แม็คฟีได้เข้าออดิชั่นเพื่อเข้าประกวดอเมริกันไอดอล ที่ซานฟรานซิสโก ด้วยการร้องเพลง "God Bless the Child" ของบิลลี ฮอลิเดย์ คณะกรรมการทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพอลล่า อับดุล, แรนดี้ แจ็คสัน และแม้แต่ ไซม่อน คาวเวลล์ต่างก็ชื่นชมกับความสามารถในการร้องเพลง และความสวยของเธอ ต่อมาในช่วงที่แม็คฟีแข่งขันดำเนินต่อไป ดีเจจากสถานีวิทยุอย่าง KROQ (เค-ร็อก) ของแอลเอ กล่าวถึงกระแสความนิยมของเธอว่าเป็น “แม็คฟี-เวอร์” (McPheever) และคำนี้ก็ถูกใช้อย่างกว้างขวางเมื่อมีการพูดถึงเธอคนนี้

ในการประกวดรอบตัดสินแม็คฟีมีโอกาสร่วมแสดงกับ K.T. Tunstall ในเพลง "Black Horse and the Cherry Tree” และในตอนสุดท้ายของรายการ แม็คฟีได้ร้องคู่กับมีทโลฟ ในเพลง It's All Coming Back To Me Now ซึ่งต่อมาโลฟอัดเพลงนี้กับ Marion Raven (อดีต M2M)

วันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2006 Sony BMG และ 19 Entertainment ประกาศว่า แม็คฟีได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด 19 Recordings Limited (ของ Simon Fuller ผู้สร้าง American Idol) มีอัลบั้มออกขายโดย RCA Records โดยออกซิงเกิ้ลแผ่นแรกของเธอ "Somewhere Over the Rainbow/My Destiny" วางขายเมื่อ 27 มิ.ย. 2006 ติดชาร์ทเพลงบิลบอร์ดที่อันดับ 4 และเป็นแผ่นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 2 (ของปี 2006) รองจาก "Do I Make You Proud?" ของเทเลอร์ ฮิคส์

อัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเธอเป็นชื่ออัลบั้มชุดนี้ ขายได้ 116,000 แผ่นในสัปดาห์แรกที่ออกวางขาย และเข้าอันดับ 2 ทันทีของบิลบอร์ด 200 ชาร์ท ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มนี้คือ "Over It" มิวสิกวิดีโอเพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ของรายการ MTV TRL และ VH1 (โดยเข้าไปเป็นอันดับ 1 ทันทีและครองแชมป์อยู่นานถึง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน)

ทางด้านการแสดง แม็คฟีได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ตลกเบาสมองเรื่อง บันนี่สาว หัวใจซี้ด (อังกฤษ: The House Bunnycode: en is deprecated ) รับบทเป็นสาวฮิปปี้ท้องแก่ ร่วมกับ แอนนา ฟารีส อำนวยการสร้างโดย Columbia Pictures และ Happy Madison Productions ของอดัม แซนด์เลอร์