ผู้สร้างกษัตริย์ ของ เฮนรี_สแตฟฟอร์ด_ดยุกที่_2_แห่งบักกิงแฮม

ดยุคแห่งบักกิงแฮมมีความซื่อสัตย์ต่อริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ผู้เป็นพระอนุชาของกษัตริย์มากเป็นพิเศษ ริชาร์ดนั้นเกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1452 จึงมีอายุมากกว่าดยุคแห่งบักกิงแฮมเพียงสองปี ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันฉันท์พี่น้องในราชสำนักของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1483 ได้เกิดการแย่งชิงอำนาจขึ้นระหว่างริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าผู้อารักขาตามพินัยกรรมของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด กับพระราชินีและครอบครัวของพระนาง ในช่วงเดือนเมษายน ค.ศ. 1483 ดยุคแห่งบักกิงแฮมช่วยดยุคแห่งกลอสเตอร์ "ปลดปล่อย" พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจากเครือญาติฝั่งวูดวิลล์ โดยได้นำตัวกษัตริย์น้อยมาอยู่ที่สตอนี สแตรตฟอร์ด ระหว่างที่เขามุ่งหน้าจากลัดโลว์ไปลอนดอน ริชาร์ดได้ทำการจับกุมตัวแอนโธนี วูดวิลล์ เอิร์ลริเวอร์ส์ที่ 2 พระมาตุลาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 กับลอร์ดริชาร์ด เกรย์ พระเชษฐาต่างบิดาของกษัตริย์ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ถูกประหารชีวิต


ดยุคแห่งบักกิงแฮมให้ความช่วยเหลือริชาร์ดอีกครั้งในการจับกุมตัววิลเลียม เฮสติงส์ บารอนเฮสติงส์ที่ 1 อดีตจางวางมหาดเล็กของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ซึ่งเป็นสมาชิกสภาองคมนตรีและเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของกษัตริย์น้อยในวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1483 ต่อมาเขาถูกประหารชีวิตเช่นกัน


ดยุคแห่งบักกิงแฮมได้เกลี้ยกล่อมพระราชินีให้ส่งตัวริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์ก พระอนุชาของกษัตริย์ไปอยู่ที่หอคอยแห่งลอนดอนกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 ที่กำลังรอการทำพิธีราชาภิเษก หลังได้ตัวดยุคแห่งยอร์กมาอยู่ในการควบคุม ริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์กล่าวหาเจ้าชายในหอคอยทั้งสองว่าเป็นบุตรนอกสมรส เนื่องจากบิดาของทั้งคู่หมั้นหมายอยู่แล้วกับเอเลนอร์ แทลบ็อตในตอนที่สมรสกับเอลิซาเบธ วูดวิลล์ ริชาร์ดได้ทำการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะขึ้นครองบัลลังก์เสียเอง ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1483 ดยุคแห่งบักกิงแฮมเป็นหนึ่งในขุนนางชั้นสูงที่พูดปลุกเร้าประชาชนในศาลากลางให้สนับสนุนริชาร์ดเป็นกษัตริย์


ดยุคแห่งบักกิงแฮมเคลื่อนไหวสนับสนุนการทำรัฐประหารของพระเจ้าริชาร์ดเนื่องจากไม่พอใจอิทธิพลของพวกวูดวิลล์ ญาติฝั่งภรรยาที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยและเพื่อรักษาผลประโยชน์ในทรัพย์สินที่ดินเดอ โบฮันของตน เขาได้รับสืบทอดทรัพย์สินของเอเลนอร์ เดอ โบฮัน เทียดซึ่งเป็นชายาของธอมัสแห่งวูดสต็อกและเป็นธิดาของฮัมฟรีย์ เดอ โบฮัน เอิร์ลแห่งเฮริฟอร์ด แมรี เดอ โบฮัน น้องสาวและทายาทร่วมของเอเลนอร์สมรสกับเฮนรี โบลิงโบรกที่ภายหลังขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 4 ทำให้ทรัพย์สินที่ดินเดอ โบฮันส่วนของเธอถูกรวมอยู่ในการครอบครองของราชวงศ์แลงคัสเตอร์ เมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ถูกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ปลดจากบัลลังก์ ดินแดนเหล่านั้นถูกจัดเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่เฮนรี สตาฟฟอร์ด ดยุคที่ 2 แห่งบักกิงแฮมมองว่าดินแดนดังกล่าวควรเป็นของตนซึ่งเป็นหลานชายของฮัมฟรีย์


ริชาร์ดรู้ซึ้งถึงความสำคัญของดยุคแห่งบักกิงแฮมและมองว่าเขาคือเพื่อนสนิทและพันธมิตรที่ไว้ใจได้ เขาได้เป็นผู้ถือชายผ้าคลุมในพิธีราชาภิเษกเป็นพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ของริชาร์ดในวันที่ 6 กรกฎาคม และเป็นผู้นำกลุ่มขุนนางถวายบังคมต่อกษัตริย์คนใหม่ พระเจ้าริชาร์ดได้ตอบแทนความซื่อสัตย์และภักดีของดยุคแห่งบักกิงแฮมด้วยการตั้งเขาเป็นหัวหน้าตุลาการและจางวางมหาดเล็กแห่งเวลส์ และเป็นตำรวจพระราชวังประจำปราสาททั้งหมดในเวลส์และรัฐชายแดนเวลส์ที่มีมากกว่าสี่โหล พร้อมกับพระราชทานดินแดนเดอ โบฮันที่เขาต้องการให้

ใกล้เคียง