การพัฒนา ของ เอเอช-1_คอบรา

ภูมิหลัง

การพัฒนาที่ใกล้เคียงกับเบลล์เอเอช-1 มากที่สุดก็คือยูเอช-1 ไอโรควอยส์ที่เป็นต้นกำเนิดของเฮลิคอปเตอร์ยุคใหม่อันเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเวียดนามและยังคงเป็นหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ที่มีจำนวนมากที่สุดที่ยังประจำการอยู่ทุกวันนี้

ยูเอช-1 ได้สร้างทฤษฎีของทหารอากาศขึ้นมาในฐานะยุทธวิธีแบบใหม่ที่สามารถส่งกองกำลังของสหรัฐข้ามพื้นที่ได้อย่างกว้างขวาง ไม่เหมือนแต่ก่อนที่พวกมันไม่สามารถรบได้เป็นเวลานานและพวกมันก็ไม่สามารถคงตำแหน่งเอาไว้ได้ แผนก็คือทหารจะถูกขนส่งโดยกองบินยูเอช- ฮิวอี้เป็นระยะทางไกลเพื่อต่อสู้กับศัตรูในที่และเวลาที่ต้องการ[1]

ไม่นานมันก็ชัดเจนว่าเฮลิคอปเตอร์ขนทหารที่ไร้อาวุธนั้นตกเป็นเป้าของเวียดกงและกองทัพเวียดนามเหนือ โดยเฉพาะเมื่อต้องลงจอดเพื่อส่งทหารลง โดยปราศจากการสนับสนุนจากปืนใหญ่และกองกำลังพื้นดิน หนทางเดียวก็คือการช่วยจากทางอากาศด้วยเครื่องจักรที่สามารถคุ้มกันเฮลิคอปเตอร์ขนส่งได้และสามารถร่อนเหนือพื้นดินได้ในขณะที่ต่อสู้ ในปีพ.ศ. 2505 ยูเอช-1เอที่ติดอาวุธจำนวนไม่มากนักได้ถูกใช้เพื่อคุ้มกัน มันมีปืนกลและจรวดเป็นอาวุธ[2]

การขยายตัวอย่างมากของกองทัพอเมริกันในเวียดนามได้สร้างยุคใหม่ของสงครามจากอากาศ เฮลิคอปเตอร์ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในยุทธวิธีของสหรัฐ

เบลล์ 207 ไซโอซ์สเกาท์

เบลล์ แบบ 207 ไซโอซ์สเกาท์

เบลล์ได้ทำการค้นหาเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์จู่โจมมาตั้งแต่ช่วงปลายปีพ.ศ. 2493 และได้สร้างต้นแบบจำลองของเฮลิคอปเตอร์ดี 255 เอาไว้โดยใช้ชื่อว่า"ไอโรควอยส์วอริเออร์" ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2505 เบลล์ได้แสดงแบบจำลองให้กับทางกองทัพโดยหวังที่จะเรียกร้องขอทุนในการพัฒนาต่อไป ดี 255 ไอโรควอยส์วอริเออร์ได้ถูกวางแผนให้สร้างเพื่อเป็นอากาศยานจู่โจมที่มีพื้นฐานจากยูเอช-1บีและส่วนประกอบใหม่ๆ อย่างความผอมบาง ที่นั่งคู่ ห้องนักบินแบบเรียงกัน มันยังมีเครื่องยิงระเบิดในป้อมที่ส่วนจมูกของมันและปีกสำหรับติดตั้งจรวดหรือขีปนาวุธต่อต้านยานเกราะ เอสเอส-10[3]

กองทัพสนใจและได้ทำสัญญากับเบลล์ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2505 เบลล์ได้ดัดแปลงแบบ 47 ซึ่งนำไปสู่แบบ 207 ไซโอซ์สเกาท์ซึ่งได้บินครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2506[4] ไซโอซ์สเกาท์มีทุกอย่างที่ทำให้มันกลายเป็นเฮลิคอปเตอร์ยุคใหม่ ซึ่งมีทั้งที่นั่งแบบเรียงตามหลังปีกสำหรับอาวุธ และป้อมปืนที่ตรงส่วนคาง หลังจากการประเมินไซโอซ์สเกาท์ในช่วงต้นปีพ.ศ. 2507 กองทัพก็พอใจแต่ยังเชื่ออีกด้วยว่าไซโอซ์สเกาท์นั้นมีขนาดเล็ก อำนาจการยิงต่ำ ไม่ครอบคลุม และเปราะบางเกินไปที่จะนำมาใช้จริงๆ[4]

