ประวัติ ของ โยคีเพลย์บอย

อัลบั้มชุดแรก โยคีเพลย์บอยส์ (2539)

ในอัลบั้มชุดนี้จะมีแนวดนตรีที่ผสมผสาน ร็อค, โซล, ฟังก์ โดยบางเพลงเองก็เน้นเนื้อหาตลก ยังไม่มีผลงานเพลงที่เป็นที่รู้จักมากนักและยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับอัลบั้มชุดนี้ กลิ่นอายดนตรี 70’s แนวอินดี้ป็อป จากอัลบั้มชุดนี้ ทำให้ "โป้" ปิยะ ศาสตรวาหา กลายเป็นขวัญใจหนุ่มสาวด้วยลีลาการเต้น

อีพี อัลบั้ม Super Swinging (2541)

โยคีกลับมาอีกครั้งหลังห่างหายไปถึง 2 ปี โดยอัลบั้มชุดนี้เหลือโป้ โยคี ปีซึ่งเพลงมีแนวดนตรีที่แตกต่างจากชุดแรกและแหวกแนวดนตรีในยุคสมัยนั้น ด้วยลูกเล่นและแนวดนตรีที่มีกลิ่นของ ดิสโก้ และ Groove แต่ยังคงรักษาความเป็นโยคีเพลย์บอยไว้ได้อย่างชัดเจน ชุดนี้มีเพลง 5 เพียงแต่ทุกเพลงก็มีแนวทางที่แตกต่างกันออกมาไป มีเพลงอันเป็นที่รู้จัก คืนนี้ขอหอม

อัลบั้มชุดที่ 2 YKPB, เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง (2543)

โยคีกลับมาอีกครั้งหลังห่างไป 2 ปี ในอัลบั้มนี้มีผลงานแนว ป็อป ผสม โซล และ ริทึมแอนด์บลูส์ มีเพลงที่เป็นที่รู้จัก วันเกิด พรหมลิขิต (ของครูแก้ว อัจฉริยะกุล และ ครูเวส สุนทราจามร) ทำร้าย แผลเป็น และ ขอให้ผม ส่งผลให้โยคีเพลย์บอยเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากอัลบั้มชุดนี้[1]

อัลบั้มสาม Love Trend (2545)

อัลบั้มชุดนี้โยคีได้กลับมาอีกครั้งหลังห่างหายไปถึงสองปีโดยชุดนี้จะมีดนตรีที่เบากว่าชุดที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้บอยตรัยมาช่วยเขียนเพลง โดยแต่ละผลงานเพลงจะเป็นแนวบรรเลงและแนวดนตรี ซอฟต์ร็อก มีผลงานเพลงที่เป็นที่รุ้จักในอัลบั้มนี้คือเพลง อีกแล้ว และอยากมองเธอในแง่ร้าย[2]

ย้ายสังกัดอาร์เอส, ออกอัลบั้มชุดที่สี่ (2551)

ในปี 2551 โป้ได้มาร่วมงานกับอดีตผู้ก่อตั้งค่าย เบเกอรี่มิวสิค สมเกียรติ อริชัยพาณิชย์ ภายใต้สังกัด เพลนตี้ มิวสิก ในเครือ อาร์เอส ออกอัลบั้มชุดที่สี่ Telepathy ซึ่งเป็นผลงานทางดนตรีและผสมผสานกับความปราณีตพิถีพิถันในการเรียบเรียง อัลบั้มนี้ไม่ได้รับการโปรโมทที่ดีนักจึงไม่ได้รับการรู้จักในวงกว้าง

ย้ายไปสไปซี่ดิสก์, ออกอัลบั้มฉลองครบรอบ 16 ปี (2554 - 2555)

ปี 2554 โยคีเพลย์บอยย้ายสังกัดมายัง สไปซีดิสก์ ซึ่งได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก คอลลาเจน และ ซิงเกิ้ลที่สอง อากาศ ก่อนที่ในปีต่อมาโยคีได้ออกอัลบั้ม Second Sun ฉลองครบ 16 ปีของทางวง[3] เป็นอัลบั้มที่อัดแน่นด้วยรายละเอียดของดนตรี เนื้อหา

เริ่มออกซิงเกิล และอัลบั้ม ในฐานะ ศิลปินอิสระ (2557-บัจจุบัน)

เดินหน้าแสวงหา และผลิตเพลงที่มีพัฒนาการกับแนวดนตรีที่แตกต่างตามความสนใจและยุคสมัย

อีพี ซิงเกิล เพลง "อาฮะ" และ เพลง "มี" (2557)

ครั้งแรกกับการทำงานอิสระ เพลงจึงอาจจะไม่เป็นที่รู้จักนัก เมื่อขาดแรงโปรโมทที่มากเพียงพอ อาฮะ เป็นเพลงสนุกสนาน เบา ๆ แบบสโลว์ ดิสโก้ (slow disco) ที่โป้ เลือกชวนศิลปินรุ่นน้องที่มีเสียงร้องและบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง แจ๊บ เดอะ ริชแมนทอย มาร่วมขับร้อง มี เป็น เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก  ซึ้ง ๆ น่ารัก ๆ  ซึ่งถูกถ่ายทอดบนท่วงทำนองและจังหวะช้าแบบเท่ ๆ สไตล์เพลงป๊อบที่มีลูกกรูฟ หรือ Groove Pop  

อัลบั้มที่หก We (2560) โดยทะยอยออกมาทีละ episode

- อีพี อัลบั้ม We Episode I (2560) ทั้งหมด 3 เพลง ในแนว Soul Pop และ Post Modern Rock แบบไทย ๆ แหวกสมัยด้วยชื่อเพลงยาวเหยียด ได้แก่ เพลง นอนคนเดียว กินคนเดียว ดูทีวีคนเดียว เพลง เธอรู้ไหมฉันไม่ชอบเวลาเธอพูดถึงเขา และ รักรอที่ฟลอร์เต้นรำ ซึ่งถือว่าครั้งนี้โยคีเพลย์บอยสามารถเรียกกระแสการตอบรับกลับมาได้มากพอสมควร และกลับมามีเพลงฮิตติดชาร์ตอีกครั้ง