ประวัติ ของ แดซ็อง

2549-2550 เดบิวต์กับบิ๊กแบงและผลงาน

ถึงแม้ว่าครอบครัวของแดซ็องต่อต้านความคิดการเป็นนักร้อง แต่แดซ็องก็มุ่งมั่นที่จะเป็นนักร้องให้ได้ ซึ่งในที่สุดเขาได้รับการตอบรับจาก YG Entertainment จากการออดิชั่น หลังจากนั้นเขาได้ร่วมรายการแนวสารคดี ซึ่งร่วมกับเด็กฝึกหัดในค่ายคนอื่นๆ ด้วย ได้แก่ จี-ดรากอน ท็อป แท ยัง ซึง รี และ ฮยอนซึง Hyunseung (So-1) หลังจากฮยอนซึงไม่ได้รับการคัดเลือก บิ๊กแบงก็ได้เดบิวต์ในปี 2549 ด้วยสมาชิก 5 คน

การปรากฏตัวครั้งแรกในนามของวง เกิดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2549 ในคอนเสิร์ต ฉลองครบรอบ 10 ปี ของ YG และเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2549 พวกเขาได้ปรากฏตัวในทีวีเป็นครั้งแรก ซิงเกิ้ลเดี่ยวเพลงแรกของแดซ็องคือ “Useo Bonda” (Korean: "웃어본다", "Try Smiling")ซึ่งรวมอยู่ใน ซิงเกิ้ล BIGBANG 3 และอัลบั้มแรกของวงในปี 2550 ซึ่งปล่อยออกมาช่วงสิ้นปี 2549 อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จพอสมควร ซึ่งเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากอย่าง “Lies” (Korean: 거짓말; Revised Romanization: Geojitmal) จากมินิอัลบั้มในปี 2550 Always ซึ่งติดอันดับ ท็อป ในหลายชาร์ต ตั้งแต่ถูกปล่อยออกมา ซิงเกิ้ล “Last Farewell” (Korean: 마지막 인사; Revised Romanization: Majimak Insa) จากมินิอัลบั้ม Hot Issue และ ซิงเกิ้ล “Day by Day (Korean: 하루하루; Revised Romanization: Haru Haru) จากมินิอัลบั้ม Stand UP ก็ได้รับความนิยมจนติดท็อปชาร์ตด้วยเช่นกัน

หลังจากเดบิวต์ได้ไม่นาน แดซ็องก็มีปัญหาเรื่องเสียง (Voice Chord Nodules) โดยตรวจพบว่ามีตุ่มที่เส้นเสียง เป็นเวลาเกือบปีที่เขาได้พยายามและรักษาอาการกลัวที่สาธารณะและอาการตื่นเวที อย่างไรก็ตามเขาได้รับการช่วยเหลือจาก รุ่นพี่ กมมี่ (Gummy) ที่เคยมีอาการป่วยเช่นนี้มาก่อน ซึ่งจากนั้นทั้งสองจึงสนิทกันเรื่อยมา และก่อนที่บิ๊กแบงจะปล่อยอัลบั้มที่สอง อาการป่วยของเขาก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

2551-2552: เพลง Trot, Family Outing, Cats และอุบัติเหตุทางรถยนต์

ในระหว่างที่มีอัลบั้มต่างๆ ออกมา สมาชิกในวงที่ยังคงทำกิจกรรมโซโล่เดี่ยวกันอยู่นั้น แดซ็องก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงทรอทเพลงแรก "Nal Bwa Gwisoon" (Korean: "날 봐, 귀순", "Look at Me, Gwisun") ออกมาในปี 2551 แดซ็องตัดสินใจทำแม้จะยังรู้สึกกังวลว่าอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของวง แต่เขาก็ต้องการทำในสิ่งที่แตกต่าง แดซ็องเข้าเรียนในสาขาวิชาดนตรีร่วมสมัยที่มหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyung Hee University) ในปี 2551 และยังเข้าร่วมในรายการ "Family Outing" ในฐานะสมาชิกหลักของรายการ ซึ่งในรายการยังได้เปิดเผยเรื่องที่แดซ็องมี IQ 110 อีกด้วย และเขายังเข้าร่วมแสดงละครเวทีเรื่อง Cats ในบทของ Rum Tum Tugger. แดซ็องยังได้รับหน้าที่พิธีกรในรายการเพลง Music Core ของช่อง MBC คู่กับสมาชิกในวงอย่าง ซึงรีในระหว่างที่บิ๊กแบงหยุดทำกิจกรรมในช่วงต้นปี 2552, แดซ็องได้ปล่อยเพลงทรอทซิงเกิ้ลที่สองในช่วงต้นปี 2552, "Daebukiya" ("Korean: 대박이야", "Big Hit") เขายังมีตารางงานร่วมกับสมาชิกในวงอย่าง ซึงรี ในละครเพลงอัตชีวประวัติ "Shouting" แต่แดซ็องได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเดือนสิงหาคม ก่อนที่ละครเพลงจะเริ่มแสดง และเขาจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างที่แดซ็องกำลังเดินทางกลับบ้าน หลังจากถ่ายทำรายการ Family Outing เสร็จ แดซ็องนั่งข้างคนขับ (ผู้จัดการของแดซ็อง) และผู้ประสานงานนั่งอยู่ที่เบาะหลัง. จากการได้รับบาดเจ็บในครั้งนั้น ทำให้แดซ็องต้องหยุดทำกิจกรรมทั้งหมด และในเดือนตุลาคม 2552 แดซ็องก็กลับมาทำงานร่วมกับวงของเขาใน Dream Concert

