อาชีพทางด้านดนตรี ของ โรบิน_ธิก

ในปี 2000 เขาออกอัลบั้มเพลงโดยใช้ชื่อว่า "ธิก" (อังกฤษ: Thicke) โดยใช้ชื่ออัลบั้มแรกว่า Cherry Blue Skies ที่มีเพลงสไตล์บลู-อายด์โซล มากกว่าแนวเพลงป็อป โดยในปี 2002 เขาออกซิงเกิลแรกที่ชื่อ "When I Get You Alone" ที่มีท่อนแซมเปิ้ลมาจากเพลงของวอลเตอร์ เมอร์ฟี ในเพลง "A Fifth of Beethoven" ในมิวสิกวิดีโอเขามีภาพลักษณ์ไม่โกนหนวดเครา ผมยาว ดูเถื่อน ๆ ปั่นจักรยายอยู่บนถนนในแมนฮัตตัน ได้รับการเปิดพอควรทางช่อง เอ็มทีวี 2 และ BET และทางสถานีวิทยุประเภทเออร์เบิร์น และเพลงประสบความสำเร็จบนตารางอันดับเพลงทั่วโลก สามารถขึ้นท็อป 20 ในออสเตรเลีย เบลเยี่ยม และอิตาลี และติดท็อป 10 ในนิวซีแลนด์ และท็อป 3 ในเนเธอร์แลนด์ และเพลงยังบรรจุอยู่ในเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Agent Cody Banks

ความสำเร็จนี้จึงทำให้อัลบั้มเปลี่ยนชื่อมาเป็น A Beautiful World เนื่องจากการออกซิงเกิล 2 ที่ชื่อ "Brand New Jones" อัลบั้มไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์มาก เข้าอันดับบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 152 มียอดขาย 63,000 ชุดในอเมริกา[1]

ในปี 2005 เขาเป็นแขกรับเชิญในเพลงรีมิกซ์ของวิลล์ สมิธ ในเพลง "Switch" หลังจากที่เขาเซ็นสัญญากับค่ายเน็ปจูนส์ เขาเริ่มทำงานอัลบั้มชุดที่ 2 ชุด The Evolution of Robin Thicke มีซิงเกิลแรกคือ "Wanna Love U Girl" ที่มีโปรดิวเซอร์คือ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ โดยภาพลักษณ์ใหม่ของเขาคือตัดผมยาวออกไป หลังจากนั้นเกือบปีหลังออกซิงเกิลจึงออกอัลบั้มเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งมีเพลงที่ร่วมงานกับ ลิล เวย์น และเฟธ อีแวนส์ (ในเพลง "Got 2 Be Down") รวมถึงฟาร์เรลล์ เขายังโปรโมตอัลบั้มโดยการทัวร์ร่วมกับอินเดีย.อารีย์ และเปิดคอนเสิร์ตให้กับจอห์น เลเจนด์ ในปลายปี 2006

ซิงเกิลที่ 2 เป็นเพลงบัลลาดที่ชื่อ "Lost Without U" ซึ่งเขาได้ร้องเพลงในรายการของโอปราห์ วินฟรีย์ และอเมริกันไอดอล เพลงนี้ขึ้นชาร์ทได้สูงสุดอันดับ 14 บนชาร์ทบิลบอร์ดฮ็อต 100 และอันดับ 1 บนชาร์ทเพลงฮ็อต อาร์แอนด์บี/ฮิปฮอป ถือเป็นศิลปินคนผิวขาวที่ขึ้นอันดับ 1 คนแรกหลังจอร์จ ไมเคิลเคยทำได้ไว้[2] เขาแสดงเพลงนี้ในรายการ Good Morning America และแสดงในมิวสิกวิดีโอร่วมกับภรรยาของเขา พอลลา แพ็ตตัน

