แอบู แบกร์ แอล-รอซี (
อักษรโรมัน: Abū Bakr al-Rāzī; ชื่อเต็ม: أبو بکر محمد بن زکریاء الرازي, Abū Bakr Muḥammad bin Zakariyyāʾ al-Rāzī)
[lower-alpha 1] ป. ค.ศ. 864 หรือ 865–925 หรือ 935,
[lower-alpha 2] หรือมักเรียกว่า
แอลรอซี หรือชื่อ
ละติน ราซีส (
อักษรละติน: Rhazes หรือ Rhasis) เป็นนักศิลปวิทยาการชาวเปอร์เซีย
[1] ผู้รู้ด้าน
แพทยศาสตร์,
ปรัชญา และ
วิชาเล่นแร่แปลธาตุ มีชีวิตอยู่ในสมัย
ยุคทองของอิสลาม รอซีได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การแพทย์
[2] นอกจากนี้ยังมีผลงานเชียนในสาขาวิชา
ตรรกศาสตร์,
ดาราศาสตร์ และ
ไวยากรณ์[3] และเป็นที่รู้จักจากงานเขียน
วิพากษ์ศาสนา โดยเฉพาะในประเด็น
การเป็นผู้ส่งสาร และ
การเปิดผยบางสิ่งจากพระเจ้าแก่มนุษย์[4]แอลรอซีเป็นบุคคลแรก ๆ ที่ใช้หลักของ
การแพทย์เชิงทดลอง รวมถึงยังประกอบวิชาชีพเป็นหัวหน้าแพทย์ทั้งใน
แบกแดด และใน
ราย[5][6] ในฐานะอาจารย์แพทย์ เขายังได้สอนศิษย์จากทุกภูมิหลังและทุกความสนใจ และทุ่มเทให้กับการสอนไม่ว่าศิษย์จะยากดีมีจนเช่นไร
[7] ในบรรดาผลงานในสาขาแพทยศาสตร์ของเขา เขาเป็นคนแรกที่ระบุการแยกลักษณะทางคลินิกระหว่าง
ฝีดาษ และ
หัด ได้ รวมถึงยังเสนอแนวทางการรักษาฝีดาษไว้เช่นกัน
[8]งานเขียนและแนวคิดทางการแพทย์ของเขาถูกนำไปแปลและกลายมาเป็นที่รู้จักในบรรดาแพทย์ยุคกลางของยุโรป งานของเขามีอิทธิพลมากต่อวงการแพทยศาสตร์ศึกษาของโลกตะวันตกละตินในเวบานั้น
[5] บางบทจากงานเขียนเล่ม Al-Mansuri ได้แก่บท "ว่าด้วยศัลยศาสตร์" และ "เล่มทั่วไปสำหรับการรักษา" กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของตะวันตก
[5] Edward Granville Browne ยกย่องให้เขาเป็น "น่าจะเป็นแพทย์มุสลิมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นต้นฉบับที่สุด และหนึ่งในนักเขียนที่ผลงานเขียนมีอิทธิพลเยอะที่สุด"
[9] นอกจากนี้ เขายังได้รับการเรียกว่าเป็น "บิดาแห่ง
กุมารเวชศาสตร์"
[10][11] รวมถึงยังมีบทบาทมากต่อแพทยศาสตร์ในสาขา
สูติศาสตร์ และ
จักษุวิทยา[12] หนึ่งในผลงานสำคัญของเขาคือเป็นแพทย์คนแรกที่พบและบรรยายถึงการตอบสนองของรูม่านตาต่อแสงไฟ
[11]