ลักษณะทางกายภาพ ของ โดโด

ไฟล์:Dodo skeleton.gifโครงกระดูกของโดโด
  • น้ำหนัก : โตเต็มที่หนักประมาณ 23 กิโลกรัม (50 ปอนด์)
  • สูง : ประมาณ 1 เมตร

ความรู้ปัจจุบันเกี่ยวกับโดโด มาจากทั้งบันทึกและข้อเขียนของกะลาสีและกัปตันเรือที่ขึ้นฝั่งมอริเชียส เมื่อ พ.ศ. 2143-พ.ศ. 2243ภาพวาดจากผู้คนน้อยนิดที่เคยเห็นขณะพวกมันมีชีวิต (แม้ว่าจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าศิลปินเหล่านั้นตอกไข่ใส่สีโดโดจากที่เห็นบ้างหรือไม่)

ซากฟอสซิลเล็กน้อยที่ขุดค้นได้จากเกาะถูกเก็บรักษาที่บริติชมิวเซียม รอยเท้ารอยจิกถูกเก็บรักษาไว้ที่ออกซฟอร์ด จากบันทึกและภาพเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์และนักปักษีวิทยาร่วมกันปะติดปะต่อรายละเอียดที่ประกอบขึ้นเป็นโดโด

ธันวาคม พ.ศ. 2548 พบหลักฐานสำคัญบนเกาะมอริเชียส พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งดับลินรวบรวมข้อมูลจากกระดูกเท้าและหัวที่ยังไม่บุบสลาย ซึ่งบรรจุเนื้อเยื่ออ่อนของสัตว์ชนิดนี้ ซากโดโดสต๊าฟชิ้นสุดท้ายที่พิพิธภัณฑ์ Ashmolean Museum ในออกซฟอร์ดถูกเผาในปี ค.ศ. 1755 โดยสามารถกู้เท้าและหัวได้และถูกจัดแสดงถึงปัจจุบัน

โดโด ตัวใหญ่ อ้วนปุ๊กลุกตัวใหญ่มาก หนักถึง 23 กิโลกรัม (50 ปอนด์)มีขนสีเทาถึงน้ำเงิน 23 เซนติเมตร (9 นิ้ว)

หัวมีสีเทาเทาอ่อนกว่าตัว ตาเล็กสีเหลืองปากโต โค้งและเป็นตะขอ สีเขียวอ่อนหรือเหลืองเพล อันเป็นจุดเด่นที่สุดจะงอยปากค่อนข้างดำ มีจุดแดงเรื่อปกคลุมด้วยขนสีเทาอ่อนนุ่ม มีปุยสีขาวหยิกชูเชิดเป็นหาง

โครงสร้างหน้าอกไม่รองรับการบินปีกไร้ประโยชน์ที่เล็กมาก บอบบางเกินจะยกโดโดขึ้นจากพื้น จึงบินไม่ได้ผู้คนที่เคยเห็นมักคิดว่ามันไม่มีปีก อย่างที่เขาเรียกว่า ปีกเล็กที่เล็ก (little winglets)เพราะเป็นนกบนพื้นดิน ที่วิวัฒนาการมาเฉพาะนิเวศวิทยาของเกาะ ซึ่งไม่เคยมีสัตว์นักล่าอย่างไรก็ตาม การศึกษาจากกระดูกโดโดอาจใช้ปีกง่ายกว่าการบิน นั่นคือใช้ว่ายอย่างปีกเพนกวิน

ขาสั้น อ้วนเตี้ย หนาแข็งแรง สีเหลือง มีนิ้วเท้าหนากลม 4 นิ้ว3 นิ้วข้างหน้าและ 1 นิ้วโป้งอยู่ข้างหลัง มีเล็บสีดำ

ใครเห็นต่างก็ประหลาดใจในรูปร่างและขนาดพิลึกกึกกือ