ประวัติ ของ เอเคบีโฟร์ตีเอต

สัญลักษณ์ของAKB48

2005–2006: การเปิดตัวและการก่อตั้งทีม

สมาชิกวง AKB48 ในงานเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2006

ในเดือนกรกฎาคม 2005 ยะซุชิ อะกิโมะโตะ ได้จัดการคัดเลือกสมาชิกขึ้นเป็นครั้งแรก[38] จากผู้เข้าสมัครจำนวน 7,924 คน มี 24 คนที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกรุ่นที่ 1 ของวง[38] ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีสมาชิก 20 คนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกทีมเอ (A) เพื่อขึ้นแสดงในโรงละคร[39] ซึ่งการแสดงในโรงละครครั้งแรกของวงนั้นมีชื่อว่า ปาร์ตีกะฮาจิมารุโยะ (Party ga Hajimaru yo)[40] มีผู้เข้าชมทั้งหมด 7 คน แต่หลังจากนั้นจำนวนผู้เข้าชมก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง[41][42] ต่อมาในเดือนมกราคม 2006 มาริโกะ ชิโนดะ พนักงานเสิร์ฟในร้านกาแฟของวง เข้าร่วมวงด้วยในฐานะสมาชิก "รุ่น 1.5" เนื่องจากเธอได้รับความนิยมมากจากลูกค้าในร้าน ทำให้อะกิโมะโตะมีความสนใจและจัดการคัดเลือกแบบพิเศษให้กับเธอ[43][44]

การคัดเลือกสมาชิกรุ่นที่ 2 นั้นจัดขึ้นร่วมกับบริษัทโทรคมนาคม เอ็นทีที โดโคโม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2006 โดยผู้สมัครจะต้องส่งวีดีโอแนะนำตนเองผ่านทางโทรศัพท์มือถือ[45][46]และจากผู้เข้าสมัครทั้ง 11,892 คน มี 19 คนที่ได้รับเลือก และ 18 คนที่ได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นสมาชิกทีมเค (K) ในเดือนเมษายน[47] โดยมี ปาร์ตีกะฮาจิมารุโยะ เป็นการแสดงประจำทีมในโรงละครแทนทีม A เนื่องจากทีมนี้มีการแสดงใหม่ในชื่อ ไอตะกัตตะ (Aitakatta)[48]

ในเวลาเดียวกัน ทางวงก็ได้ปล่อยซิงเกิลอินดีชุดแรกออกมาในชื่อ "ซากูระโนะฮานาบิราตาจิ" (Sakura no Hanabiratachi) ซึ่งได้ขึ้นตำแหน่งบนชาร์ตซิงเกิล 10 อันดับรายอาทิตย์ของออริคอน และมียอดขายอาทิตย์แรกจำนวน 22,011 ชุด[49] ต่อมาในวันที่ 31 มีนาคม ยูกิ อูซามิ ได้จบการศึกษา ทำให้เธอเป็นสมาชิกคนแรกที่ออกจากวง[50] จากนั้นในวันที่ 7 มิถุนายน ทางวงได้เปิดตัวซิงเกิลอินดีลำดับที่ 2 ในชื่อ "สเกิตฮิราริ" (Skirt Hirari)[51] ที่ขายได้ 13,349 ชุดภายในวันแรก[52] วงยังได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในสองวันถัดมา[38] และได้เซ็นสัญญากับเดฟสตาร์เร็กคอร์ดส์ (Defstar Records; บริษัทย่อยของโซนี่มิวสิกเอ็นเตอร์เทนเมนต์) ในเดือนสิงหาคม[53]

