เมนูนำทาง
เล่ห์กลกับความรัก เบื้องหลังในปีค.ศ 1784 นักประพันธ์เผยแพร่ทฤษฎีการใช้เวทีในฐานะเป็นโรงเรียนศิลธรรม (Die Schaubühne als eine moralische Anstalt betrachtet) นักประพันธ์เชื่อว่า เวลาผู้ชมดูละคร จะอินเข้าไปในละคร จะเอาใจเราไปใส่ใจเขาได้ รับรู้ความรู้สึกที่พระเอกได้รับ ฉะนั้นจึงเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมในการสื่อปัญหาทางศิลธรรมให้เห็น นักประพันธ์ยังเชื่ออีกว่า เวทีเป็นสถานที่ ที่พระเจ้าคืนความยุติธรรมให้แก่มนุษย์ ที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในชีวิตจริง ด้วยเหตุนี้จะทำให้ละครมีความเชื่อถือและมองว่ามีความยุติธรรม ละครบนเวทีจึงสถานที่ ที่มีเสรีภาพในการสอน โดยมากกรณีต้องโทษไม่ได้ จึงสามารถทำหน้าที่สื่อเสรีภาพและหน้าที่ต่อสังคมได้ดี นักประพันธ์ต้องการให้ผู้ชมออกจากการบังคับที่เกิดจากกฎทางศาสนา ทางศิลธรรม หรือทางสังคม ให้มองว่ามนุษย์มีความเป็นตัวของตนเอง ในขณะที่กฎเป็นสิ่งที่เสถียรและเอากฎแก้ทุกปัญหาไม่ได้
เล่ห์กลกับความรัก นาฏกรรม ซึ่งมีความคล้ายเคียงกับนาฏกรรมของเลสซิ้ง(Lessing)มาก ในละครนี้ชิลเลอร์แต่งละครโดยไม่เอาชีวิตขุนนางหรือพระราชาในวังเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งในสมัยนั้นไม่ค่อยพบละครอย่างนี้ จึงเรียกความสนใจจากประชาชนได้มากขึ้นและชี้แนะความขัดแย้งระหว่างชนชั้นขุนนางกับชนชั้นกลางได้ดี เนื่องจากชิลเลอร์ซึ่งแต่งงานกับ Charlotte von Wolzogen ซึ่งพี่สาวมีเชื่อสายพระวงศ์ รู้ปัญหาเหล่านี้ จึงบอกผ่านละครให้ประชาชนรับรู้ ชี้แนะความขัดแย้งระหว่างชนชั้นขุนนางและชนชั้นกลางให้เห็น
เดือนกันยายน ค.ศ. 1782 ชิลเลอร์หนีไปยังมันไฮม์ (Mannheim) หลังจากที่โดนกักบริเวณ เนื่องจากออกนอกแคว้นเวือร์ทเทิมแบร์ค (Württemberg) ไปชมการแสดงครั้งแรกของ Die Räuber ซึ่งเป็นละครของเขาเช่นกัน โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากแคว้น จึงโดนทำโทษกักบริเวณและโดนห้ามเขียน ด้วยเหตุนี้ในละครจึงสามารถพบข้อบกพร่องของสังคม ที่ชิลเลอร์ต้องการสื่อให้ผู้ชมเห็นด้วย อย่างเช่น
เมนูนำทาง
เล่ห์กลกับความรัก เบื้องหลังใกล้เคียง
เล่ห์ราคะ (ภาพยนตร์) เล่ห์ลวง เล่ห์แค้น: เงินและอำนาจ เล่ห์รัก บัลลังก์เลือด เล่ห์รักยัยตัวร้าย เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ เล่ห์บรรพกาล เล่ห์นางฟ้า เล่ห์ราคะ (ละครโทรทัศน์) เล่ห์กลกับความรักแหล่งที่มา
WikiPedia: เล่ห์กลกับความรัก http://www.gutenberg.org/ebooks/6498/ https://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Kabale...