เอาเตอร์ก็อดตนอื่นๆ ของ เอาเตอร์ก็อด

กรอธ

(Ghroth) ปรากฏตัวในเรื่อง The Music of the Spheres ของเควิน เอ รอส กรอธมีลักษณะเป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กหรือดวงจันทร์ มีสีแดงสนิมและรอยแยกขนาดใหญ่ที่มีดวงตาขนาดมหึมาอยู่ข้างใต้ กรอธจะเดินทางไปในจักรวาลพร้อมกับร้องเพลงไปด้วย เมื่อเข้าใกล้ดาวเคราะห์อื่น เพลงของกรอธจะทำให้เกรทโอลด์วันหรือเอาเตอร์ก็อดที่หลับใหลอยู่ตื่นขึ้น ซึ่งมักทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่บนดาวดวงนั้นหรือแม้แต่การแตกสลายของดวงดาว[3] เชื่อว่ากรอธเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่หลายๆครั้งบนโลก และเป็นต้นเหตุให้ดาวแชกไกของเผ่าแมลง ชานแตกสลาย[4] เรื่องของกรอธนี้มีที่มาจากทฤษฏีดาวเนเมซิส

ดาโอล็อธ

(Daoloth) ปรากฏตัวในเรื่อง The Render of the Veils ของแรมซีย์ แคมเบล มีฉายาว่า ผู้คลี่ม่าน ดาโอล็อธอยู่ในมิติเหนือมิติทั้งสามที่มนุษย์รับรู้ได้ ร่างของดาโอล็อธเป็นทรงกลมกับแท่งที่เป็นอนินทรีย์วัตถุต่างๆรวมถึงโลหะและพลาสติกประกอบเข้าด้วยกันเป็นรูปทรงที่แปลกประหลาดอย่างซับซ้อน เนื่องจากรูปลักษณ์ของดาโอล็อธเป็นสิ่งที่อยู่เหนือสำนึกของมนุษย์และทำให้ผู้ที่พบเห็นเสียสติได้ การทำพิธีเรียกดาโอล็อธจึงต้องทำในความมืดเท่านั้น และถ้าไม่ใช้เวทมนตร์กักดาโอล็อธไว้ ดาโอล็อธจะขยายตัวขึ้นและกลืนทุกคนในบริเวณใกล้เคียงเข้าไป ซึ่งผู้ที่ถูกดาโอล็อธกลืนเข้าไปจะถูกส่งไปยังโลกซึ่งเต็มไปด้วยความพิลึกพิลั่นและตายในที่สุด กล่าวว่านักบวชของดาโอล็อธจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในอดีตและอนาคตได้ รวมถึงสามารถมองเห็นการเหลื่อมล้ำในมิติของวัตถุต่างๆอีกด้วย

ทุลซ์ชา

(Tulzscha) ปรากฏตัวในเรื่อง The Festival ของเลิฟคราฟท์ มีฉายาว่าเปลวไฟสีเขียว เป็นหนึ่งในเอาเตอร์ก็อดที่เต้นระบำขับกล่อมอซาธอท เมื่อสาวกทำพิธีเรียกมายังโลกจะปรากฏร่างเป็นเสาเพลิงสีเขียวซีด ร่างของทุลซ์ชาไม่มีความร้อนและแสงของทุลซ์ชาจะไม่ทำให้เกิดเงาเหมือนไฟธรรมดา พื้นดินใกล้กับที่ทุลซ์ชาปรากฏร่างนั้นจะแปดเปื้อนด้วยพิษและสิ่งมีชีวิตในบริเวณใกล้เคียงจะล้มตาย กล่าวว่าในอนาคตอันไกลโพ้น ทุลซ์ชาจะเป็นผู้ทำลายโลกโดยทำให้ดวงอาทิตย์โชติช่วงขึ้นและกลืนโลกเข้าไป สาวกของทุลซ์ชานั้นสามารถเรียกเบียกีซึ่งเป็นอสูรรับใช้ของฮัสเทอร์มาเพื่อใช้เป็นพาหนะสำหรับเดินทางในอวกาศได้

