ประวัติ ของ โคลด์เพลย์

วงได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541 โดยเด็กนักเรียน จาก UCL ซึ่งนั่นก็ได้แก่ คริส มาร์ติน, จอน บั๊คแลนด์, กาย เบอร์รี่แมน และ วิล แชมป์เปี่ยน พวกเขาลงทุนบันทึกเดโมเทปด้วยตัวเอง ทำ อีพีเซฟตี้ (EP safety)

ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกที่ โคลด์เพลย์บันทึกเสียงหนึ่งในเพลงของพวกเขา “Bigger Stronger” เป็นเพลงที่ถูกจับตามองจากสื่อต่างในอังกฤษๆ เป็นอย่างมาก โคลด์เพลย์ได้ไปแสดงที่เดอะฟอลค่อน ย่านแคมแดน ในเดือนธันวาคม ที่ซึ่งพวกเขาถูกจับตามองเป็นอย่างมากจากบรรดาสื่อที่มีอิทธิพล ค่ายเพลงเฟียร์ซ แพนด้า และไซม่อน วิลเลี่ยม จากนิตยสาร NME (นิตยสารวงการเพลงออลเทอร์นาทิฟ) ผู้ซึ่งทำให้วงของพวกเขาดังเป็นพลุแตก

ซิงเกิ้ลฮิต “Brother & Sister” ที่ทำกับค่ายเฟียร์ซ แพนด้าได้เข้าไปติดชาร์ตท็อปวันฮันเดรดในช่วงต้นปี 2542ในเดือนพฤษภาคม โคลด์เพลย์ก็ได้ทำสัญญากับค่ายพาร์โลโฟนจากการที่พวกเขาได้ไปปรากฏตัวในงานเทศกาลดนตรี แกลสตันบิวรี่ ก็ได้ปล่อย อีพีชุดใหม่คือ “The Blue Room” ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกที่ทำกับ ค่ายพาร์โลโฟน ในปี พ.ศ. 2543 พวกเขาก็ออกทัวรคอนเสิร์ต ร่วมกับวงหน้าใหม่ Terris และเล่นเป็นวงเปิดให้กับวง Muse

เพลงที่ยอดฮิตของพวกเขาคือ Shiver, Yellow และ Trouble ในอัลบั้ม Parachutes ที่วางแผงในเดือน กรกฎาคม และวงของพวกเขายังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mercury MusicPrize อีกด้วย

อัลบั้มที่ 2 A Rush of Blood to the Head โคลด์เพลย์ได้กลับสตูดิโอเพื่อทำอัลบั้มในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2544 อัลบั้มออกวางขายเดือน สิงหาคม 2002 อัลบั้มนี้มีเพลงฮิตอย่าง "In My Place", "The Scientist", และ "Clocks" นอกจากนั้นเพลง "Clocks" ยังได้รางวัลแกรมมี่สาขา Record of the Year ซึ่งถือเป็นรางวัลสาขาใหญ่ไปครองอีกด้วย

หลังทิ้งช่วงจากอัลบั้ม A Rush Of Blood To The Head เป็นเวลา 2 ปีกว่า 6 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ก็ได้ออกอัลบั้ม X&Y (เอ็กซ์ แอนด์ วาย) ที่พวกเขาได้ตระเวน ทำการบันทึกเสียงถึง 8 สตูดิโอไม่ว่าจะเป็นที่ชิคาโก, นิวยอร์ก, ลอสแอนเจลิส, ลิเวอร์พูล, และลอนดอน กับซิงเกิ้ลแรก “Speed of Sound” ที่เปิดตัวอันดับ 8 ชาร์ตบิลบอร์ดในอาทิตย์แรก สร้างสถิติเป็นวงจากอังกฤษวงที่สองต่อ จาก เดอะ บีทเทิลส์ ที่สามารถนำซิงเกิ้ลที่ปล่อยไปเพียงอาทิตย์แรกเข้าสู่ Top 10 ของชาร์ตฝั่งอเมริกา[2]

วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2549 โคลด์เพลย์ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Front Row ทาง BBC Radio 4 ว่า Brian Eno จะมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้อัลบั้มที่ 4 ของพวกเขา[3]นอกจากนั้นเดือน มีนาคม พ.ศ. 2549 Timbaland ได้บอกกับนิตยสาร GQ Magazine ว่าเขาจะมาร่วมทำอัลบั้มให้กับโคลด์เพลย์ในอัลบั้มหน้าด้วย[4]