2006–2007: เซ็ตลิสต์: เกรตเทสต์ซองส์ 2006–2007

ในเดือนตุลาคม 2006 เอเคบีโฟร์ตีเอตได้จัดตั้งการคัดเลือกสมาชิกสำหรับทีมบี (B)[54] และได้สมาชิก 13 คนจากทั้งหมด 12,828 คนในเดือนธันวาคม[55] ซิงเกิลแรกร่วมกับค่ายเพลงเดฟสตาร์ "ไอตากัตตะ" (Aitakatta) ที่แสดงโดยสมาชิก 20 คนจากทีมเอและทีมเค ได้ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม[56] ซึ่งติดอันดับ 12 บนชาร์ตออริคอนเป็นเวลา 65 อาทิตย์[57] และมียอดขาย 25,544 แผ่นใน 6 อาทิตย์แรก[58] ในวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน วงได้จัดคอนเสิร์ตแรกในชื่อ "AKB48 First Concert: Aitakatta ~Hashira wa Nai ze!~" ที่นิปปงเซเน็นคังในชินจุกุ[59] และได้แสดงเพลง "ไอตากัตตะ" ในรายการโทรทัศน์เอ็นเอชเค โคฮากุอูตะกัซเซ็น (NHK Kohaku Uta Gassen) ครั้งที่ 58[60][61] นอกจากนี้ยังทำสถิติเป็นวงที่มีสมาชิกขึ้นแสดงพร้อมกันบนเวทีมากที่สุดในรายการเพลง โดยมีจำนวน 43 คน[62] และวงยังได้ทำการสับเปลี่ยนทีมเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคมโดยการย้ายคาซูมิ อูราโนะ, ชิโฮะ วาตานาเบะ, และนัตสึมิ ฮิราจิมะ จากทีมเอไปยังทีมบีในฐานะตัวสำรอง[63]

ซิงเกิลลำดับที่ 2 ของวง "เซฟูกุกะจามะโอะซูรุ" (Seifuku ga Jama o Suru) วางขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2007[64] และติดอันดับ 7 บทชาร์ตออริคอน[65] เนื้อเพลงกล่าวถึงการขายบริการของเด็กผู้หญิง ทำให้เพลงนี้ถูกวิจารณ์ในแง่ลบและทำให้เกิดข้อถกเถียงตามมา[66] ในวันที่ 18 มีนาคม วงได้วางขายซิงเกิล "เคเบ็ตสึชิเตตะไอโจ" (Keibetsu Shiteita Aijo) ซึ่งติดอันดับ 8 บทชาร์ตออริคอน แต่ร่วงลงมาที่อันดับ 98 ในอาทิตย์ถัดมา[67] คอนเสิร์ตครั้งที่สองของวง "เอเคบีโฟร์ตีเอต ฮารุจตโตะดาเกะเซ็งโกกุทัวร์ มาดามาดะดาเซะเอเคบีโฟร์ตีเอต" (AKB48 Haru no Chotto dake Zenkoku Tour ~Madamada daze AKB48!~) ที่แสดงขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม[68] มียอดขายค่อนข้างน้อย[69]

ในเดือนเมษายน 2007 วงได้โพสสมาชิกทีมบี (B) ผ่านทางเว็บไซต์ โดยมีจำนวน 5 คนที่น้อยกว่าตอนที่เคยได้ประกาศเอาไว้[70] และเป็นครั้งแรกที่รวบรวมสมาชิกได้ครบ 48 คน ซิงเกิลลำดับที่ 4 ของวง "บิงโก!" (Bingo!) วางแผงเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม[71] ตามด้วย "โบกุโนะไทโย" (Boku no Taiyo) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม[72] และ "ยูฮิโฮะมิเตรุกะ?" (Yuhi o Miteiru ka?) ในวันฮาโลวีน ซิงเกิลนี้ทำยอดขายได้ 18,429 แผ่น[73] ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดของวง[74]

2008–2010: คามิเกียวกูตาจิ

เอเคบีโฟร์ตีเอตในงานเจแปนเอ็กซ์โป 2009 ที่ปารีส

ในวันปีใหม่ 2008 วงได้วางขายอัลบั้มแรกชื่อ เซ็ตลิสต์: เกรตเทสต์ซองส์ 2006–2007 (Setlist: Greatest Songs 2006–2007) ประกอบด้วยเพลงจากซิงเกิลรวมถึงบันทึกการแสดงสด ส่วนซิงเกิลต่อมา "โรมานซ์อิราเนะ" (Romance, Irane) ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 23 มกราคม[75] และติดอันดับ 6 บนชาร์ตออริคอนในอาทิตย์แรก[76]

