ประวัติ ของ โบอา

ปี ค.ศ. 2000 - 2002 เดบิวต์

โบอา หรือ คว็อน โบอา (เกาหลี: 권보아, ฮันจา: 權보아, MC: Gwon Boa, MR: Kwŏn Poa) เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 ในเมืองกูริ ประเทศเกาหลีใต้ เธอเป็นนักร้อง เธอได้ออกอัลบั้มเพลงทั้งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และบริษัทเพลงที่ดูแลเธออยู่ให้ระดับความสำคัญเธอว่าเป็น ดาราแบบ ข้ามประเทศ เธอได้ออกอัลบั้มมาแล้ว 14 ชุด (อัลบั้มภาษาญี่ปุ่น 7 ชุด อัลบั้มภาษาเกาหลี 7 ชุด) เบสต์อัลบั้ม 2 ชุด ดิจิตอลอัลบั้ม 1 ชุด รีมิกซ์อัลบั้ม 2 ชุด และ 3 ชุด ในอัลบั้มที่เป็นครึ่ง (.5) 25 ซิงเกิล (ซิงเกิลภาษาญี่ปุ่น 25 ซิงเกิล ซิงเกิลภาษาเกาหลี 4 ซิงเกิล) ทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น อีกทั้งอัลบั้มแทบทุกชุดของเธอยังมี Overseas Version มาจัดจำหน่ายอีกด้วย จนถึงทุกวันนี้เธอขายเพลงได้มากกว่า 6 ล้านชุด และพูดภาษาเกาหลีบ้านเกิดได้ ภาษาญี่ปุ่นคล่องแคลวอย่างมาก และอังกฤษในระดับที่สนทนาได้ และขณะนี้กำลังเรียนรู้ภาษาจีนอยู่

โบอาเคยได้ขึ้นอันดับ 1 ในซิงเกิลออริกอนชาร์ต (Oricon) BoA เด็กสาวจากเกาหลีใต้ เริ่มเข้าวงการโดยสังกัดกับ SM Entertainment เมื่อเธออายุได้เพียง 10 ปีเท่านั้นเอง เธอเริ่มเข้าเรียนการแสดงที่บริษัท The Seoul-based record และเธอมีพรสวรรค์ทางด้านนี้อย่างมาก และทางโรงเรียนก็ได้สอนให้เธอร้องเพลงในภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษ อีกด้วย หลังจากนั้น 5 ปี เธอก็ได้ย้ายมาอยู่ที่บริษัท US record SM Entertainment และ BoA ได้สร้างกระแสความทันสมัยให้กับวัยรุ่นชาวเกาหลีใต้ ในเรื่องวัฒนธรรมใหม่ ๆ แม้แต่เรื่องรายการทีวี การ์ตูน เกมคอมพิวเตอร์ และแฟชั่น ทั่วทั้งเอเซีย และทั่วโลกได้รู้จัก มองเกาหลีในภาพลักษณ์ใหม่

Do The Motion ซิงเกิลแรกของโบอาที่ขึ้นถึงอันดับ 1 ออริกอนชาร์ต

โบอาทำลายสถิติชาร์ตเพลงทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่นด้วยเพลง No.1, Valenti และ Listen to My Heart เธอปลุกให้ธุรกิจบันเทิงเกาหลีก้าวกระโดดขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำตลาดในญี่ปุ่น (ตัวเลขยอดส่งออกเพลงจากเกาหลี ทั้งหมด 75% มาจากเพลงของเธอ) และอีกทั้งยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าชื่อดังอย่าง Shiseido, Honda, KDDI, Au, Calpis และตอนนี้ล่าสุดคือ Gap ทางฝั่งญี่ปุ่น โบอายังเป็นไอคอนในการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นอีกทางหนึ่งด้วย

ปี ค.ศ. 2003 - 2005 ความสำเร็จ และภาพลักษณ์ใหม่

ในปี พ.ศ. 2547 BoA ได้รับรางวัล Most Influential Asian Artist และ Favorite Artist Korea ในงาน เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ซึ่งจัดในประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี พ.ศ. 2547 และยังได้รับรางวัล Best Dance Video จากงาน เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส เจแปน 2004 อีกด้วย ความนิยมเพลงของเธอยังคงทะลุผ่านไปถึง Taiwan, PRC และบางประเทศในแถบตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย และเธอก็ยังปรากฏตัวในโฆษณา เช่น KOSE, MISSHA, Lipton, Ting, Pantech & Curitel, Elite, Lotte, Maybelline, และ Wired XYZ

แต่ที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดในปี พ.ศ. 2547 เมื่ออัลบั้มที่ 4 "มาย เนม"(My Name) BoA ได้เปลี่ยนภาพพจน์จากสาวน้อยวัยใสเป็นสาวเซ็กซี่ทันที จึงทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมากในเกาหลี แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่ทำให้ความนิยมของสาวน้อยคนนี้ลดลงแม้แต่อย่างใด

ในปี พ.ศ. 2548 เธอได้ออกอัลบั้มเบสต์อัลบั้ม "เบสต์ ออฟ โซล"(BEST OF SOUL) ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นของเธอ โดยได้นำ 2 ซิงเกิลใหม่คือ Quincy/コノヨノシルシ และ メリクリ มารวมไว้ในอัลบั้มนี้ด้วย แถมในปีเดียวกันยังได้ออกอัลบั้มภาษาเกาหลีชุดที่ 5 "เกิร์ลส์ ออน ท็อป"(Girls on Top) โดยในอัลบั้มนี้เธอได้เปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นสาวเปรี้ยวทันที และในอัลบั้มนี้ขายดีเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลี และในปลายปีเดียวกันเธอยังได้ออกดิจิตอลอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า Merry Christmas from BoA

