เอสคีลัส (
อังกฤษ: Aeschylus;
กรีกโบราณ: Αἰσχύλος ไอส-คู-ลอส; ภาษากรีกโบราณ: [ai̯s.kʰý.los]; ราว 525/524 – 456/455 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นนักประพันธ์บทละครชาวกรีกโบราณ และได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งโศกนาฏกรรม
[1][2] งานประพันธ์ของเอสคีลัสเป็นงานโศกนาฏกรรมชุดแรกสุดที่เหลือรอดมาจากยุคโบราณ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานประเภทนี้ในสมัยแรกเริ่ม ล้วนแต่ได้มาจากการอนุมานผ่านงานที่หลงเหลืออยู่ของท่าน
[3][4] เอสคีลัสจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์
วรรณกรรมกรีกโบราณ อริสโตเติลให้เครดิตเอสคีลิสในฐานะเป็นศิลปินคนแรกที่ขยายจำนวนนักแสดงบนเวทีการละครของกรีก ทำให้สามารถนำเสนอความขัดแย้งระหว่างตัวละครได้ ในขณะที่ก่อนหน้านั้นการละครของกรีกมีแค่ตัวนักแสดงนำกับกลุ่มประสานเสียง (คอรัส)
[5]ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ เอสคีลัสประพันธ์บทละครไว้ระหว่าง 70 ถึง 90 เรื่อง แต่เหลือรอดมาถึงปัจจุบันเพียง 7 เรื่อง หนึ่งในนั้น
พันธนาการโพรมีเทียส (Prometheus Bound) ยังเป็นที่ถกเถียงกันในเรื่องตัวตนของผู้ประพันธ์ (บ้างเชื่อว่า
ยูฟอเรียน บุตรชายของเอสคีลัส เป็นผู้แต่งขึ้น) งานนาฏกรรมบทละครที่เอสคีลัสประพันธ์ขึ้น เป็นงานที่แต่งเพื่อเข้าแข่งขันในงานเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเทศกาล
ไดโอไนซัส ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในฤดูใบไม้ผลิ ที่เมือง
ไดโอไนเซีย (Dionysia) ซึ่งมีการแข่งขันสองรอบ คือ รอบแข่งขันงานโศกนาฏกรรม และรอบแข่งขันงานสุขนาฏกรรม (comedies) งานทั้งหมดที่เหลือรอดมาของเอสคิลัส ได้แก่
ชาวเปอร์เซีย,
ศึกเจ็ดขุนพลชิงธีบส์,
ดรุณีร้องทุกข์, ไตรภาคโศกนาฏกรรม
โอเรสเตอา ประกอบด้วย: อะกาเมมนอน, ผู้ถือทักษิโณทก (the Libation Bearers), และ ยูเมนิดีส (the Eumenides) เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันละครโศกนาฏกรรม ที่เมืองไดโอไนเซียมาแล้วทั้งสิ้น เว้นก็แต่
พันธนาการโพรมีเทียส เท่านั้น นอกจากนี้เอสคิลัสอาจเป็นนาฏศิลปินเพียงท่านเดียว (เท่าที่ทราบ) ที่เคยนำเสนอละครเป็นโศกนาฏกรรมไตรภาค ละครเรื่อง
โอเรสเตอา เป็นตัวอย่างเดียวของบทประพันธ์ไตรภาคที่หลงเหลือมาจากยุคโบราณ ในวัยหนุ่มเอสคีลัสเคยเป็นทหารที่ร่วมรบในสงครามระหว่างกรีซกับเปอร์เซียทั้งสองครั้ง ในตอนต้นของศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล ในปีที่ 490 ก่อนค.ศ. เอสคีลัสกับ
ไคนีจิรัสน้องชายเข้าร่วมต่อสู้ใน
ยุทธการที่มาราธอน เพื่อปกป้องเอเธนส์จากกองทัพของกษัตริย์
ดาริอัสที่ 1 น้องชายของท่านตายในการต่อสู้และทั้งสองได้รับการยกย่องให้เป็น "วีรบุรุษแห่งทุ่งมาราธอน" ต่อมาพอ
พระเจ้าเซิร์กซีสแห่งเปอร์เชียยกทัพมาอีก ในปีที่ 480/479 ก่อนค.ศ. เอสคีลัสก็เข้ารับใช้ชาติอีกครั้งใน
สงครามครั้งที่สองกับเปอร์เซีย และเข้าร่วมรบใน
ยุทธนาวีที่ซาลามิส สงครามเปอร์เซียมีอิทธิพลต่อชีวิตและงานของเอสคีลัสอย่างมาก ละครบางเรื่องของท่าน เช่น
ชาวเปอร์เซีย (The Persians) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการศึกในสมรภูมิที่ซาลามิส และได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดละครที่ไดโอไนเซีย เมื่อปีที่ 472 ก่อนค.ศ.เอสคีลัสถึงแก่กรรมที่เมือง
เจลา ในซิซิลี เมื่อปีที่ 456 ก่อนค.ศ.