ประวัติ ของ โอวหยัง_เพ่ยซัน

โอวหยังเพ่ยซัน เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2496 ที่ฮ่องกง ชื่อจริงคือ "เฉินเจี่ยอิง" เริ่มต้นงานแสดงจากภาพยนตร์จอเงินเมื่อปีพ.ศ. 2513 ด้วยภาพยนตร์จีนภาษากวางตุ้งเรื่อง "The Fairy of Keng-Fa 1970" หลังจากนั้นก็มีผลงานภาพยนตร์จีนภาษากวางตุ้ง ตามมาอีกหลายเรื่อง อาทิเช่น กุมารทองคะนองฤทธิ์ (The Mighty Couple 1971) โดยร่วมแสดงกับ นักแสดงหญิงเจ้าบทบาท ฝงเป๋าเป่า ก็สร้างชื่อให้เธอพอสมควร ต่อมาเมื่อภาพยนตร์จีนภาษาจีนกลาง เริ่มได้รับความนิยมในฮ่องกงมากกว่า ภาพยนตร์จีนภาษากวางตุ้ง

เธอจึงตัดสินใจหันไปรับงานละครในวงการทีวีภายใต้สังกัดสถานีโทรทัศน์ RTV เมื่อปีพ.ศ. 2518 งานละครชิ้นแรก เรื่อง Illegal Commission เล่นประกบกับ หลิวซงเหริน

ต่อมาในปีพ.ศ. 2519 เธอได้พบรักกับนักแสดงสมทบอย่าง "กังฟง" (Kwok Fung) ในระหว่างการถ่ายทำละครทีวี ของค่าย RTV ที่ทั้งคู่ร่วมแสดงใน เรื่อง "สวรรค์นี้...ไม่มีคำตอบ" (No Words to Ask Heaven 1976)" หลังจากนั้นทั้งคู่ตัดสินใจคบกันในฐานะแฟน ต่อมาในปีเดียวกัน ผลงานที่ทำให้เธอเริ่มโด่งดังในวงการละครทีวีอย่างเต็มตัว คือเรื่อง "สามก๊ก" (The Three Kingdoms 1976) โดยเธอรับบทเป็น เตียวเสี้ยน ในละครเรื่องนี้ เธอได้พบรักกับนักแสดงชายสมทบ "กัวฟง" (Kwok Fung) ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นคู่ชีวิตของเธออีกด้วย ผลงานเรื่องนี้ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงเบอร์ต้น ๆ ของทางค่ายRTV ผลงานเด่นต่อมาเรื่อง "ยอดวีรสตรีชิวจิ่น แห่งหังโจว (The Ten Assassinations 6 - Chiu Shin 1977) โดย โอวหยังเพ่ยซัน รับบทเป็น "ชิวจิ่น" วีรสตรีในสมัยการปฏิวัติประชาธิปไตยของ ดร.ยัดซุนเซ็น ในปีเดียวกันเธอได้ตัดสินใจแต่งงานกับ นักแสดงสมทบ อย่าง กัวฟง ในปีพ.ศ. 2520

เธอร่วมแสดงละครกับทางค่ายRTV มา 3 ปี จนถึงกลางปีพ.ศ. 2521 เธอได้ตัดสินใจย้ายไปเป็นนักแสดงในสังกัดของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีและช่วงนี้เองที่ชื่อเสียงของเธอได้รับความนิยม เพิ่มมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี จะมอบบทบาทนางรอง และสมทบให้เธอ มากกว่าบทนางเอก ก็ตาม แต่ชื่อเสียงของเธอกลับโด่งดังมากกว่า ตอนที่เธอรับบทนางเอกกับทางค่าย RTV ซะอีก

