ประวัติของโรงเรียน ของ โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล

ส่วนนี้ต้องเรียบเรียงภาษาใหม่ หรือต้องพิสูจน์อักษร

เดชะ : เป็นคำที่ตัดย่อมาจากนาม พระยาเดชานุชิต สมุหเทศาภิบาลมณฑล ปัตตานีผู้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียน

ปัตตนยานุกูล : เกิดจากการสนธิกันของคำว่าปัตตานีซึ่งมีความหมาย สถานที่ตั้ง กับคำว่า อนุกูล หมายถึง การให้ความ ช่วยเหลือ โรงเรียนเดชะปัตตนยากูล เดิมมีชื่อเรียกกันว่า "โรงเรียนสตรีมณฑลปัตตานี" ผู้ที่ริเริ่มตั้งโรงเรียนนี้ คือ คุณหญิงเดชานุชิต ภรรยาของมหาอำมาตย์ตรี พระยาเดชานุชิตสมุหเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฑลปัตตานี ในขณะนั้นซึ่งชาวเมืองปัตตานีรู้จักคุณหญิงเดชานุชิต ในนามคุณหญิงแหม่ม ในสมัยมณฑลปัตตานีมีโรงเรียนแห่งเดียวคือ "โรงเรียนตัวอย่างมณฑล"ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานี

ดังนั้นทั้งนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง และนักเรียนหญิงต้องมาเรียนรวมกัน ที่โรงเรียนตัวอย่างมณฑล สมัยนั้นหาครูสตรีมาสอนค่อนข้างยากจึงมีนักเรียนมาเรียนน้อยมีมาสมทบเรียน ที่โรงเรียนตัวอย่างมณฑล เพียงไม่กี่คนเท่านั้นต่อมาผู้ปกครองเริ่มเห็นความสำคัญของการศึกษาจึงยอม ให้นักเรียนหญิงเข้าเรียนมากขึ้น คุณหญิงแหม่ม มองเห็นว่าควรจะแยกโรงเรียนสำหรับสตรีโดยเฉพาะ จึนได้ชักชวนข้าราชการ พ่อค้า คหบดี และประชาชน ในจังหวัดปัตตานีสมัยนั้น มาร่วมกันตั้งโรงเรียนสตรีขึ้น

ใน ระยะเวลาแรกต้องใช้บ้านพักสำหรับข้าราชการต่างมณฑล ซึ่งอยู่ใกล้จวนสมุหเทศาภิบาล เป็นสถานที่เรียนเริ่มเปิด โรงเรียนสำหรับสตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ 2456 มี "ครูใหญ่" ซึ่งเป็นบุตรีของคุณหญิงแหม่ม แผ่นครูสอนในสมัยนั้น "คุณใหญ่"เรียนสำเร็จมาจากโรงเรียนเซ็นต์โยเซฟ คอนแวนต์ กรุงเทพฯ ในสมัยนั้น มีขุนพิบูย์พิทยาพรรค เป็นธรรมการจังหวัดปัตตานี และมีมหาอำมาตย์เองพระยา วิสุทธสุริยศักดิ์ เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการโรงเรียนสตรีมณฑลปัตตานี ได้เปิดสอนอย่างไม่เป็นทางการ อยู่เดือนกว่าๆ จึงได้เปิดสอนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ 2456 จัดการเรียนการสอน โดยอาศัยที่ของรัฐบาลหลายแห่งเป็นสถานที่เรียนจนกระทั่งถึง พ.ศ 2465 พระยาเดชานุชิต และคุณหญิงแหม่ม จึงได้หาเงินมาสร้างอาคารเรียนของโรงเรียนให้เป็นการถาวร โดยได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า คหบดีของจังหวัดปัตตานีเป็นอย่างดีโรงเรียนสตรีมณฑล ปัตตานีจึงได้มีสถานที่เรียนเป็นการถาวรที่ ถนนสะบารัง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพระยาเดชานุชิต และคุณหญิงแหม่ม ได้ขอให้กระทรวงธรรมการในสมัยนั้นเป็นผู้ตั้งชื่อของโรงเรียนใหม่ ดังมีรายละเอียดปรากฏใน หนังสือราชการที่พระยาเดชานุชิตสมุหเทษาภิบาลมณฑลปัตตานี มีไปถึง เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มาตรี เสนาบดีกระทรวงธรรมการ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 มีใจความตอนหนึ่งว่า ด้วยโรงเรียนสตรีมลฑลปัตตานี ได้เริ่มเปิดสอนมาครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2465 อาศัยสถานที่เรียนของรัฐบาลหลายแห่งเป็นที่สั่งสอน คุณหญิงเดชานุชิต ผู้อุปการะได้ตั้งใจที่จะขยายสถานที่ให้เป็นที่สง่าผ่าเผย กว้างขวางสืบไป จึงได้เริ่มบอกบุญแก่บรรดาข้าราชการ ราษฏรในมณฑลปัตตานี ได้เงินเป็นก้อนหนึ่ง แต่หาพอกับการปลูกสร้างไม่ จึงได้จ่ายเงินบำรุงการศึกษา ที่มีเหลืออยู่รวมกันเข้าได้เงิน 125,000 บาท ว่าจ้างช่างรับเหมาปลูกสร้างขึ้นเป็นรูปตึก 2 ชั้น ขนาดกล้าง 10 เมตร ยาว 14 เมตร แบ่งเป็นห้องเรียน 8 ห้อง

บัดนี้โรงเรียนหลังนี้ได้ปลูกสร้างจวนจะเสร็จอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจะกำหนดเปิดและทำบุญฉลองในราวต้น ตุลาคม พ.ศ. 2465 ข้าพเจ้าและท่านผู้มีอุปการะประสงค์จะให้มีชื่ออันเป็นมงคลแก่ตึกหลังนี้ เพื่อเป็นเกียรติประวัติ การสืบไปเพราะฉะนั้นข้าพเจ้าขอความกรุณาเป็นที่พึ่งขอให้กระทรวงธรรมการตั้ง นามตึกอันเป็น โรงเรียนสตรีนี้ต่อไปด้วย....เสนาบดีกระทรวงธรรมการ คือ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ได้ให้ชื่อโรงเรียนสตรีแห่นี้ชื่อว่า "เดชะปัตตนยานุกูล" ทั้งนี้เพื่อนเป็นอนุสรณ์แก่พระยาเดชานุชิตและคุณหญิงแหม่มในฐานะที่เป็นผู้ ริเริ่มก่อตั้งและเป็นผู้อุปการะโรงเรียนมาโดยตัดเอาคำ"เดชา" ตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมาและมีขุนวิลาศจรรยา (นายทองสุข สุขพลินท์) เป็นผู้บริหารโรงเรียนคนแรกเมื่อ พ.ศ. 2472 จนถึง พ.ศ. 2486 กรมสามัญศึกษาได้ตั้งงบประมาณ ให้จัดสร้าง โรงเรียนแห่งนี้ใหม่ นายสุชาติ บุญยรัตรพันธ์ ผู้ว่าราชการจัดหวัดปัตตานีในสมัยนั้นได้เอาที่ดินราชพัสดุเนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 6 ตารางวา เป็นที่ตั้งโรงเรียน

ใกล้เคียง

โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเซนต์ดอมินิก โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม