรย์ เป็นเดิมพัน ซึ่งเรย์ ก็ยอมรับคำท้า เพราะออร์ตัน ได้ใช้คำพูดดูถูกถากถาง เอ็ดดี เกอร์เรโร เพื่อนของเรย์ ที่ล่วงลับไปแล้ว และผลปรากฏว่า ออร์ตัน ได้เอาชนะเรย์ ได้ด้วยวิธีการจับเชือกแล้วกดนับ 3 ทำให้เรย์ เสียสิทธิ์ชิงแชมป์ ให้กับออร์ตันไป ต่อมา ทีโอดอร์ ลอง ผู้จัดการทั่วไปของสแมคดาวน์ ได้เห็นภาพที่ออร์ตัน ชนะเรย์ ด้วยกลโกง ทีโอดอร์ ลอง จึงให้สิทธิ์ เรย์เข้าไปชิงแชมป์ได้เหมือนเดิม แต่ออร์ตัน ก็ยังต้องได้ชิงแชมป์ด้วยเพราะผลตัดสินไปแล้ว ทำให้กลายเป็นแมตซ์ 3 เส้า ระหว่าง เคิร์ต แองเกิล , เรย์ มิสเตริโอ และ แรนดี ออร์ตัน โดยมีเข็มขัด แชมป์โลกเฮฟวี่เวท เป็นเดิมพัน

ในศึกรอว์ นั้น ชอว์น ไมเคิลส์ ได้ออกมาบนเวที แล้วบอกกับ วินซ์ แม็กแมน ว่า ถึงเขาจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีฐานะร่ำรวย แต่สิ่งหนึ่งที่ วินซ์ แมคแมน ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ คือ การปล้นชัยชนะของ เบรต ฮาร์ต ในศึก เซอไวเวอร์ซีรีส์ 1997 จนทำให้เบรต ต้องลาออก หลังจากนั้นเป็นต้นมา วินซ์ก็มีเรื่องกับชอว์น อยู่เรื่อยมา ตั้งแต่ให้ชอว์น เจอกับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท หรือแม้แต่ ในศึก รอยัลรัมเบิล (2006) ที่วินซ์ และเชน แม็กแมน มาก่อกวนชอว์น จนทำให้ตกเวที หมดสิทธิ์การเป็นผู้ท้าชิงเข็มขัดในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชอว์นแค้นใจ เป็นอย่างมาก และก่อนจะถึง ศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 นั้น วินซ์ได้ออกมาท้าชอว์น ให้เจอกับตนในแมตช์ No Hold Barred (การปล้ำแบบไม่มีกฎ กติกา)

ใกล้เคียง

เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 40 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 39 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 37 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 36 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 35 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 38 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 34 เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33