เบื้องหลัง

WrestleMania ถือเป็นอีเวนต์เรือธงของ WWE ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1985 เป็นงานมวยปล้ำอาชีพที่ดำเนินมายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีระหว่างกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน[3] เป็นครั้งแรกของการจ่ายต่อการชมสี่ครั้งแรกของ WWE ซึ่งรวมถึง Royal Rumble, SummerSlam และ Survivor Series ซึ่งขนานนามว่า "Big Four"[4] WrestleMania ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์กีฬาที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่หกของโลกโดย Forbes[5] และได้รับการยกย่องว่าเป็น Super Bowl ของความบันเทิงด้านกีฬา[6] จะนำเสนอนักมวยปล้ำจากแผนกแบรนด์ Raw และ SmackDown แม้ว่า WrestleMania 36 จะมีนักมวยปล้ำจาก NXT แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันสำหรับ WrestleMania 37

WrestleMania 37 ได้รับการประกาศให้จัดขึ้นที่เมือง Inglewood รัฐแคลิฟอร์เนียที่ SoFi Stadium ในวันที่ 28 มีนาคม 2021 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ WrestleMania 21 จัดขึ้นที่มหานครลอสแอนเจลิสและครั้งที่ 7 ที่จัดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย (หลัง 2, VII, XII, 2000, 21 และ 31)[7][8] อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 มกราคม WWE ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า WrestleMania 37 จะจัดขึ้นที่สนามกีฬา Raymond James ในเมืองแทมปารัฐฟลอริดาโดยเป็นงานสองคืนในวันที่ 10–11 เมษายน 2021 โดยจะเป็น WrestleMania ครั้งที่ห้าที่จะจัดขึ้นในรัฐ ฟลอริดา (หลัง XXIV, XXVIII, 33 และ 36) ข้อมูลตั๋วกำลังจะมาถึงซึ่งจะทำให้ WrestleMania 37 เป็นงาน WWE ครั้งแรกที่มีแฟน ๆ เข้าร่วมตั๋วในช่วงการระบาดของ COVID-19[9] Stephanie McMahon หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของ WWE กล่าวว่า "ยังไม่มีข้อมูลตั๋วเพราะเรายังคงพยายามหาวิธีการทั้งหมดอยู่" เธอบอกว่าพวกเขามีแผนที่จะยอมรับว่ามีแฟนกี่คน แต่พวกเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยจำนวนนั้น[10]

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2021 WWE ประกาศว่าเครือข่าย WWE จะเผยแพร่โดย Peacock ในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใหม่กับ NBCUniversal ซึ่งออกอากาศ Monday Night Raw และ NXT ในเครือข่าย USA ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม WWE Network จะกลายเป็นช่องพรีเมียมของตัวเองภายใต้ Peacock ในขณะที่สมาชิก Peacock Premium จะสามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประเทศอื่น ๆ จะคงบริการเครือข่าย WWE แยกในปัจจุบันที่จัดจำหน่ายโดยการส่งเสริมการขายเอง WrestleMania 37 จะเป็น WrestleMania ตัวแรกที่ผลิตภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้[11][12]

เรื่องราว

เรสเซิลเมเนียกับประเภทแมตช์ปล้ำจะถูกกำหนดโดยการวางพล็อตเรื่องและเขียนบท โดยนักมวยปล้ำจะถูกวางตัวให้เป็นธรรมะ หรือ อธรรมทั้งหมดโดยการจัดแมตช์[13][14] นักมวยปล้ำบางคนเท่านั้นที่มีความบาดหมางกันจะได้มาแสดงที่เรสเซิลเมเนีย[15]

