โยเซฟ เบน มาติตยาฮู (
ฮีบรู: יוסף בן מתתיהו;
[2] ค.ศ. 37 – ราว
ค.ศ. 100)
[3] เปลี่ยนชื่อเป็น
ติตุส ฟลาวิอุส โยเซพุส (
ละติน: Titvs Flavivs Iosephvs) หลังจากที่ได้เป็นพลเมืองโรมัน เป็นนักประวัติศาสตร์และ
นักเขียนพิทักษ์ปรัชญา (apologist) ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 โยเซพุสมาจากครอบครัวที่เป็นนักบวชและราชวงศ์ ผู้รอดมาได้จาก
การทำลายเมืองเยรูซาเลมโดยโรมันในปี ค.ศ. 70 และมาบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
[4] งานของโยเซพุสเป็นงานสำคัญที่ทำให้เข้าใจถึงเบื้องหลังของ
ศาสนายูดาห์ในคริสต์ศตวรรษที่ 1โยเซพุสเป็นคนสำคัญของโลกของจักรวรรดิโรมันในด้านความรู้ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวยิวและชาวยิว โดยเฉพาะในสมัยที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย โยเซพุสเป็นผู้ที่เคร่งครัดในการปฏิบัติตามประเพณีของชาวยิวอย่างสม่ำเสมอตลอดมา และทั้งสรรเสริญศาสนายูดาห์และพยายามให้การศึกษาและความเข้าใจแก่ผู้มิใช่ชาวยิว โยเซพุสมีความเชื่อมั่นในความคล้ายคลึงระหว่างศาสนายูดาห์กับปรัชญาของวัฒนธรรมกรีก-โรมัน และพยายามให้การศึกษาต่อบุคคลทั่วไปว่าศาสนายูดาห์เป็นศาสนาที่มีรากฐานมานานและเป็นศาสนาที่มีวัฒนธรรม หลักปรัชญา และความศรัทธา โยเซพุสคงจะต้องเป็นผู้ที่มีความสำคัญพอตัวเพราะ
ยูซีเบียสกล่าวว่าโยเซพุสมีอนุสาวรีย์อยู่ในกรุงโรม
[5]งานชิ้นสำคัญสองชิ้นของโยเซพุสคือ สงครามยิว ที่เขียนราวปี ค.ศ. 75 และ ประวัติศาสตร์ของชาวยิว ที่เขียนราวปี ค.ศ. 94
[6] สงครามยิว เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการปฏิวัติของชาวยิวระหว่างปี ค.ศ. 66 ถึงปี ค.ศ. 70 ในการต่อต้านอำนาจของ
จักรวรรดิโรมัน ส่วน ประวัติศาสตร์ของชาวยิว เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เขียนจากทัศนคติของชาวยิว งานเขียนทั้งสองชิ้นเป็นงานเขียนที่มีค่าที่ทำให้เข้าใจถึงศาสนายูดาห์ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 และเบื้องหลังของ
ศาสนาคริสต์ยุคแรก[6]