แร็กคูน (
อังกฤษ: raccoon, common raccoon) เป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดหนึ่ง ใน
อันดับสัตว์กินเนื้อ มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Procyon lotor อยู่ใน
วงศ์แร็กคูน (Procyonidae)มีความยาวลำตัวราว 2
ฟุต มีหางเป็นพวงมีแถบ
สีดำคาดเป็นปล้อง ๆ ยาวราว 10
นิ้ว ขนตามลำตัว
สีน้ำตาลปน
เทา ใบหน้า
สีขาวมีแถบ
สีดำคาดจากตาไปเป็นแถบตลอดแก้ม แลดูคล้ายเหมือน
โจรสวม
หน้ากากเป็นสัตว์ที่กระจายพันธุ์ไปทั่วใน
ทวีปอเมริกาเหนือและ
อเมริกากลางในหลายพื้นที่ ทั้งใน
ป่า หรือแม้แต่
ชุมชนของ
มนุษย์ เป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดี กินอาหารได้หลากหลายประเภททั้งเนื้อสัตว์และ
พืช อีกทั้งยังชอบที่จะอยู่ใกล้
พื้นที่ชุ่มน้ำด้วยการจับ
สัตว์น้ำกินเป็นอาหาร เช่น
กบ,
ปลา,
กุ้ง และ
ปู หรือ
เต่าขนาดเล็กเป็นอาหาร รวมทั้ง
นกหรือ
แมลงปีกแข็งขนาดเล็กกินเป็นอาหารได้ด้วย แต่ไม่สามารถที่จะ
ว่ายน้ำได้ จะใช้วิธีการจับในน้ำตื้น ๆ ที่ขาหยั่งถึงแทน ในช่วง
ฤดูแล้งที่อาหารขนาดแคลนก็จะกินลูกไม้,
ผลไม้ และ
ดอกข้าวโพด เป็นอาหาร หรืออาจจะบุกเข้าไปใน
บ้านเรือนของมนุษย์ ขุดคุ้ยหา
ขยะหรือเศษอาหาร หรือแม้กระทั่งเปิด
ตู้เย็นหากินแร็กคูน เป็นสัตว์ที่ใช้เท้าหน้าได้อย่างคล่องแคล่วเหมือน
มือสำหรับหยิบจับอาหาร ซึ่งสามารถกระทำได้ถึงขนาดคลายปม
เชือก และยังเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมพิเศษ คือ ก่อนจะกินอาหาร มักจะนำไปล้างน้ำเสียก่อน จนมี
ความเชื่อว่าเป็นสัตว์รักสะอาด แต่ความจริงแล้ว เป็นพฤติกรรมที่จะนวดอาหารให้นิ่มซะก่อน ก่อนที่จะกิน แร็กคูน เป็นสัตว์ที่ปีน
ต้นไม้เก่ง ทำรังอยู่บนยอดไม้และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนต้นไม้ ในเวลากลางวันจะนอนขดอยู่ตามพงไม้ หรือซอกหิน หรือนอนผึ่ง
แดดอยู่ในรัง ในตอน
กลางคืนจะออกหากิน โดยใช้เส้นทางเดิม และมักจะใช้เส้นทางที่เป็นพื้นแข็ง เพื่อไม่ให้เกิด
รอยเท้าตัวเมียออกลูกครั้งละ 4-6 ตัว ในโพรงไม้ ในช่วง
ฤดูหนาวที่
หิมะตกและอาหารขาดแคลน แร็กคูนจะใช้เวลาช่วงนี้ในการ
จำศีลตลอดฤดูกาลแร็กคูน เป็นสัตว์ที่มีความ
น่ารัก จึงมีผู้นำมาเลี้ยงเป็น
สัตว์เลี้ยง อีกทั้ง
ขนและ
หนังมีความหนานุ่มและสีสวย จึงมีการล่าเพื่อทำเป็น
เสื้อขนสัตว์ด้วย
[2]ปัจจุบันกลายเป็น
ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปกลาง โดยแร็กคูนถูกนำเข้าไปในเยอรมนีครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1930 ปัจจุบันมีปริมาณแร็กคูนในยุโรปมากกว่า 10,000 ตัว และหลายตัวก็อยู่ใกล้กับชุมชนเมือง
[3]