ทันทีหลังจาก WrestleMania 27 ในปี 2011 Edge ซึ่งเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในขณะนี้ต้องจำใจสละตำแหน่งเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่คออย่างรุนแรง จากนั้น Edge ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่ WWE Hall of Fame ในปี 2012[16][17] เก้าปีหลังจากการผ่าตัดคอสองครั้ง Edge ก็ได้กลับมาอีกครั้งอย่างเซอร์ไพรส์โดยเข้าร่วมแมตช์ Royal Rumble ปี 2020 อยู่ถึงสามคนสุดท้าย[18] ในปีต่อมา Edge ได้ประกาศเข้าร่วมแมตช์ Royal Rumble ปี 2021 โดยบอกว่าจะชนะเพื่อที่เขาจะได้ไปเป็นคู่เอก WrestleMania 37 และเป็นแชมป์โลกอีกครั้งโดยที่เขาไม่เคยเสียตำแหน่งเลย[19] ในแมตช์เมื่อวันที่ 31 มกราคม Edge เข้าร่วมโดยขึ้นเป็นลำดับแรกและชนะได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกที่เขาเลือกใน WrestleMania 37 ระหว่างแชมป์ WWE, แชมป์ Universal และแชมป์ NXT[20] โดย Edge เลือกที่จะชิงแชมป์ Universal กับ Roman Reigns[21] ก่อนจะเพิ่ม Daniel Bryan เป็นสามเส้า[22]

ในแมตช์ Royal Rumble ฝั่งหญิง Bianca Belair ได้เป็นผู้ชนะและได้สิทธิ์ชิงแชมป์หญิงที่เธอเลือกใน WrESTleMania 37 โดยสามารถเลือกระหว่างแชมป์หญิง Raw, แชมป์หญิง SmackDown และแชมป์หญิง NXT[20] โดย Bianca ประกาศเลือกชิงแชมป์หญิง SmackDown กับ Sasha Banks[23]

ใน Elimination Chamber หลังจากที่ Drew McIntyre สามารถป้องกันแชมป์ WWE ได้ในแมตช์กรงก็ถูก Bobby Lashley เล่นงานจนสะบักสะบอมเปิดโอกาสให้ The Miz ใช้สิทธิ์กระเป๋าสัญญา Money in the Bank คว้าแชมป์ไปได้[21] ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่าง Miz กับผู้จัดการ Hurt Buisness ของ Lashley อย่าง MVP ใน Raw 1 มีนาคม Miz มีคิวต้องป้องกันแชมป์กับ Lashley ในกติกา Lumberjack match และ Lashley คว้าแชมป์ไปได้ ทำให้เป็นแชมป์โลกของ WWE สมัยแรกของ Lashley นับตั้งแต่อยู่ในวงการมวยปล้ำมาเป็นเวลา 16 ปี[24] ใน Raw วันที่ 15 มีนาคม ได้มีการยืนยันว่า Lashley จะต้องป้องกันแชมป์กับ McIntyre ใน WrestleMania 37[25]

หลังจากโปรโมตอยู่หลายสัปดาห์ Rhea Ripley ก็ได้เปิดตัวใน Raw 22 มีนาคม และได้ท้า Asuka ในการชิงแชมป์หญิง Raw ที่ WrestleMania 37[26]

ใน Raw วันที่ 15 มีนาคม หลังจากที่ The New Day (Kofi Kingston และ Xavier Woods) สามารถคว้าแชมป์แท็กทีม Raw ได้สำเร็จ ทางด้าน AJ Styles และบอดี้การ์ดของเขา Omos ก็ออกมาเพื่อท้าชิงแชมป์ใน WrestleMania 37 ซึ่งยังเป็นการเปิดตัวขึ้นปล้ำครั้งแรกของ Omos[25]

ใน Royal Rumble The Miz ได้ชักชวนแร็ปเปอร์ Bad Bunny ให้ตกลงที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์ WWE ภายใต้การปกครองของเขาอย่างไรก็ตาม Bunny ปฏิเสธข้อเสนอ ต่อมาในแมตช์ Royal Rumble 30 คน Miz ได้ทำลายอุปกรณ์ดีเจของ Bad Bunny ที่ริงไซด์ Bunny โกรธเลยมากวน Miz ปล่อยให้ Damian Priest กำจัดเขาลงจากเวที คืนต่อมาใน Raw Bunny เป็นแขกรับเชิญในรายการ "Miz TV" โดย Miz กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่ง Bunny ก็รับคำขอโทษ จากนั้น Miz ก็บอกว่าเค้าได้ยินมาจากนกรู้ว่า Bunny อยากเป็นสตาร์ WWE ซึ่ง Miz แนะนำตัวเองว่าสามารถช่วยได้เพราะเขาเคยสร้าง Daniel Bryan จากไม่มีอะไรเลยจนกลายเป็นคู่เอก WrestleMania แต่ Bunny ปฏิเสธข้อเสนอนี้ถึงแม้จะบอกว่ามันดีมากก็ตาม เพราะ Bunny บอกว่าเขามาที่นี้เพราะจะแนะนำเพื่อนของเขาเท่านั้นอย่าง Damien Priest และเอาชนะ Miz ไปได้[27] ในอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดมา Miz จะเหน็บแนม Bunny อยู่ตลอดเวลา ใน Raw 22 มีนาคม Miz ท้าให้ Bunny เจอกันที่ WrestleMania 37 หลังจากแมตช์ของ Miz จบลง Bad Bunny ได้เล่นงาน Miz และคำท้า[28] ใน Raw สัปดาห์สุดท้ายก่อน WrestleMania ได้มีการประกาศเปลี่ยนเป็นแมตช์แท็กทีมระหว่าง Bunny และ Priest ปะทะ Miz และ Morrison[29]