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ วงได้จำหน่ายซิงเกิลลำดับที่ 8 คือ "ซากูระโนะฮานาบิราตาจิ 2008" (Sakura no Hanabiratachi 2008) ซึ่งเป็นการทำฉบับใหม่จากซิงเกิลแรก ประกอบด้วยสมาชิกทีมเอ 10 คน ทีมเค 6 คน และทีมบี 5 คน[77] ในแต่ละชุดยังประกอบด้วยโปสเตอร์ 1 แบบ บุคคลใดที่สามารถสะสมรูปโปสเตอร์ได้ครบทั้ง 44 แบบจะได้รับการเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ แต่กิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไปเนื่องจากมีการพบว่าเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด[78]

ในเดือนมิถุนายน 2008 มีการประกาศก่อตั้งวงน้องสาววงแรกในชื่อ เอสเคอีโฟร์ตีเอต (SKE48) ที่นาโงยะ[79] ต่อมาในเดือนสิงหาคม วงได้ยกเลิกสัญญากับค่ายเพลงเดฟสตาร์เรกคอร์ดส์ (DefStar Records) และต่อสัญญาใหม่กับคิงเรกคอร์ดส์ (King Records) แทน[ต้องการอ้างอิง] หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกวงชื่อ อายากะ คิกูจิ ถูกไล่ออกเนื่องจากมีภาพที่เธอถ่ายคู่กับแฟนหนุ่มหลุดออกมา ซึ่งวงได้ให้เหตุผลว่าพฤติกรรมนี้ไม่เหมาะสมกับวัย[80][81] อย่างไรก็ตาม เธอได้กลับเข้าวงอีกครั้งหลังจากที่เธอผ่านออดิชันในปี 2010[82]

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ซิงเกิล "โอโกเอะไดมอนด์" (Oogoe Diamond) ได้ออกจำหน่ายจากค่ายคิงเรกคอร์ดส์[83] เซ็นเตอร์ของเพลงนี้คือจูรินะ มัตสึอิ ซึ่งเป็นสมาชิกของเอสเคอีโฟร์ตีเอตขณะที่ยังอายุ 11 ปี และเป็นสมาชิกคนแรกของวงน้องสาวที่ปรากฏในซิงเกิลวงหลัก[84] ซิงเกิลนี้ติดอับดับ 3 บนชาร์ตออริคอนรายอาทิตย์[85]

ซิงเกิลต่อมา "10เน็นซากูระ" (10nen Sakura) วางแผงเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2009 และได้รับอันดับ 3 ในอาทิตย์แรกเช่นกัน และเป็นซิงเกิลแรกที่ทำยอดจำหน่ายได้กว่า 1 แสนชุด[86] ถัดมา "นามิดะเซอร์ไพรส์" (Namida Surprise!) ซิงเกิลลำดับที่ 12 ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ประกอบด้วยบัตรจับมือและบัตรเลือกตั้งสมาชิกสำหรับซิงเกิลต่อไป[87] มียอดขาย 104,180 แผ่นในอาทิตย์แรกบนชาร์ตออริคอน[88] ซิงเกิลที่ 13 "อีวาเกะเมย์บี" (Iiwake Maybe) ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม[89] ทำยอดขายชนะวงสแมปและขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตซิงเกิลรายวัน[90] และอันดับ 2 บนชาร์ตรายอาทิตย์[91]

ทีมเอยังได้ขึ้นแสดงในงาน "เจแปนเอ็กซ์โปอินปารีส" ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 5 กรกฎาคม 2009 โดยแสดงเพลง "โอโกเอะไดมอนด์" ในฉบับภาษาอังกฤษ[92] วงเปิดตัวที่สหรัฐครั้งแรกที่เว็บสเตอร์ฮอลล์ กรุงนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 27 กันยายน[93]

