ประวัติ ของ โฟรโด_แบ๊กกิ้นส์

วัยเยาว์

ในวัยเด็ก โฟรโดอาศัยอยู่ในแบรนดี้ฮอลล์ ซึ่งเป็นบ้านของตระกูลแบรนดี้บั๊กในนิคมแบ็กแลนด์ โฟรโดมีเพื่อนสนิทซึ่งเป็นญาติห่างๆคือเมอเรียด็อค แบรนดี้บั๊ก (เมอร์รี่) กับ เปเรกริน ตุ๊ก (ปิ๊ปปิ้น) ซึ่งทั้งสามคนนี้เป็นตัวป่วนประจำหมู่บ้าน พวกเขามักจะไปขโมยเห็ดจากสวนของมักก็อท

ในปี 2980 เมื่อโฟรโดมีอายุได้ 12 ปี พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเรือในแม่น้ำแบรนดี้ไวน์ ดังนั้นเขาจึงอาศัยอยู่ที่แบรนดี้ฮอลล์จนกระทั่งลุงของเขา บิลโล แบ็กกิ้นส์ ในวัย 99 ปีได้รับโฟรโดมาอยู่ในอุปการะในปี 2989 บิลโบได้พาโฟรโดไปอาศัยอยู่ด้วยที่แบ็กเอนด์ ซึ่งเป็นบ้านของบิลโบ และประกาศให้โฟรโดเป็นทายาทของเขา โฟรโดได้เรียนภาษาเอลฟ์มากมายรวมถึงตำนานและเรื่องราวเก่าแก่ของทวีปมิดเดิลเอิร์ธระหว่างที่อาศัยอยู่กับบิลโบ นอกจากนี้ โฟรโดกับบิลโบยังมีวันเกิดวันเดียวกันคือวันที่ 22 กันยายนตามระบบวันของไชร์ (ราว 12–14 กันยายนในโลกแห่งความเป็นจริง

ในปี 3001 ขณะที่โฟรโดมีอายุ 33 ปี ในงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 111 ปีของบิลโบ บิลโบได้ออกจากไชร์ไปและทั้งสมบัติทั้งหมดไว้ให้โฟรโดรวมถึงแหวนเอกธำมรงค์ โดยก่อนที่บิลโบจะออกเดินทางจากไชร์ไปริเวนเดลล์ บิลโบได้ฝากฝังโฟรโดไว้กับแกนดัล์ฟ และทิ้งข้อความแก่โฟรโดไว้ว่าเขาคือผู้ครองแหวนคนถัดไป ภายหลังงานเลี้ยงเลิกรา โฟรโดได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับพบว่าเขาได้กลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของแบ็กเอนด์และได้รับแหวนเวทมนตร์ แกนดัล์ฟเริ่มสงสัยถึงพลังและที่มาที่ไปของแหวนวงนี้ และได้แนะนำโฟรโดว่าอย่าใช้แหวนวงนี้ ซึ่งโฟรโดได้เก็บรักษาแหวนวงนี้ไว้เป็นอย่างดีในที่ปลอดภัยเป็นเวลากว่า 17 ปี

ย้ายออกจากไชร์

12 เมษายน ปี 3018 แกนดัล์ฟได้มายังบ้านของโฟรโดเพื่อเตือนโฟรโดว่าแหวนดังกล่าวแท้จริงแล้วคือแหวนเอกธำมรงค์ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของจอมมารเซารอนเพื่อปกครองมิดเดิลเอิร์ธ และได้แนะนำให้โฟรโดนำแหวนวงนี้ตามบิลโบไปยังริเวนเดลล์ ภายหลังแกนดัล์ฟกลับไปโฟรโดก็เริ่มวางแผนการเดินทาง และเริ่มมีข่าวลือในเหล่าฮอบบิทว่าโฟรโดเริ่มจะขัดสนเงิน เมอร์รี่ช่วยโฟรโดในการซื้อบ้านหลังใหม่ในแบ็กแลนด์ซึ่งอยู่นอกไชร์ โฟรโดได้บอกกับฮอบบิทคนอื่นๆในไชร์ว่าเขาตั้งใจจะย้ายไปอยู่ในแบ็กแลนด์ โฟรโดขายบ้านหลังเดิมให้แก่แซ็กวิลล์ แบ็กกินส์ หลังวันเกิดของโฟรโดในปีนั้นได้หนึ่งวัน โฟรโดก็ออกเดินทางจากแบ็กแลนด์พร้อมกับแซมและปิ้ปปิ้นในตอนเช้าตรู่เพื่อมุ่งหน้าไปยังบรี ซึ่งในเวลาเดียวกัน อัศวินอาชาดำ สมุนของเซารอนก็มาถึงไชร์เพื่อตามหาฮอบบิทที่มีชื่อแบ็กกินส์

