พระราชฐานซานโลเรนโซเดเอลเอสโกเรียล (
สเปน: Real Sitio de San Lorenzo de El Escorial) หรือเรียกอย่างย่อว่า
เอลเอสโกเรียล ในอดีตเป็นที่ประทับของ
กษัตริย์แห่งสเปน สร้างขึ้นในรัชสมัยของ
พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 มีรูปแบบ
สถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์ เริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1563 และแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1584 ตั้งอยู่ในเมือง
ซานโลเรนโซเดเอลเอสโกเรียล บริเวณเชิงเขาอาบันโตส ราว 45 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุง
มาดริด เป็นหนึ่งในเขตพระราชฐานที่มีอยู่มากมายในประเทศสเปน แต่เอลเอสโกเรียลมีความพิเศษกว่าที่ภายในมีส่วนต่าง ๆ อย่างครบครัน ทั้งอาราม พระราชวัง โรงเรียน และพิพิธภัณฑสถานเอลเอสโกเรียลประกอบด้วยหมู่อาคารสองสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หมู่อาคารแรกคืออารามหลวง และหมู่อาคารที่สองคือ ลากรังคียาเดลาเฟรสเนดา (La Granjilla de La Fresneda) ที่ประทับเพื่อเสด็จล่าสัตว์อันมีความสงบเงียบซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปห้ากิโลเมตร ทั้งสองสถานที่นี้มีสถาปัตยกรรมร่วมอันบ่งชี้ถึงอำนาจของราชวงศ์สเปนและอำนาจของศาสนจักร
โรมันคาทอลิกในแผ่นดินสเปนระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึง 17
[1] ปัจจุบันเอลเอสโกเรียลเป็นสำนักงานใหญ่ของคณะสงฆ์แห่ง
นักบุญออกัสตินพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 ผู้ทรงยึดมั่นในคาทอลิก ทรงตอบโต้ต่อ
การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ที่บังเกิดไปทั่วทวีปยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยอุทิศเวลาทั้งรัชกาลของพระองค์ (ค.ศ. 1556–1598) ตลอดจนทองคำมหาศาลที่ได้จากอาณานิคมสเปนใน
โลกใหม่ไปในการยับยั้งการแผ่ขยายของนิกายโปรเตสแตนต์ แม้ว่าความพยายามของพระองค์บางส่วนประสบผลสำเร็จในระยะยาว แต่กระแส
การปฏิรูปคาทอลิกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกลับรบกวนพระองค์เสียมากกว่าตลอดสามสิบปีแรกของการตัดสินพระทัยสร้างเอลเอสโกเรียลในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1984
องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชฐานซานโลเรนโซแห่งเอลเอสโกเรียลเป็น
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปัจจุบันเอลเอสโกเรียลเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สามารถเดินทางไปกลับจากกรุงมาดริดได้ภายในวันเดียว แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมกว่าห้าแสนคน