หลังจากที่ Braun Strowman ถูกออกจากแมตช์ Elimination Chamber ของ Raw นั้น Braun ก็มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ WWE อย่าง Shane McMahon และ Adam Pearce ในความพยายามที่จะแก้ไขสิ่งต่างๆ Shane ได้กำหนดให้ Braun ร่วมทีมกับ Pearce เจอกับ The Hurt Business (Cedric Alexander และ Shelton Benjamin) ชิงแชมป์แท็กทีม Raw โดย Braun จับ Benjamin ใส่พาวเวอร์สแลมและกำลังจะกดแต่ Shane สั่งให้แท็ก Pearce เข้ามาปล้ำแต่ถูกรวบกดแพ้ทำให้ Braun โกรธมากขึ้น[24] Shane ก็เริ่มดูถูกสติปัญญาของ Braun[24] จากนั้น Braun ก็ท้าให้ Shane เจอกันใน Raw 15 มีนาคม อย่างไรก็ตามแมตช์ยังไม่เริ่มอย่างเป็นทางการและทั้งสองก็ทะเลาะกันโดยที่ Shane เรียก Braun ว่าโง่ สิ่งนี้นำไปสู่แมตช์ที่กำหนดไว้ระหว่างทั้งสองที่ Fastlane[25] อย่างไรก็ตามที่ Fastlane แมตช์ก็ยังไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจาก Shane ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าของเขาในขณะฝึกซ้อมและเลือกให้ Elias ปล้ำแทนแต่ก็แพ้ Braun คืนต่อมาใน Raw Shane ร้องเพลงร่วมกับ Elias และ Jaxson Ryker และยังคงล้อเลียน Braun ว่าเป็นคนโง่อยู่ตลอดเวลา จากนั้น Braun ก็ออกมาและเอาชนะ Elias หลังขบแมตช์ Shane เอาไม้ค้ำยันตีใส่ Braun เป็นการเฉลยว่าแกล้งเจ็บ จากนั้น Shane ก็ถอยกลับไป Braun ได้ท้า Shane ที่ WrestleMania 37 และ Shane รับคำท้า[28] ต่อมาได้มีการเพิ่มกติกาเป็น Steel Cage หรือแมตช์ปล้ำในกรงเหล็ก[30]

ในช่วงปลายปี 2020 Randy Orton ได้เปิดศึกกับ The Fiend Bray Wyatt และเจอกันใน TLC ในรูปแบบกติกา Firefly Inferno match หรือเผาทั้งเป็น ซึ่ง Orton เป็นฝ่ายชนะโดยการราดน้ำมันและจุดไฟเผาร่างของ Fiend[31] จากนั้น Orton ได้เปิดศึกกับ Alexa Bliss ที่เป็นเพื่อนกับ Fiend และท้าเจอกันใน Fastlane ในรูปแบบ Intergender match หรือแมตช์ข้ามเพศชายปะทะหญิง โดยระหว่างแมตช์ Fiend ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือนในสภาพถูกเผาไหม้ และ Alexa เอาชนะไปได้ คืนต่อมาใน Raw 22 มีนาคม มีการประกาศแมตช์ระหว่าง Orton กับ Fiend ที่ WrestleMania[28]

