ประวัติการใช้งาน ของ เอไอเอ็ม-120_แอมแรม

ในปี 1991 กองทัพอากาศสหรัฐ เป็นกองทัพแรกที่ได้รับจรวดนำวิถี เอไอเอ็ม-120เอ เข้าประจำการ ในปี 1992 ได้ถูกนำมาใช้งานครั้งแรกในสงครามอ่าวเปอร์เซีย (Operation Desert Strom)โดยติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ครองอากาศ แบบ เอฟ-15 ซี เป็นแบบแรกแต่ไม่เคยใช้ในการสู้รบ กองทัพอากาศสหรัฐประสบความสำเร็จในการรบทางอากาศกับจรวดนำวิถี แอมแรม ครั้งกับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ดี รุ่น สองที่นั่ง นักบินใช้จรวดนำวิถี เอไอเอ็ม-120 เอ ยิงเครื่องบินขับไล่ แบบ มิก-25 ของกองทัพอากาศอิรัคซึ่งละเมิดเขตห้ามบิน (No-Fly Zone) ตกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 1992 ความสำเร็จครั้งที่สองเกิดขึ้นในอีกเดือนต่อมา เป็นเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 เช่นเดิม แต่เป็นรุ่น เอฟ-16 ซี ที่นั่งเดี่ยว ยิงเครื่องบินขับไล่ มิก-23 ตกเมื่อเดือนมกราคม 1993ในอีก 1 ปีต่อมาในสงครามบอสเนียนักบินเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ซี ของกองทัพอากาศสหรัฐ ใช้จรวดนำวิถีเอไอเอ็ม-120 เอ ยิงเครื่องบินฝึกไอพ่น แบบ เจ-21 ของทัพอากาศบอสเนียตกเนื่องจากบินละเมิดเขตห้ามบินซึ่งสหประชาชาติกำหนดขึ้น หลังจากความสำเร็จยิงเครื่องบินตก 3 เครื่อง จรวดนำวิถี เอไอเอ็ม-120 ได้ถูกขนามนามว่า"สแลมเมอร์" (Slammer) ในระหว่าง Operation Allied Force การรบทางอากาศเหนือน่านฟ้ากรุงคอซอวอนักบินเครื่องบินขับไล่กองทัพอากาศสหรัฐฯและชาติพันธมิตรที่กำลังส่งกำลังทางอากาศเข้าร่วมปฏิบัติการใช้จรวดนำวิถี เอไอเอ็ม-120 เอ ยิงเครื่องบินขับไล่ มิก-29 ของกองทัพอากาศเซอร์เบียตกรวม 6 เครื่อง โดยเป็นผลงานของนักบินเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 ซี จำนวน 4 เครื่อง นักบินเครื่องบินขับไล่เอฟ-16ซี และ เอฟ-16 เอเอ็ม ของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์คนละ 1 เครื่องมีข้อมูลแย้งว่าผลงานของ เอฟ-16 ซี อาจจะเป็นผลงานของพลยิงจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยาน แบบ เอสเอ-7 ของทัพเซอร์เบียยิงเครื่องบินฝ่ายเดียวกัน

ในปี 1994 กองทัพอากาศมีความผิดพลาดในการใช้อาวุธเกิดขึ้นเช่นกัน เมื่อนักบินขับไล่ เอฟ-15 ซี กองทัพอากาศสหรัฐ ใช้จรวดนำวิถี แอมแรม ยิงเฮลิคอปเตอร์ แบบ ยูเอซ-60 เอ แบลคฮอว์คตกใน Northern no-Fly zone ทางตอนเหนือของอิรัค

ใกล้เคียง

เอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2559 เอไอเอส ฟุตซอล เอฟเอคัพ 2560 เอไอเอ็ม-54 ฟีนิกซ์ เอไอเอ็ม-120 แอมแรม เอไอเอ็ม-7 สแปร์โรว์ เอไอเอ็ม-9 ไซด์ไวน์เดอร์ เอไอเอ็ม-132 แอสแรม เอไอเอ เอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 เอไอเอส