ในเดือนตุลาคม ซิงเกิลของวงทั้ง 3 ซิงเกิล ("10เน็นซากูระ" "นามิดะเซอร์ไพรส์" และ "อีวาเกะเมย์บี" ได้รับการรับรองระดับทองจากอาร์ไอเอเจ (RIAJ)[94] ซิงเกิล "ริเวอร์" (River) ซึ่งเป็นลำดับที่ 14 ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม[95] เป็นซิงเกิลแรกที่ได้รับอันดับ 1 บนชาร์ตออริคอน[96]

วงได้จำหน่ายซิงเกิลถัดไป "ซากูระโนะชิโอริ" (Sakura no Shiori) เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2010 ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตออริคอน และมียอดขายกว่า 3 แสนแผ่น ทำให้เป็นกลุ่มศิลปินหญิงญี่ปุ่นที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในรอบ 7 ปี[97] และเป็นซิงเกิลสุดท้ายที่จะได้บรรจุในอัลบั้ม คามิเกียวกูตาจิ (Kamikyokutachi) ที่ได้รับอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้มของออริคอน[98][99] และได้รับการรับรองระดับแพลตตินัมสองชั้นจากอาร์ไอเอเจเมื่อมียอดขายครบ 5 แสนชุด[100]

2010–2011: โคโคะนิอิตะโคโตะ

เอเคบีโฟร์ตีเอตขณะแสดงในงานอนิเมะเฟสติวัลเอเชีย เดือนพฤศจิกายน 2010 ที่ประเทศสิงคโปร์

ซิงเกิลลำดับที่ 16 "โพนีเทลโทะชูชู" (Ponytail to Chouchou) วางขายเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2010 ขายได้มากกว่า 4 แสนแผ่นในวันแรก และมากกว่า 513,000 แผ่นในสัปดาห์แรก[101] เมื่อวันที่ 27 เมษายน ในงานอนิเมะเอ็กซ์โป งานมหกรรมอนิเมะที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีการประกาศว่าเอเคบีโฟร์ตีเอตจะมาเป็นแขกรับเชิญ และจะขึ้นแสดงในวันที่ 1 กรกฎาคมที่แอลเอไลฟ์ (L.A. Live)[102]

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม วงได้ออกจำหน่ายซิงเกิล "เฮฟวีโรเทชัน" (Heavy Rotation) มียอดจำหน่าย 880,760 แผ่น[103] ต่อมาวันที่ 23 ตุลาคม วงเข้าร่วมงานเอเชียซองเฟสติวัล จัดขึ้นโดยมูลนิธิแลกเปลี่ยนกิจกรรมระหว่างประเทศ ที่สนามกีฬาโอลิมปิกแจมซิล ประเทศเกาหลีใต้[104] 4 วันถัดมาหลังจากนั้น วงได้ออกวางขายซิงเกิลที่ 18 "บีกินเนอร์" (Beginner) ด้วยยอดขาย 826,989 แผ่นในอาทิตย์แรก และได้รับตำแหน่งกลุ่มไอดอลหญิงที่มียอดขายอาทิตย์แรกสูงที่สุด[105] ต่อมา สมาชิกวง มายุ วาตานาเบะ ปรากฏตัวในปกนิตยสารไอดอล อัพทูบอย ฉบับเดือนธันวาคม คู่กับไอริ ซูซูกิ สมาชิกวงคิวต์ ถือเป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างเอเคบีโฟร์ตีเอตกับเฮลโล! พรอเจกต์[106]

ในเดือนพฤศจิกายน 2010 วงได้เข้าร่วมงานกิจกรรมหลายอย่างนอกประเทศญี่ปุ่น อาทิเช่น งานเจแปนนีสป็อปคัลเจอร์เฟสติวัลที่กรุงมอสโก[107] งานอนิเมะเฟสติวัลเอเชีย ครั้งที่ 10 และงานสิงคโปร์ทอยเกมส์แอนด์คอมิกส์คอนเวนชัน ที่ประเทศสิงคโปร์[108][109] สมาชิกที่จบการศึกษาในปี 2010 ประกอบด้วยเอเรนะ โอโนะ ที่ลาวงไปเมื่อวันที่ 27 กันยายนเนื่องจากความต้องการในการทำงานด้านการแสดงที่ต่างประเทศ[110][111]