หลังจากพลาดในการเอาชนะ Big E ชิงแชมป์ Intercontinental ในเดือนมกราคม Apollo Crews ก็หันหลังให้และเริ่มยอมรับรากเหง้าชาวไนจีเรียของเขารวมถึงการพูดด้วยสำเนียงไนจีเรีย ใน SmackDown 19 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ Crews แพ้ Shinsuke Nakamura ซึ่ง Big E นั่งบรรยายร่วมข้างเวที Crews ได้เล่นงาน Nakamura หลังแมตช์ก่อนที่ Big E จะมาช่วย Nakamura อย่างไรก็ตาม Crews เล่นงาน Big E ด้วยขั้นบันไดเหล็กทำให้เขาพักเป็นเวลาสองสามสัปดาห์[32] ใน Fastlane Big E สามารถป้องกันแชมป์จาก Crews ได้อีกครั้งหลังจากนั้น Crews ก็เล่นงาน Big E อย่างโหดร้าย[33] ใน SmackDown 26 มีนาคม Crews ได้กด Big E ในแบบแท็กทีมหกคน และได้มีการท้าชิงแชมป์กันใน WrestleMania 37[22] สัปดาห์ต่อมาได้ประกาศเพิ่มกติกาเป็น Nigerian Drum Fight[34]

หลังจากรีเทิร์นแบบเซอร์ไพรส์ใน Royal Rumble 2021[20] Seth Rollins ได้กลับมาใน SmackDown 12 กุมภาพันธ์ แล้วพูดต่อหน้าสตาร์ที่ยืนล้อมรอบเวทีว่าเขารู้สึกดีทีได้กลับมาและบอกว่าอยากให้ทุกคนมองเขาเป็นผู้นำแบบจริงจัง และสิ่งที่ทุกคนควรจะทำคือยอมรับวิสัยทัศน์ของเขา แต่ทุกคนเดินกลับเพราะทนไม่ได้กับสิ่งที่ Seth พูดเหลือเพียง Cesaro เท่านั้น Seth แอบดีใจที่ Cesaro เหมือนจะเข้าใจ แต่ Cesaro ก็เดินหนีไปอีกคนทำเอา Seth เดือดและเล่นงาน Cesaro จน Daniel Bryan ต้องเข้ามาช่วยเอาไว้ ในสัปดาห์ต่อๆมาทั้งคู่ก็ได้มีการกระทบกระทั่งกันก่อนที่จะมีการท้าเจอกันใน WrestleMania 37[22]

ใน SmackDown 19 มีนาคม Sami Zayn หลังจากแพ้ให้ King Corbin โดยมี Kevin Owens นั่งบรรยายร่วมข้างเวที Zayn เข้าไปโวยวายและไปถีบ Helluva Kick ใส่เต็มหน้า Owens สัปดาห์ต่อมา Owens ได้จัด The KO Show โดยมี Zayn เป็นแขกรับเชิญ Zayn ยังประกาศว่าจัดงานพรหมแดงสารคดีของเขาและแขกสุดพิเศษที่จะมาร่วมด้วยก็คือ Logan Paul แต่ Owens ไม่สนเพราะต้องการแค่คำตอบจาก Zayn เพื่อจะเจอกันใน WrestleMania 37 ซึ่ง Zayn ตอบตกลง[22] ภายหลัง Logan ประกาศว่าเขาจะมีส่วนร่วมกับ WrestleMania ด้วย[34]

ใน Raw 22 มีนาคม หลังเวที Sheamus ที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่จู่ๆแชมป์ US อย่าง Riddle ก็ปรากฏตัวออกมาด้วย Scooter และถาม Sheamus เยอะมากจนทนไม่ไหวบอกให้ Riddle หุบปากไปซะแล้วกระแทกท้อง Riddle ด้วย Scooter[28] สัปดาห์ต่อมา Sheamus ก็เอาชนะ Riddle ไปได้แบบนอกรอบ ก่อนจะมีการประกาศชิงแชมป์ US ของทั้งคู่ใน WrestleMania 37[30]

ใน Raw 5 เมษายน ได้มีการประกาศแมตช์แท็กทีมหญิง Turmoil หลายเส้าใน WrestleMania 37 คืนแรกเพื่อสิทธิ์ไปชิงแชมป์แท็กทีมหญิง WWE กับ Nia Jax และ Shayna Baszler ในคืนที่ 2[29]