ในอัลบั้มนี้มียอดขายในอเมริกาอยู่มากกว่า 1.5 ล้านชุด หลังจากนั้นได้ออกขายใหม่ในรูปแบบ Deluxe Edition ที่มีเพลงใหม่ 3 เพลง ออกวาขายเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 ตัวอัลบั้มสามารถขึ้นชาร์ทอันดับ 5 บนบิลบอร์ด 200 ได้ และอันดับ 1 บนชาร์ทบิลบอร์ดท็อปอาร์แอนด์บี/ฮิปฮอปอัลบั้มส์[1] ซึ่งต่อมาในเดือนมีนาคม 2007 ทาง RIAA ออกมายืนยันยอดการขายในระดับแผ่นเสียงทองคำ ซึ่งก็ออกซิงเกิลที่ 3 ต่อมาคือ "Can U Believe" ขึ้นชาร์ทเพลงบิลบอร์ดฮ็อตอาร์แอนด์บี/ฮิปฮอป ที่อันดับ 15 และอันดับ 99 บนบิลบอร์ด 100[2] [3] ต่อมาได้ออกซิงเกิลที่ 4 ที่ชื่อ "Got 2 Be Down" ขึ้นชาร์ท Billboard's Hot R&B/Hip-Hop Singles & Tracks ที่อันดับ 60[2]

ธิกออกอัลบั้มชุดที่ 3 ชุด Something Else เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2008[4] ขึ้นชาร์ทบิลบอร์ด 200 ได้ที่อันดับ 3 มีซิงเกิลแรกคือ "Magic" และเพลงนี้ยังเป็นเพลงทางโฆษณาทางโทรทัศน์ในยุโรปของโทรศัพท์มือถือซัมซุง

ธิกกับอัลบั้มชุดที่ 6 ด้วยเพลง Blurred Lines ร่วมกับ ที.ไอ. และ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2013 ในรูปแบบดิจิดอลดาว์นโหลดทั่วโลกผ่าน iTunes เพลงนี้ประสบความสำเร็จที่สุด และดีกว่า Lost Without U ในระดับหนึ่ง ด้วยการแต่งกายแนวโมเดล แนวดนตรีร่วมสมัยที่ฟาร์เรลล์ โปรดิวไว้โดนใจวัยรุ่นทั่วโลกและทำได้ดีกว่าเพลง Wanna Love U Girl อีกด้วย และ Music Video ได้ Paula Patton มาร่วมใน MV นี้ด้วย Blurred Lines ได้ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ถึง 9 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย มียอดดาว์นโหลดถึง 11.63 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลกและเป็นสุดยอดเพลงแห่งปี[5] โดยในตอนนี้ก็มีซิงเกิ้ลใหม่ออกมานั่นก็คือ Give It 2 U และ Feel Good ออกมาแล้ว

ธิกออกอัลบั้มชุดที่ 7 ในชื่ออัลบั้มว่า พอลล่า ซึ่งหลังจากการใช้ชีวิต กับ Paula Patton นานถึง 9 ปี ซึ่งแยกทางกันเมื่อกุมภาพันธ์ 2014.[6] ทิคเริ่มความคิด ที่จะออกอัลบั้มนี้ เพื่อจะสื่อถึงพอลล่า จึงใช้อัลบั้มนี้ตามมา ด้วยซิงเกิ้ล Get Her Back เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2014 ที่งานBillboard Music Awardsและปล่อยดาว์นโหลดในเวลาต่อมา [7][8][9][10]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรบิน_ธิก http://www.amazon.com/Get-Her-Back/dp/B00KBXZUA6 http://www.billboard.com/articles/events/bbma-2014... http://www.billboard.com/bbcom/news/article_displa... http://www.billboard.com/bbcom/news/article_displa... http://www.billboard.com/bbcom/retrieve_chart_hist... http://www.billboard.com/bbcom/retrieve_chart_hist... http://www.robinthicke.com http://www.tmz.com/2014/02/24/robin-thicke-paula-p... http://www.mediatraffic.de/tracks-2013.htm https://itunes.apple.com/us/album/get-her-back-sin...