ประวัติ ของ แคเตอร์แฮม

จุดเริ่มต้น

เมื่อบริษัทรถยนต์โลตัสเปิดตัวรถโลตัส เซเว่น รุ่นแรกในปี พ.ศ. 2500 ก็เป็นที่สนใจในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบยานยนต์ เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตที่มีน้ำหนักเบา ราคาถูก (ในขณะนั้น) และสามารถนำไปใช้แข่งได้ หลังจากนั้นจึงมีรถโลตัส เซเว่น รุ่นที่สอง, สาม และสี่ ในปี พ.ศ. 2503, พ.ศ. 2511 และ พ.ศ. 2513 ตามลำดับ

เดิมบริษัทแคเตอร์แฮมเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของรถโลตัส เซเว่น ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 และภายหลังจากที่บริษัทโลตัสได้ประกาศยุติการผลิตรถรุ่นเซเว่นแล้ว Graham Nearn เจ้าของบริษัทแคเตอร์แฮมในขณะนั้น ได้ซื้อสิทธิ์ในการผลิตรถเซเว่นนี้ต่อจากบริษัทรถยนต์โลตัสในปี พ.ศ. 2516 และได้เริ่มการผลิตรถโลตัส เซเว่น รุ่นที่สี่ ในนามรถแคเตอร์แฮม เซเว่น ในปีเดียวกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก จึงได้เปลี่ยนไปผลิตตามแบบรถโลตัส เซเว่น รุ่นที่สามแทนในปี พ.ศ. 2517

สำนักงานใหญ่ โรงงาน และโชว์รูมใหญ่ของแคเตอร์แฮม แต่เดิมจะตั้งอยู่ในเมืองแคเตอร์แฮม มณฑลเซอร์รีย์ ในอังกฤษ ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 บริษัทได้ย้ายสำนักงานใหญ่และโรงงานไปที่เมืองดาร์ตฟอร์ด มณฑลเคนต์ ในอังกฤษ ทั้งนี้ โชว์รูมและศูนย์บริการเดิมในเมืองแคเตอร์แฮมยังคงเปิดทำการอยู่เช่นเดิม

ลักษณะของรถ

แคเตอร์แฮม เซเว่น ในสนามแข่ง

รถแคเตอร์แฮมมีลักษณะเป็นแบบเครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง และมีสองที่นั่ง รถที่ผลิตขึ้นมานั้นจะมีสมรรถนะค่อนข้างสูง และมีน้ำหนักตัวรถเบา (บางรุ่นมีน้ำหนักน้อยกว่า 500 กิโลกรัม)

รถแคเตอร์แฮมจะมีระบบความปลอดภัยต่างๆ ในตัวรถอยู่ไม่มากนัก และไม่มีระบบต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ทำให้รถมีน้ำหนักเบา และเครื่องยนต์กลไกจะไม่ซับซ้อนมากนักเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่โดยทั่วไปในปัจจุบัน

รถแบบซื้อไปประกอบเอง

รถโลตัส เซเว่น แต่เดิมนั้น นอกจากจะจำหน่ายในแบบรถใหม่ที่ประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังมีการจำหน่ายในแบบขายชิ้นส่วนใหม่ครบทั้งคัน (อังกฤษ: kit car) เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปประกอบ โดยการประกอบชิ้นส่วนเองนั้นจะสามารถหลีกเลี่ยงภาษีรถยนต์ใหม่ของสหราชอาณาจักรได้ และรถแคเตอร์แฮมเองก็มีจำหน่ายในแบบชิ้นส่วนประกอบเช่นเดียวกัน โดยบางชิ้นส่วนหลักที่มีชิ้นส่วนย่อยจำนวนมาก เช่น เครื่องยนต์ ชุดเกียร์ เป็นต้น จะผลิตมาเรียบร้อยแล้วจากโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนนั้นๆ อีกทีหนึ่ง เพื่อให้นำชิ้นส่วนใหญ่ๆ ไปประกอบได้ทันที หรือหากจะซื้อไม่ครบทุกชิ้นส่วน เพื่อนำชิ้นส่วนจากแหล่งอื่นมาติดตั้งแทน เช่น เครื่องยนต์ ล้อ ฯลฯ ก็สามารถทำได้

ปัจจุบัน นอกเหนือจากการจำหน่ายรถใหม่ที่ประกอบเรียบร้อยแล้ว แคเตอร์แฮมยังคงมีการจำหน่ายรถในลักษณะจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบอยู่ ยกเว้นรุ่น CSR (รถเซเว่นรุ่นที่ 6) ที่ไม่มีการจำหน่ายในลักษณะแยกชิ้นส่วน

แคเตอร์แฮมในตลาดโลก

เนื่องจากรถแคเตอร์แฮมนั้นเป็นที่รู้จักนอกสหราชอาณาจักร แคเตอร์แฮมจึงได้ส่งออกรถออกไปจำหน่ายยังประเทศอื่นมากขึ้น ทั้งแบบประกอบเสร็จสมบูรณ์ และแบบชุดชิ้นส่วนประกอบ โดยจะขึ้นอยู่กับกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ของประเทศปลายทาง

ในสหรัฐอเมริกา รถแคเตอร์แฮมมีจำหน่ายเฉพาะในแบบชิ้นส่วนประกอบเองเท่านั้น เนื่องจากไม่มีระบบความปลอดภัยสมัยใหม่บางประการ ซึ่งเป็นข้อบังคับในสหรัฐฯ ที่กำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องติดตั้งในรถใหม่ แต่ไม่ได้บังคับรวมไปถึงบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ประกอบรถยนต์ขึ้นเอง อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องประกอบเอง โดยอาจว่าจ้างตัวแทนจำหน่ายหรือผู้อื่นให้ประกอบรถแทน

แคเตอร์แฮม 21

ในปี พ.ศ. 2537 แคเตอร์แฮมผลิตรถอีกรุ่นหนึ่งคือ แคเตอร์แฮม 21 ซึ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานคล้ายคลึงกับรุ่นเซเว่น แต่มีตัวถังเป็นแบบโรดสเตอร์ รถรุ่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จทางการค้า เนื่องจากรถโลตัส อีลิส (Lotus Elise) ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกับรุ่น 21 นั้นเป็นรถที่ดูดีกว่า และขายดีกว่ามาก แคเตอร์แฮมหยุดผลิตรถรุ่นนี้ไปในปี พ.ศ. 2542