ประวัติ ของ เรียลแอนด์ชัวร์

พ.ศ. 2545 บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น ในขณะนั้น ได้มีแนวคิดที่จะทำการปรับรูปแบบของธุรกิจเพลง จากการรวมศูนย์ทุกอย่างไว้ที่ส่วนกลาง มาเป็นการเปิดบริษัทลูกขึ้นมาเป็นค่ายเพลงย่อย ๆ เพื่อแบ่งหน้าที่การผลิตเพลงตามแต่ละกลุ่มเป้าหมายของแนวเพลง โดยเริ่มต้นจากการปรับโครงสร้างของทีมผลิตเพลงในยุคนั้น ให้กลายมาเป็นรูปแบบบริษัทที่ดำเนินการบริหารจัดการได้ด้วยตัวเอง โดยทีมผลิตเพลงของค่ายอาร์เอสในขณะนั้นมีดังนี้ MP1 (ดูแลโดย สุทธิพงษ์ วัฒนจัง), MP2 (ดูแลโดย เทพนม สุวรรณบุณย์ และ อนุชา อรรจนาวัฒน์), MP3 (ดูแลโดย พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร และ ธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์) รวมทั้งทีมเพลงใหม่ของ ปอนด์ ธนา ลวสุต

พ.ศ. 2546 ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์ หรือ โป่ง หิน เหล็ก ไฟ นักร้องนำวง หิน เหล็ก ไฟ และ เดอะ ซัน วงดนตรีเฮฟวี่เมทัลที่เคยได้รับความนิยมของค่าย ได้กลับมาทำงานกับอาร์เอสอีกครั้ง จึงมีแนวคิดที่จะสร้างทีมผลิตเพลงของตัวเองบ้าง เพื่อที่จะผลิตผลงานในแนวทางที่ตัวเองถนัด ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นค่ายเพลงย่อยชื่อ เรียลแอนด์ชัวร์ และมีการปล่อยผลงานเดี่ยวของเจ้าของค่ายในนาม โป่ง ปฐมพงศ์ อัลบั้ม Sexperience ออกมาในช่วงกลางปีเพื่อเป็นการเปิดตัวบริษัท และตามมาด้วยศิลปินเบอร์แรกคือ เอ-ม็อบ อัลบั้ม พลสันต์ ในเดือนธันวาคม 2546

พ.ศ. 2547 ทางค่ายได้เปิดตัว 2 ศิลปินใหม่ที่มาจากวงร็อกใต้ดินคือ เอาท์โทร (Outro) และ โกรวอิ้ง เพน (Growing Pain) ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาให้กับวงการเพลงเมทัลในประเทศพอสมควร จึงทำให้มีวงดนตรีร็อคจากใต้ดินหลายวงสนใจเข้ามาร่วมงานกับทางค่ายในขณะนั้น

พ.ศ. 2548 ได้มีการรีฟอร์มวง หิน เหล็ก ไฟ กลับมาออกอัลบั้มอีกครั้งหลังจากห่างหายไปกว่า 10 ปี จึงได้มีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของค่ายในชื่อ Trilogy Rock Concert โดยเป็นการรวมวงดนตรีในอดีต 3 วงที่เจ้าของค่ายเคยเป็นนักร้องนำมาก่อนมาเล่นคอนเสิร์ตร่วมกัน อนึ่งถึงแม้จะประสบความสำเร็จกับ หิน เหล็ก ไฟ แต่ทางค่ายกลับไม่ประสบความสำเร็จกับศิลปินเบอร์อื่นมากนัก เนื่องจากตลาดแนวเพลงเมทัลบนดินไม่ขยายตัวตามที่ทางบริษัทวาดหวังไว้ จึงเริ่มมีการปรับแนวทางการทำเพลงของค่ายให้เป็นแนวซอฟต์ร็อกมากขึ้นในช่วงปลายปี

พ.ศ. 2549 ถึงจะมีการปรับแนวทางของค่ายให้ทำเพลงเข้าหาตลาดมากขึ้น แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก ดังนั้นหลังจากส่งศิลปิน 2 กลุ่มสุดท้ายคือ ไฟท์ (Fight) และ สเนล (Snail) ในช่วงกลางปี ทางผู้บริหารของค่ายจึงได้ตัดสินใจยุบค่ายเพลง เรียลแอนด์ชัวร์ ลง และทั้งทีมงานรวมทั้งศิลปินก็ได้ลาออกจากค่ายอาร์เอสไปด้วย

ในปี พ.ศ. 2558 โป่ง หิน เหล็ก ไฟ ได้เปิดค่าย เรียลแอนด์ชัวร์ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยจัดตั้งเป็นค่ายเพลงอิสระ และในวันที่ 1 มิถุนายนได้เริ่มด้วยการเปิดโครงการ Super Rock Project โครงการค้นหาร็อกเลือดใหม่ เพื่อร่วมงานและผลิตผลงานแนวร็อกและเมทัลในสังกัดต่อไป

เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 ออกอัลบั้มรวมผลงานร็อกเลือดใหม่ ชื่อว่า Born to Be ประกอบด้วย 9 วงร็อกจากเวทีประกวด Super Rock Project ได้แก่ เซเว่น เซ็ท (Seven Set), โคม่า (Coma), ซันไลท์ (Sunlight), ดึกดำบรรพ์ (Dickdumbbuns), ออนฮาร์ด (Onhard), ซุปเปอร์ กรุ๊ป (Super Group), จ๊อ สแครมเบิ้ล (Jor Scramble), เดอะ ร็อท (The Rot) และ อันโคฟเวอรส์ (Uncoverz) จัดทำเป็นซีดีแผ่นคู่ รวม 18 เพลง

เดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 เรียลแอนด์ชัวร์ ได้นำอัลบั้ม ถนนพระอาทิตย์ ของ เดอะ ซัน ที่เคยออกกับค่าย เบเกอรี่มิวสิก เมื่อ พ.ศ. 2543 (โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2558 อัลบั้ม ถนนพระอาทิตย์ ได้เป็นลิขสิทธิ์โดยสมบูรณ์ของ เรียลแอนด์ชัวร์) มารีมาสเตอร์และจัดทำซีดีออกมาอีกครั้ง โดยเปลี่ยนปกใหม่ พร้อมเพิ่มเพลงใหม่ที่ชื่อว่า สิทธิ เข้ามาด้วย และใช้ชื่ออัลบั้มนี้ว่า ถนนพระอาทิตย์ Extended Edition

18 มีนาคม พ.ศ. 2561 โป่ง หิน เหล็ก ไฟ สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง ก้าวหนึ่งในทะเล โดยได้ร่วมเข้าฉากจริงกับหน่วยปฏิบัติการของกำลังรบกองทัพเรือ นับเป็นมิวสิกวิดีโอที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุด ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับวงการเพลงของไทย และเพลงนี้ได้ ป๊อป เดอะ ซัน มารับหน้าที่โซโล่กีตาร์อีกด้วย