ยิดฮ์รา

(Yidhra) ปรากฏตัวในเรื่อง Where Yidhra Walks ของวอลเตอร์ ซี. เดบิล จูเนียร์ มีฉายาว่าแม่มดฝัน ยิดฮ์รานั้นเป็นอมตะและอยู่บนโลกมาตั้งแต่ก่อน3,000ปีแรกเริ่มที่จะมีสิ่งมีชีวิต ยิดฮ์ราสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้โดยการกินสิ่งมีชีวิตอื่นและวิวัฒนาการตามลักษณะของสิ่งมีชีวิตนั้น เมื่อเวลาผ่านไป ยิดฮ์ราก็จะแบ่งร่างย่อยออกมาซึ่งล้วนแต่มีจิตสำนึกร่วมกัน ยิดฮ์รานั้นมีสาวกอยู่ทั่วโลก สาวกของยิดฮ์รานั้นอาจรับชีวิตอมตะได้โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของยิดฮ์รา ยิดฮ์ราจะเปิดเผยร่างที่แท้จริงต่อสาวกผู้ภักดีอย่างยิ่งยวดเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วจะปรากฏกายด้วยภาพลวงตาเป็นหญิงสาวผู้งดงามเสียมากกว่า

หมอกนิรนาม

(Nameless mist) ปรากฏตัวในจดหมายของเอช.พี.เลิร์ฟคราฟเอง หมอกนิรนามเป็นเอาเตอร์ก๊อดที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตต่างๆในจักรวาลอื่นได้ รวมถึง yog-sothoth ด้วยและมันมีอายุเก่าแก่กว่าเอาเตอร์ก๊อดทุกตัวยกเว้น อซาทอธ ที่เป็นผู้สร้าง​ ลักษณะ​ของมันไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนเพราะปรากฏ​เพียงในจดหมายเท่านั้น

ซัคซัคครูธ​

(Cxaxakluth)​ ปรากฏตัวในเรื่อง​ the​ Uuresponding​ gods​ ประพันธ์​โดย​ คราก​ แอชตัน​ สมิธ​ ซัคซัคครูธนั้นเป็นลูกที่เกิดจากการแบ่งตัวของอซาธอธ​ มันได้อยู่กับครอบครัวของมันบนดาวยุกกอธก่อนที่จะแยกออกจากครอบครัวเพราะว่าดาวเคราะห์​ทั้งหลายบนระบบสุริยะ​เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของมัน

อุบโบ ซาธลา

(Ubbo-Sathla) ปรากฏตัวในเรื่อง Ubbo-Sathla ของคลาก แอชตัน สมิท อุบโบ ซาธลาเป็นหนึ่งในเทพซึ่งอยู่ในถ้ำยิคาใต้ภูเขาวูรมิธาเดรธ มีลักษณะเป็นกลุ่มโปรโตพลาสซึมขนาดใหญ่และให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตระดับจุลินทรีย์ออกจากตัวอย่างต่อเนื่อง อุบโบ ซาธลาทำหน้าที่คุ้มกันหินจารึกซึ่งเชื่อว่าบันทึกความรู้ของเหล่าเอลเดอร์ก็อดไว้ แม้จะกล่าวว่าอุบโบ ซาธลาได้ให้กำเนิดบรรพบุรุษของชีวิตทั้งมวลบนโลก แต่สิ่งใดก็ตามที่ถูกระยางของอุบโบ ซาธลาสัมผัสจะปราศจากชีวิตไปตลอดกาล และในอนาคต อุบโบ ซาธลาจะกลืนทุกชีวิตในโลกเข้ากับตัวเองอีกครั้ง