ปี ค.ศ. 2006 - 2008 ยอดขายตกลง และการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่

ในปี พ.ศ. 2549 เธอได้ออกอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 4 "เอาท์ โกรว์"(OUTGROW) ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง DO THE MOTION, make a secret, ดาคิชิเมรุ, Everlasting รวมไว้ด้วย ส่วนในเกาหลีเธอได้ร่วมโปรเจกต์ของค่าย SM Entertainment ในอัลบั้ม SM Town Summer'06 และ 2006 Winter SM TOWN นอกจากนี้เธอยังเป็นศิลปินดาราที่มีรายได้มากที่สุดในเกาหลีอีกด้วย

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2550 โบอา ได้ออกอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 5 เป็นการฉลองอายุครบ 20 ปีของเธอในอัลบั้มที่ชื่อว่า "เมด อิน ทเวนตี้ (20)"(MADE IN TWENTY (20)) โดยอัลบั้มนี้ก็เปิดตัวที่อันดับ 1 ในออริกอนชาร์ต แต่ก็เปิดตัวด้วยยอดขายที่น้อยกว่าอัลบั้มที่ผ่านๆมาด้วยยอดขาย 182,009 แผ่นในสัปดาห์แรก โดยเริ่มโปรโมตอัลบั้มทั่วประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2550

โบอาเริ่มทำอัลบั้มภาษาเกาหลีชุดที่ 6 หลังจากสิ้นสุดการทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเธอได้กลับไปทำงานต่อที่ประเทศเกาหลี และนอกจากนี้ยังได้เซ็นสัญญาต่อกับค่าย SM Entertainment ไปจนถึง ค.ศ. 2012 อีกด้วย

เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2550 ได้ออกซิงเกิลที่ 22 ของเธอที่มีชื่อว่า Sweet Impact ซึ่งเป็นเพลงประกอบโฆษณาเครื่องสำอางค์ของโคเซ่ และได้เปลี่ยนสไตล์การร้องเพลงในแนวคลาสสิกแด๊นซ์ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเธอได้สร้างบล็อกเป็นของตัวเองในเว็บไซต์ของออริกอน ซึ่งบล็อกของเธอก็มีสถิติผู้ชมมากที่สุดของเว็บไซต์ของออริกอนอีกด้วย เดือนกันยายนได้ออกซิงเกิล Love Letter ซึ่งเป็นเพลงแนวบัลลาดจนประสบความสำเร็จไปพอสมควร

โบอาและชีโมได้ร่วมงานกันในเพลง "Hey Boy, Hey Girl" ซึ่งบรรจุอยู่ในอัลบั้มที่ 3 ของชีโม "Round About" และยังถูกบรรจุเป็นโบนัสแทร็คในอัลบั้ม THE FACE ของโบอาด้วย โดยเริ่มโปรโมตในรายการมิวสิก สเตชันเป็นที่แรกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550

และปลายปีในเดือนธันวาคมได้ออกซิงเกิล LOSE YOUR MIND ร่วมกับยูทากะ ฟุรุคาวะแห่งวง DOPING PANDA แต่ก็เปิดตัวยอดขายได้น้อยกว่า 2 ซิงเกิลที่ผ่านมาในปีนี้ของเธอ

ปี พ.ศ. 2551 โบอาได้ออกซิงเกิล be with you. เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 โดยตอนแรกถูกวางจำหน่ายวันเดียวกับอัลบั้ม THE FACE ซึ่งเป็นอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดที่ 6 ของเธอ แต่สุดท้ายอัลบั้ม THE FACE ได้ถูกเลื่อนออกไปอีก 1 สัปดาห์ และเมื่ออัลบั้มของเธอออกจำหน่ายก็เปิดตัวในอันดับที่ 1 ออริกอนชาร์ตทันที

โบอาจึงเป็นศิลปินที่มีอัลบั้มเปิดตัวในอันดับที่ 1 ออริกอนชาร์ตได้ถึง 6 อัลบั้มซึ่งเป็นอันดับสามรองจากศิลปินรุ่นพี่ในค่ายเดียวกันอย่างอายูมิ ฮามาซากิที่สามารถเปิดตัวอัลบั้มในอันดับ 1 ออริกอนชาร์ตได้ถึง 8 อัลบั้ม และโคดะ คุมิ ที่เปิดตัวในอันดับที่ 1 ออริกอนชาร์ตได้ถึง 7 อัลบั้ม

เดือนมิถุนายนในปีเดียวกันโบอาได้วางขายซิงเกิลภาษาญี่ปุ่นที่ 26 ที่มีชื่อว่า Vivid โดยเปิดตัวในอันดับ 5 ออริกอนชาร์ต

ปี ค.ศ. 2008 Best of Asia, Bring on America

วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 โบอาได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวในตลาดเพลงอเมริกา โดยใช้ชื่อสโกแกนว่า "Best of Asia, Bring on America" โดยเปิดตัวซิงเกิลแรก EAT YOU UP ซึ่งจะวางแผงในอเมริกาวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 2008 นี้

ไฟล์:Boa - eat you up.jpg1st Single Us "Eat You Up"

ปี ค.ศ. 2010 การกลับสู่เกาหลีในรอบ 5 ปี

โบอา ได้ปล่อยเพลง Game ในรอบ 5 ปีในเกาหลี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ก่อนทีจะปล่อยภาพ Hurricane Venus ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มชุดที่ 6 ออกมา ในวันที่ 5 สิงหาคม และคัมแบ็คในวันที่ 6 สิงหาคม ในรายการ Music Bank เพียงแค่คัมแบ็คอาทิตย์เดียว เธอก็สามารถทะยานขึ้นที่ 1 ของรายการได้