โคลอี เกรซ มอเรตซ์ (
อังกฤษ: Chloë Grace Moretz เกิด 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997[
ต้องการอ้างอิง]) เป็นนักแสดงและนางแบบชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง
ซัมเมอร์ของฉัน 500 วัน ไม่ลืมเธอ และ
Diary of a Wimpy Kid เธอยังรับบทเป็นฮิต-เกิร์ล ในหนังแนว
ซูเปอร์ฮีโรในปี 2010 เรื่อง
เกรียนโคตร มหาประลัย[1] รับบทแอบบี้ ใน
Let Me In[2] และในหนังแนว
สยองขวัญ รับบทเป็นแครี่ ไวท์ ใน
Carrieมอเรตซ์เริ่มงานสายบันเทิงตั้งๆแต่อายุ 5 ขวบ ในนิวยอร์กซิตี[
ต้องการอ้างอิง] กับงานนางแบบประจำโครงการรณรงค์ระดับชาติต่างๆ ซึ่งพบเห็นได้ตามสื่อสิ่งพิมพ์และจอแก้ว พออายุ 6 ขวบ เธอและครอบครัวย้ายมาอยู่
ลอสแอนเจลิส รวมทั้งลงหลักปักฐานบทต่อเนื่องในดราม่าเรื่อง The Guardian ทางช่องซีบีเอสหลังจากนั้น เธอแสดงในภาพยนตร์นอกกระแสเรื่อง The Heart of the Beholder ต่อมา รับบทนำใน The Amityville Horror ฉบับรีเมกโดย
ไมเคิล เบย์ ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นที่กล่าวขาน ในภาพยนตร์เรื่อง เกรียนโคตร มหาประลัย เป็นภาพยนตร์แอคชันดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนในชื่อเดียวกันของ
มาร์ก มิลลาร์ โดยรับบทเป็น ฮิตเกิร์ล สาวน้อยดุดันและปากไม่มีหูรูดวัย 11 ปี ที่ร่วมทีมกับพ่อ (นำแสดงโดย
นิโคลัส เคจ) ต่อกรกับอาชญากรรม ซึ่งภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก ส่วนโคลอีก็ถูกพาดหัวว่า "ประสบความสำเร็จมากจริงๆ สาวน้อยสุดฮิตที่กำลังมาแรง" ในนิตยสารทีนโว้ก ปี 2010 ในภาพยนตร์เรื่อง Diary of a Wimpy Kid ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือชุดสำหรับเด็กยอดนิยมของ
เจฟฟ์ คินนีย์ โดยมอเรตซ์รับบทเป็นเด็กสาวมัธยมเคร่งขรึมในชุดดำที่ฉลาดกว่าเด็กวัยเดียวกันทั่วไปต่อมา โมเรตซ์แสดงในหนังสองเรื่องควบ เรื่องแรกคือ Texas Killing Fields กำกับโดย
อามี มานน์ เป็นไซโคทริลเลอร์ที่มีเค้าโครงจากเรื่องจริงในเมืองเล็กๆ ใน
เพนซิลวาเนียเมื่อปี 1973 แสดงร่วมกับ
แซม เวิร์ธธิงตันและ
เจสซิกา แชสเตน ต่อมา โมเรตซ์เดินทางไปยุโรปเพื่อร่วมงานกับ
มาร์ติน สกอร์เซซี ใน
ปริศนามนุษย์กลของอูโก้ เป็นเรื่องราวของเด็กกำพร้าอายุ 12 ที่ใช้สถานีรถไฟในปารีสต่างบ้าน โดยเป็นหนังสามมิติเรื่องแรกของสกอร์เซซีและวางกำหนดฉายไว้ในเดือนธันวาคมปี 2011ในปี 2009 โมเรตซ์แสดงภาพยนตร์คอเมดี-ดรามาเรื่อง ซัมเมอร์ของฉัน 500 วัน ไม่ลืมเธอ นำแสดงโดย
โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ และ
ซูอีย์ เดส์ชาเนล ซึ่งภาพยนตร์ได้รับเสียงวิจารณ์ด้านบวกและประสบความสำเร็จระยะเวลานาน มีรายได้รวมจากทั่วโลก 60 ล้านเหรียญ
ดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 7.5 ล้านเหรียญดอลลาร์ นักวิจารณ์ชื่นชมว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปี ค.ศ. 2009 อีกด้วย