วันที่ 1: เจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์ก 10 นาย (ภายในอาคาร)
วันที่ 1: ผู้สนับสนุน 500 – 600 คน ด้านนอกอาคาร
เหตุจลาจลสโตนวอลล์ (
อังกฤษ: Stonewall riots) หรือชื่ออื่น ๆ
การก่อการกำเริบสโตนวอลล์ (
อังกฤษ: Stonewall uprising) หรือ
กบฏสโตนวอลล์ (
อังกฤษ: Stonewall rebellion) เป็นกลุ่มเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงโดยสมาชิกของ
ชุมชนเกย์ (บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ)
[note 1] เพื่อเป็นการตอบกลับการ
จู่โจมของตำรวจที่เริ่มต้นขึ้นในเช้าตรู่วันที่ 28 มิถุนายน 1969 ที่
สโตนวอลล์อินน์ ในย่าน
เกรนิชวิลเลจ แมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก เหล่าผู้คนของสโตนวอลล์, บาร์เกย์และเลสเบียนแห่งอื่นในวิลเลจ และผู้คนบนถนนในย่านได้ออกมาต่อสู้กลับเมื่อตำรวจเริ่มใช้ความรุนแรง การจลาจลนั้นได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่นำไปสู่ขบวนการ
ปลดปล่อยเกย์[4][5][6][7] และเป็นการต่อสู้ในยุคใหม่เพื่อ
สิทธิบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในสหรัฐ[8][9]ชาวเกย์อเมริกันในทศวรรษ 1950s และ 1960s เผชิญหน้ากับระบบกฎหมายที่
ต่อต้านเกย์[note 2][10] กลุ่มคน
รักร่วมเพศแรก ๆ ในสหรัฐเสาะหาการพิสูจน์ว่าชาวเกย์สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้ และสนใจในการศึกษาแบบไม่รุนแรง (non-confrontational) สำหรับประเด็นการรักร่วมเพศและ
การรักเพศตรงข้ามให้เหมือน ๆ กัน ในช่วงปลายทศวรรษ 1960s ได้มีการเคลื่อนไหวทางสังคม/การเมืองที่เกิดขึ้นซึ่งออกไปในทางการถกเถียง เช่น
ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง,
วัฒนธรรมต้านขนบ และ
ขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามของสหรัฐ อิทธิพลเหล่านี้ร่วมไปกับสภาพแวดล้อมเสรีนิยมของ
เกรนิชวิลเลจได้เป็นเหมือนตัวเร่งเร้าให้เกิดการจลาจลสโตนวอลล์มีองค์กรต่าง ๆ น้อยมากที่เปิดต้อนรับชาวเกย์ในช่วงทศวรรษ 1950s และ 1960s ในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่เป็นบาร์ ถึงแม้เจ้าของบาร์เหล่านั้นแทบจะไม่ใช่ชาวเกย์ก็ตาม ในขณะนั้น สโตนวอลล์อินน์มีเจ้าของเป็น
มาเฟียชาวอเมริกัน[13][14][15] สโตนวอลล์อินน์เป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้คนที่ยากจนและชายของที่สุดของชุมชนเกย์:
บุตช์เลสเบียน, ชายหนุ่ม
ออกสาว,
แดรกควีน,
โสเภณีชาย,
บุคคลข้ามเพศ และ
เยาวชนไร้บ้าน บาร์เกย์ต่าง ๆ ต้องเผชิญกับบุกของตำรวจ (Police raids) เป็นกิจวัตรในทศวรรษ 1960s แต่เจ้าหน้าที่เสียการควบคุมอย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่สโตนวอลล์อินน์ ความตึงเครียดระหว่าง
ตำรวจนครนิวยอร์กกับผู้อยู่อาศัยชาวเกย์ในเกรนิชวิลเลจได้แตกออกและนำไปสู่การประท้วงอีกในเย็นวันถัดมา และอีกครั้งในหลายคืนถัดมา ในอาทิตย์ถัด ๆ มา ชาววิลเลจได้จัดกลุ่มกันอย่างรวดเร็วขึ้นเป็นกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อมุ่งเน้นไปยังการสร้างสถานที่สำหรับชาวเกย์และเลสเบียนได้สามารถเปิดเผยเกี่ยวกับ
เพศวิถีของตนโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจับหลังเหตุจลาจล ชาวเกย์และเลสเบียนในนิวยอร์กซิตีได้เผชิญกับอุปสรรคทางเพศ เชื้อชาติ ชนชั้น และช่วงอายุ ในการรวมกลุ่มกันเป็นชุมชนที่เหนียวแน่น ภายในระยะเวลาหกเดือน องค์กรนักิจกรรมเกย์สองแห่งได้ก่อตั้งขึ้นในนิวยอร์กโดยมีมุ่งยุทธวิธีที่รุนแรง (confrontational tactics) และมีหนังสือพิมพ์สามเจ้าที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนและเผยแพร่สิทธิของชาวเกย์และเลสเบียน หนึ่งปีหลังเหตุจลาจล ไอ้มีการจัด
ไพรด์พาเรดครั้งแรกขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน 1970 เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ ในนิวยอร์กซิตี, ลอสแอนเจลิส และซานฟรานซิสโก
[16] ในปี 2016 ได้มีการตั้ง
อนุสรณ์สถานแห่งชาติสโตนวอลล์ขึ้นที่บริเวณเกิดเหตุจลาจล
[17]เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2019 อธิบดีกรมตำรวจนิวยอร์กซิตี
เจมส์ พี. โอนีลล์ ได้แถลงรายงานขอโทษอย่างเป็นทางการในนามของกรมตำรวจนิวยอร์กสำหรับการกระทำของเจ้าหน้าที่ในเหตุจลาจลสโตนวอลล์เมื่อปี 1969
[18][19]