2553: ปล่อยอัลบั้มโซโล่ ละคร What’s Up รายการทอล์คโชว์ Night After Night

อ้างอิงจากต้นสังกัด YG Entertainment แดซ็องควรจะปล่อยอัลบั้มโซโล่ในปี 2553 พร้อมกับเพื่อนร่วมวงอย่าง TOP ท็อป แต่ก็ไม่มีการปล่อยอัลบั้มในปีนั้นเพลงใหม่ของแดซ็อง "Cotton Candy" ถูกปล่อยในเดือนมกราคม 2553 ซึ่งประพันธ์โดย Jung Ji Chen และแดซ็องเป็นคนเขียนเนื้อเพลงด้วยตัวเขาเอง แต่อย่างไรก็ตาม อัลบั้มก็ยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมา ในช่วงต้นปี 2554 ต้นสังกัด YG Entertainment บอกว่าแดซ็องและซึงรีจะทำการโปรโมทกิจกรรมในช่วงปีนี้ แต่กลับไม่มีงานในส่วนของแดซ็องออกมา ส่วนซึงรีได้ปล่อยมินิอัลบั้มในเดือนมกราคม 2554

ในปี 2553 แดซ็องได้เริ่มถ่ายละครล่วงหน้า เรื่อง What's Up ของช่อง MBN ซึ่งเขียนบทโดยนักเขียนบทชื่อดัง Song Ji Na การถ่ายทำสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 และแดซ็องยังเป็นหนึ่งในพิธีกรรายการทอล์คโชว์ Nigth After Night ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553 ในปีเดียวกันนั้นเอง แดซ็องยังได้ร่วมงานในอัลบั้ม H-Logic ซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ของ Lee Hyo Ri โดยการร้องเพลงคู่กันในเพลง "How Did We Get"[1]

2554–ปัจจุบัน: การกลับมาของบิ๊กแบงและอัลบั้มเดี่ยว

ในเดือนเมษายน 2554 แดซ็อง ได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลง “Baby Don’t Cry” ซึ่งเป็นเพลงโซโล่เดี่ยว และอยู่ใน อัลบั้มพิเศษ ของ บิ๊กแบง (4th mini ablum) เพลงนี้ได้มีการแสดงสดครั้งแรกในคอนเสิร์ต Big Show 2011 ในเดือนกุมภาพันธ์ และเพลงนี้ยังสามารถขึ้นชาร์ตของเพลงเกาหลี คู่กับเพลงไตเติ้ล ของมินิอัลบั้มนี้อีกด้วยวันที่ 31 พฤษภาคม แดซ็องเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้คนขับมอเตอร์ไซค์เสียชีวิต การสอบสวนจบลงด้วยการปรับเท่านั้น แต่แดซ็องได้แสดงถึงความเสียใจโดยการพักงานบันเทิง และกิจกรรมทุกอย่างกับบิ๊กแบง ในขณะเดียวกันช่วงที่เขาหายไปจากวงการบันเทิง แดซ็องใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเป็นอาสาสมัครที่โบสถ์ที่เขามักไปเป็นประจำ

หลังจากหายไปจากวงการบันเทิง แดซ็องกลับมาอีกครั้งเพื่อร่วมงาน MTV EMA เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ที่เมือง Belfast, ไอร์แลนด์เหนือ และ เขายังได้เข้าร่วมคอนเสิร์ต YG Family ในเดือนธันวาคม 2554 และ มกราคม 2555 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลี และ ประเทศญี่ปุ่น“What’s Up” เป็นละครเพลงเรื่องแรกของแดซ็องที่ได้เล่น โดยออกอากาศช่อง MBN วันที่ 3 ธันวาคม 2554 ซึ่งละครเรื่องนี้เขาได้ร้องเพลงประกอบละครชื่อ “Lunatic” อีกด้วย และยังปล่อย online ในวันเดียวกัน

เดือนมีนาคม 2555 แดซ็องกลับเข้าร่วมกิจกรรมกับบิ๊กแบงอีกครั้ง "Alive" เป็นอัลบั้มล่าสุดที่พวกเขาได้ทำออกมา และในครั้งนี้แดซ็องยังได้มีเพลงเดี่ยวที่ชื่อว่า “Wings” ซึ่งจีดราก้อนหัวหน้าวงและแดซ็องร่วมกันแต่งเนื้อเพลง และชเวพิลกัง นักแต่งเพลงของ YG รับหน้าที่เป็นผู้แต่งทำนองเพลงและเรียบเรียง[2] โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับตัวของแดซ็องและความรักจากแฟนๆที่ได้รับอย่างมากมาย

แดซอง ได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 โดยใช้ชื่อว่า D'scover อัลบั้มนี้จะเป็นการนำเอาเพลงญี่ปุ่นกลับมาร้องใหม่ ซึ่งมีทั้งหมด 12 เพลง รวมทั้งเพลง Wing และ Baby Don't Cryด้วย และได้มีการยืนยันแล้วว่า แดซอง จะทำการแสดงคอนเสิรต์ในประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยเริ่มที่เมือง Kobe วันที่ 23 และ 24 มีนาคม 2556 ที่ Kobe World Memorial Hall และที่ Tokyo วันที่ 30 และ 31 มีนาคม 2556 ที่ Tokyo Nippon Budokan Centre