เมื่อโฟรโดและพวกมาถึงแบ็กแลนด์ก็พบกับเมอร์รี่ที่รออยู่ ซึ่งโฟรโดพบว่าทั้งเมอร์รี่และปิ้ปปิ้นก็ต่างรู้ "ความลับ" ในการเดินทางของเขา โฟรโดจึงจำใจต้องพาทั้งสองไปด้วย ฮอบบิททั้งสี่ไปถึงบรีและเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง โดยโฟรโดใช้นามแฝงว่า อันเดอร์ฮิลล์ แต่ก็พบว่าแกนดัล์ฟยังไม่มาถึงตามนัด ในคืนนั้นเองที่อัศวินอาชาดำเข้าโจมตีโรงเตี๊ยมเพื่อค้นหาโฟรโดและแหวน แต่ทั้งสี่ก็ปลอดภัยมาได้จากการที่ชายหนุ่มลึกลับได้พาทั้งสี่ไปซ่อนอย่างทันเวลา ชายลึกลับได้แนะนำตัวว่าเขามีนามว่า อารากอร์น และได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของอัศวินอาชาดำและบอกว่าอัศวินเหล่านี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า นาซกูล ซึ่งมีทั้งหมด 9 ตน และเขาได้บอกทางไปยังริเวนเดลล์แก่ฮอบบิท

เวเธอร์ท็อปสู่ริเวนเดลล์

6 ตุลาคม ระหว่างทางไปยังริเวนเดลล์ โฟรโดรและพวกได้ถูกโจมตีโดยพวกนาซกูลจำนวน 5 ตนที่บริเวนเขาเวเธอร์ท็อป ต่อหน้านาซกุลเหล่านั้น โฟรโดได้ทำผิดพลาดโดยการสวมแหวนเอกทำให้เซารอนมองเห็นโฟรโด และทำให้หัวหน้าของเหล่านาซกุลสามารถแทงโฟรโดถูกบริเวณไหล่ด้วยมีดมอร์กุล ซึ่งหากแทงถูกหัวใจจะทำให้โฟรโดซึ่งสวมแหวนอยู่กลายเป็นเหมือนนาซกุล การปรากฏตัวของอารากอร์นทำให้เหล่านาซกุลล่าถอยไป แม้ว่าอารากอร์นจะมีวิชาการรักษาแต่ก็ไม่สามารถรักษาแผลจากมีดมอร์กุลได้ โฟรโดในสภาพใกล้ตายได้ถูกช่วยเหลือโดย กลอร์ฟินเดล (ในฉบับภาพยนตร์เป็นอาร์เวนแทน) ซึ่งนำโฟรโดขึ้นบนหลังม้าและหนีพวกนาซกุลไปถึงริเวนเดลล์ได้ โฟรโดฟื้นขึ้นมาในวันที่ 24 ตุลาคม และได้พบกับแซม, ปิ้ปปิ้น, เมอร์รี่ และ บิลโบ แต่แม้ว่าโฟรโดจะได้รับการรักษาโดยเอลรอนด์จนหายดีแล้ว แต่แผลนี้ก็คงยังเจ็บเป็นบางครั้ง

ภารกิจแหวน

หลังจากแผลหายดี โฟรโดถูกเรียกเข้าที่ประชุมใหญ่ซึ่งจัดโดยเอลรอนด์ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากเสรีชนชาวมิลเดิลเอิร์ธ เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับแหวนเอกธำมรงค์และมีมติว่าแหวนเอกธำมรงค์จะต้องถูกทำลาย แต่ที่ประชุมตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้นำแหวนไปทำลายยังมอร์ดอร์ โฟรโดจึงรับอาสานำแหวนไปทำลาย ทำให้แต่ละตัวแทนจากเสรีชนอาสาปกป้องโฟรโดในการทำภารกิจ ก่อกำเนิดเป็นคณะพันธมิตรแห่งแหวน ขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกเก้าคน ได้แก่ โฟรโด, แซมไวส์, เมอร์รี่, ปิ้ปปิ้น, แกนดัล์ฟ, อารากอร์น, โบโรเมียร์แห่งกอนดอร์, เลโกลัสแห่งเมิร์ควู้ด และ กิมลีคนแคระ