เอาเตอร์ก็อดชั้นต่ำ

(Lesser Outer God) ระบุถึงใน Dream Quest of Unknown Kadath ชองเลิฟคราฟท์ เอาเตอร์ก็อดชั้นต่ำเป็นคำเรียกรวมๆถึงเอาเตอร์ก็อดที่ไม่มีชื่อและเต้นระบำขับกล่อมอซาธอท เอาเตอร์ก็อดชั้นต่ำมีลักษณะและอำนาจที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดก็ล้วนแต่ไม่มีความคิดเช่นเดียวกับอซาธอท บางครั้งเทพชั้นต่ำนี้จะให้กำเนิดเอาเตอร์ก็อดตนอื่นออกมา ซึ่งเอาเตอร์ก็อดที่เกิดใหม่นี้บ้างก็จะเดินทางไปในจักรวาล แต่ส่วนใหญ่จะอยู่กับตนอื่นๆมากกว่า

แอบฮอธ

(Abhoth) ปรากฏตัวในเรื่อง The Seven Geases ของคลาก แอชตัน สมิท มีฉายาว่า ต้นตอแห่งความโสโครก แอบฮอธเป็นหนึ่งในเทพซึ่งอยู่ในถ้ำยิคาใต้ภูเขาวูรมิธาเดรธ แอบฮอธมีลักษณะเป็นบ่อเนื้อเหลวสีเทาซึ่งให้กำเนิดอสุรกายดุร้ายรูปร่างต่างๆกัน อสุรกายที่กำเนิดจากแอบฮอธส่วนใหญ่จะถูกแอบฮอธใช้สายระยางและแขนดึงกลับไปและกินเป็นอาหาร แอบฮอธสามารถใช้โทรจิตสื่อสารกับผู้ที่อยู่ใกล้ได้ เนื่องจากลักษณะของแอบฮอธคล้ายคลึงกับอุบโบ ซาธลามาก จึงเป็นไปได้ว่าแท้จริงแล้วเทพทั้งสองเป็นสิ่งเดียวกัน

ไฮดรา

(Hydra) ปรากฏตัวในเรื่อง Hydra ของเฮนรี คัทเนอร์ มีลักษณะเป็นของเหลวสีเทาปริมาณมหาศาลซึ่งมีหัวของมนุษย์และมนุษย์ต่างดาวจำนวนมากผุดขึ้นมาและร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวด สาวกของไฮดราจะหลอกใช้ผู้อื่นในการสังเวยแก่ไฮดราโดยมอบคัมภีร์ On the Sending Out of the Soul ซึ่งมีมนต์พิธีกรรมสำหรับการถอดจิตออกจากร่างไปยังที่ใดๆได้ตามความปรารถนา แต่ไฮดราจะรวมตัวกับร่างจิตของผู้ประกอบพิธี และตัดหัวของทุกคนในบริเวณที่ร่างจิตปรากฏตัวเพื่อนำมารวมไว้ในตัวไฮดราเอง ผู้ที่ทำพิธีถอดจิตจะกลับคืนสู่ร่างเองในภายหลังโดยไม่มีอันตรายใดๆ นอกจากอาการช็อกที่ได้เห็นการฆ่าฟันของไฮดรา[5] ชื่อของไฮดรานั้นมาจากงูพิษในตำนานกรีก แต่ในตำนานคธูลูนี้ ไฮดราเป็นส่วนหนึ่งของอซาธอท

ไนอาลาโธเทป

ไนอาลาโธเทป (Nyarlathotep) หรือไนอาลัทโฮเทป หรือเนียลาโธเทป เป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า เอาเตอร์ก็อด ในงานประพันธ์ของ เอช. พี. เลิฟคราฟท์ ไนอาลาโธเทปมีฉายาว่า "ความวุ่นวายที่คืบคลาน" (Crawling Chaos) ปรากฏตัวในเรื่องสั้นชื่อ ไนอาลาโธเทป (พ.ศ. 2463) และนับเป็นเทพที่มีบทบาทมากที่สุดตัวหนึ่งในงานประพันธ์ของเลิฟคราฟท์