ซิงเกิลแรกในปี 2011 คือ "ซากูระโนะคินินาโร" วางขายเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ มียอดขายวันแรกจำนวน 655,000 แผ่น ซึ่งมากกว่าของบีกินเนอร์ที่ขายได้ 568,000 แผ่น[112] และมียอดขายทั้งหมดจำนวน 942,479 แผ่นในอาทิตย์แรก เป็นซิงเกิลที่มียอดขายเติบโตเร็วมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2000[113]

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีการประกาศอัลบั้มที่ 3 โคโคนิอิตะโคโตะ (Koko ni Ita Koto) ซึ่งประกอบด้วยเพลงใหม่ 11 รายการ[114] ต่อมาวงได้หยุดการแสดงในโรงละครทั้งหมดและงานกิจกรรมบางประเภทเนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ ทำให้เอเคบีโฟร์ตีเอตเริ่มโครงการ "ดาเรกะโนะทาเมะนิ" (Dareka no Tame ni) ซึ่งเป็นการระดมทุนบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านี้ วงยังได้จัดกิจกรรมการกุศลที่โยโกยามะอารีน่า และในงานเทศการภาพยนตร์โอกินาวะ ตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 27 มีนาคม ต่อมาวันที่ 15 มีนาคม มีการประกาศว่าวงเอเคบีโฟร์ตีเอตและวงน้องสาวอีก 3 วง ได้แก่เอสเคอีโฟร์ตีเอต เอสดีเอ็นโฟร์ตีเอต และเอ็นเอ็มบีโฟร์ตีเอต จะบริจาคเงินเป็นจำนวน 500 ล้านเยนในฐานะต้นสังกัดเอเคเอส[115] เดิมทีอัลบั้ม โคโคนิอิตะโคโตะ มีกำหนดการวางขายไว้วันที่ 6 เมษายน[114] แต่ด้วยเหตุการดังกล่าวจึงทำให้ถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 8 มิถุนายนแทน นอกจากนี้รายได้จากยอดขายบางส่วนของอัลบั้มนี้จะถูกสมทบรวมกับยอดบริจาคทั้งหมดด้วย[116] เมื่อวันที่ 1 เมษายน วงได้ปล่อยซิงเกิลพิเศษ "ดาเระกะโนะทาเมนิ-ว็อตแคนไอดูฟอร์ซัมวัน?-" (Dareka no Tame ni -What can I do for someone?-) โดยเปิดให้ดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ มีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาเหตุการณ์ภัยพิบัติเช่นกัน[117]

ใกล้เคียง

เอเคบีโฟร์ตีเอต เอเคบีโฟร์ตีเอตกรุ๊ป เอเคบีโฟร์ตีเอต ทีมทีพี เอเคบีโฟร์ตีเอต ทีมเอสเอช เอเค 47 เอเบร์ บาเนกา เอเค-74 เอเคเอ็ม เอเบร์ชี เฟร์นังจิส จี อังดราจี เอเคอร์ (อิสราเอล)

แหล่งที่มา

WikiPedia: เอเคบีโฟร์ตีเอต http://news.ninemsn.com.au/entertainment/8454843/j... http://www.akb48wrapup.com/2012/09/matsui-jurina-s... http://www.animenewsnetwork.com/interview/2010-07-... http://www.animenewsnetwork.com/news/2011-10-26/ak... http://www.animenewsnetwork.com/news/2011-11-14/ne... http://www.animenewsnetwork.com/news/2012-02-04/ja... http://www.animenewsnetwork.com/news/2012-04-20/ak... http://www.animenewsnetwork.com/news/2012-12-12/ak... http://aramajapan.com/news/music/oricon-unveils-th... http://www.asahi.com/culture/update/1121/TKY201011...