เอเอเอฟเอสเอส

ทางออกของกองทัพต่อจุดอ่อนของไซโอซ์สเกาท์คือการเริ่มการแข่งขันระบบการยิงสนับสนุนทางอากาศ (Advanced Aerial Fire Support System, AAFSS)[4] เอเอเอฟเอสเอสได้นำมาสู่เอเอช-56 ชียีนของบริษัทล็อกฮีด มันเป็นเฮลิคอปเตอร์จู่โจมขนาดหนักซึ่งซับซ้อนและแพงเกินไปจนถูกยกเลิกในพ.ศ. 2515[4] โครงการชียีนได้พัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตและแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ยอดเยี่ยมแต่ก็ไม่เคยได้ถูกนำมาใช้งานจริงๆ มันทำหน้าที่เป็นเฮลิคอปเตอร์รบที่สำคัญ

แบบ 209

ต้นแบบของเบลล์ 209 ในเอเอช-1 คอบราซีรีส์ส

ในช่วงเวลาเดียวกันถึงแม้ว่ากองทัพจะพึงพอใจในเอเอเอฟเอสเอสซึ่งเบลล์เฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ถูกคัดเลือก เบลล์ยังคงอยู่กับความคิดเดิมของพวกเขาในการสร้างเฮลิคอปเตอร์จู่โจมที่มีขนาดเล็กและเบากว่า[4] ในเดินมกราคม พ.ศ. 2508 เบลล์ได้ลงทุนเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างแบบใหม่

ระบบใบพัด 540 ของยูเอช-1ซีได้พัฒนาขึ้นโดยระบบเพิ่มความเสถียรในการควบคุม (Stability Control Augmentation System, SCAS) และเครื่องยนต์ ที53 ของยูเอช-1 พร้อมกับแบบของไซโอซ์สเกาท์ เบลล์จึงได้สร้างแบบ 209 ออกมา[4] แบบ 209 ของเบลล์ได้ผสมแบบจำลองมากมายของ"ไอโรควอยส์"[5]

ในเวียดนาม เหตุการ์ได้เพิ่มความต้องการในแบบ 209 การโจมตีกองกำลังของสหรัฐเพิ่มขึ้นและเมื่อสิ้นสุดพ.ศ. 2508 ทหารราบของสหรัฐในเวียดนามก็เพิ่มขึ้นถึง 50,000 นาย[4]

ในปีพ.ศ. 2508 ยังเป็นปีสิ้นสุดของการคัดเลือกเอเอเอฟเอสเอสแต่โครงการก็ต้องติดขัดทางด้านเทคนิคและปัญหาทางการเมือง กองทัพบกสหรัฐต้องการเฮลิคอปเตอร์จู่โจมแบบขั้วคราวในเวียดนามและขอให้บริษัทห้าบริษัทสร้างทางออกอย่างรวดเร็ว ผลที่ได้คือเอซีเอช-47เอของโบอิ่ง เอชเอช-2ซี โทมาฮอว์คของคาแมน 16เอช พาธไฟน์เดอร์ ไซคอสกี้ เอส-61 และเบลล์ 209[4]

ในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2508 เบลล์ได้ทำต้นแบบออกมาและสี่วันให้หลังมันก็ได้ขึ้นบิน ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2509 แบบ 209 ก็ได้รับเลือก จากนั้นกองทัพก็ทำสัญญาในการสร้างแบบ 209 ทั้งสิ้น 110 เครื่อง[4]

เบลล์ 209 ถูกใช้ในอีกหกปีต่อมาเพื่อทดลองอาวุธและอุปกรณ์ มันได้ถูกดัดแปลงเป็นเอเอช-1 แบบพื้นฐานในพ.ศ. 2513 แบบทดสอบถูกปลดเข้าสู่พิพิธภัณฑ์[5]

เข้าสู่การผลิต

แบบของเบลล์ 209 ได้ถูกดัดแปลงเพื่อเข้าสู่การผลิต ขาหยั่งแบบเก่าถูกแทนที่ด้วยแบบใหม่ที่ตายตัว ใบพัดแบบกว้างได้ถูกนำมาใช้ เพื่อการผลิตกระจกครอบห้องนักบินแบบเก่าได้ถูกแทนที่ด้วยกระจกกันกระสุนซึ่งทีความทนทานสูง[5]

ใกล้เคียง