มารดาของฮิเดะโยะริ ของ โยะโดะ_โดะโนะ

ฮิโระอิมะรุประกอบพิธีเง็มปุกุ มีชื่อว่า โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะริ (豊臣秀頼) ฮิเดะโยะชิผู้เป็นบิดาได้พยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาอำนาจของบุตรชายของตนที่อายุยังน้อย แต่เมื่อฮิเดะโยะชิถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1598 ไดเมียวแคว้นใหญ่ทั้งหลายอันเป็นสมาชิกของโงะไทโร (五大老) โดยเฉพาะโทะกุงะวะอิเอะยะซุ คอยจะหาช่องทางที่จะตั้งตนขึ้นมามีอำนาจแทนตระกูลโทะโยะโตะมิ นี่เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตทางการเมืองของนางโยะโดะโดะโนะ ในฐานะมารดาของโทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะริ โยะโดะโดะโนะได้กระทำทุกทางเพื่อที่จะรักษาอำนาจของบุตรชายตน ในขั้นแรกนางได้ร่วมมือกับอิชิดะ มึซึนะริ (石田三成) ในการต่อต้านอำนาจของอิเอะยะซุ จนกระทั่งความพ่ายแพ้ที่ยุทธการเซะกิงะฮะระ (関ヶ原の戦い) ในค.ศ. 1600 ทำให้ตระกูลโทะโยะโตะมิต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลโทะกุงะวะ ฮิเดะโยะริถูกลดขั้นลงเป็นเพียงไดเมียวภายใต้การปกครองของโทะกุงะวะ

หลังจากยุทธการเซกิงะฮะระ อิเอะยะซุได้แต่งตั้งให้ โอโนะ ฮะรุนะงะ (大野治長) ซึ่งเป็นบุตรชายของนางโอกุระเกียว-โนะ-ซึโบะเนะ (大蔵卿局) ข้ารับใช้คนสนิทของนางโยะโดะ ให้เป็นผู้ปกครองปราสาทโอซะกะ นางโยะโดะร่วมกับโอโนะฮะรุนะงะได้ดำเนินการอย่างเงียบๆหากำลังสนับสนุนในการยึดอำนาจคืนจากตระกูลโทะกุงะวะ ในค.ศ. 1604 ด้วยเหตุผลทางการเมือง ฮิเดะโยะริจำต้องสมรสกับนางเซ็งฮิเมะ (千姫) บุตรสาวของโทะกุงะวะ อิเดะตะดะ กับนางโอเอะโยะ โดยที่นางโอเอะโยะเดินทางร่วมขบวนจากเมืองเอะโดะมาส่งบุตรสาวของตนที่โอซะกะ ทำให้สามพี่น้องตระกูลอะซะอิได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย

การล้อมปราสาทโอซะกะ

นางโยะโดะพร้อมทั้งฮิเดะโยะริบุตรชายต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลโทะกุงะวะ แต่ไดเมียวและประชาชนในภาคตะวันตกของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุนตระกูลโทะโยะโตะมิอยู่ จนกระทั่งในฤดูหนาวค.ศ. 1614 ฮิเดะโยะริได้ให้เงินสนับสนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดโฮโก (方広寺) ในเมืองเกียวโต รวมทั้งได้สร้างระฆัง แต่ทว่าข้อความที่จารึกลงไปบนระฆังนั้นมีความหมายไปในทางสาปแช่งอิเอะยะซุ และนางโยะโดะร่วมกับโอโนะฮะรุนะงะ ได้ประกาศรวบรวมไพร่พลและไดเมียวต่างๆที่ยังจงรักภักดีต่อตระกูลโทะโยะโตะมิ มากอบกู้อำนาจคืนให้แก่โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะริ ที่สำคัญที่สุดคือ ซะนะดะ ยุกิมุระ (真田幸村) ขุนพลผู้มีความสามารถ อิเอะยะซุจึงนำทัพมาทำการล้อมปราสาทโอซะกะ แต่ด้วยการนำของยุกิมุระทำให้กองทัพฝ่ายโทะกุงะวะไม่สามารถหักเอาปราสาทโอซะกะได้ จนนำไปสู่การเจรจาสงบศึกชั่วคราว

ในฤดูร้อนปีถัดมาค.ศ. 1615 ทั้งสองฝ่ายไม่พอใจสัญญาสงบศึกจึงเปิดฉากสงครามขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฝ่ายโทะกุงะวะได้ชัยชนะและเข้ายึดปราสาทโอซะกะได้ ขุนพลซะนะดะ ยุกิมุระ และโอโนะ ฮะรุนะงะ สิ้นชีวิตที่รบ นางโยะโดะกระทำการเซ็ปปุกุเสียชีวิตไปเช่นเดียวกับบุตรชายคือฮิเดะโยะริ เป็นสตรีเพียงไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นซึ่งเสียชีวิตด้วยวิธีนี้ ส่วนบุตรชายอายุแปดขวบของฮิเดะโยะริ คือ คุนิมะซึ (国松) ถูกจับเป็นเชลยและประหารชีวิตที่เมืองเกียวโต ในขณะที่บุตรสาวของฮิเดะโยะริคือ นะอะ-อิเมะ ได้รับการไว้ชีวิตบวชเป็นชีอยู่ที่เมืองคะมะกุระ

หลังจากเสียชีวิตไปแล้วนางโยะโดะ โดะโนะ ได้รับการบวชเป็นชี มีชื่อว่า ไดโก-อิน (大広院)