ละครเรื่องแรกในสังกัดค่าย TVB ของโอวหยังเพ่ยซัน คือ ละครฟอร์มใหญ่ที่สร้างจากผลงานอมตะของโกวเล้ง เรื่อง "ฤทธิ์มีดสั้น" (The Romantic Swordsman 1978) โดยเธอบทเป็น "ซุนเซียวอั๊ง" หรือ "ซันเสี่ยวหง" และมีดารานำแสดงโดย จูเจียง, หวง ซิ่งซิ่ว, หลี่หลินหลิน,หลิวตัน และ เฉินฟู่เซิง ฯลฯ ซึ่งเป็นผลงานแจ้งเกิดให้เธออีกรอบ ในฐานะนักแสดงหญิงคนใหม่ของสังกัดค่าย ทีวีบี

ผลงานเด่นต่อมา คือเรื่อง "กระบี่สะท้านบู๊ลิ้ม" (One Sword 1978) โดยเธอรับบทเป็น "อีหลัน" ในเรื่องนี้นำแสดงโดย เจิ้งเส้าชิว และ หวงซิ่งซิ่ว. ละครเรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้เธอโด่งดัง เพิ่มมากขึ้น และละครอนวสากลเรื่อง "แฝดคนละฝา" (Between the Twins 1978) ได้ประชันบทบาทกับ หวังหมิงฉวน

ถัดมาในปีพ.ศ. 2522 ปีนี้เธอโด่งดังมากมายกับผลงานละครที่ได้รับความนิยมหลายเรื่อง โดยเธอมีละครกำลังภายในฟอร์มใหญ่แห่งปี เรื่อง "ชอลิ้วฮียง" (Chor Lau Heung 1979) ที่นำแสดงโดย เจิ้งเส้าชิว เจ้าหย่าจือ และหวังหมิงฉวน โดยเธอรับบทสมทบเป็นไข่มุกดำ “เฮ็กเตียงจู” เมื่อได้ออกฉายละครเรื่องนี้โด่งดังเป็นอย่างมากทั่วเอเชีย ทำให้ดาราที่นำแสดงในเรื่องนี้โด่งดังทุกคน รวมถึงตัวของ โอวหยังเพ่ยซันเองด้วย ถึงแม้ว่าในละครเรื่องนี้เธอจะได้รับบทสมทบ แต่ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ ตัวเธอเป็นอย่างมากเช่นกัน และในปีเดียวกัน ผลงานสร้างชื่อให้เธออีกเรื่องเป็นละครแนวสากลยอดนิยมเรื่อง "เทพบุตรชาวดิน" (Man in the Net 1979) นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ เจิ้งอวี้หลิง และ เยิ่นต๊ะหัว โดยมีเธอรับบทเป็น "โอวเสี่ยวหว๋า" และละครสากลอีกเรื่อง "กามเทพเมิน" (The Passenger 1979)นำแสดงโดย จูเจียง หวงซู่อี๋ หลี่ซือฉี กัวฟง และ หลีโหย่วฮุ่ย

ต่อมาในปีพ.ศ. 2523 เริ่มด้วยละครแนวสากล เรื่อง "พยัคฆ์ร้ายซีไอดี" (New CID 1980) และเรื่อง "อดีตรักวันวาน" (Don't Look Now 1980) ทั้งสองเรื่องไม่ค่อยดัง จนมาถึง ละครแนวสากลย้อนยุคสุดฮิตเรื่อง "เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้" (The Bund 1980) ที่นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ หลี่เหลียงเหว่ย เจ้าหย่าจือ ทังเจิ้นเยี่ย จิ้งไต้อิง และมี เธอ รับบทรับเชิญที่โดเด่นเป็น "ซาคายูริ" ละครเรื่องนี้โด่งดังถล่มทลายทั่วเอเชีย เรตติ้งในฮ่องกงติดท๊อปยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล จนทำให้ TVB ต้องสร้างภาคต่อออกมาอีก 2 ภาค ได้แก่"เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้" ภาค 2 (The Bund II 1980) และ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ภาค 3 (The Bund III) โดยในภาค 3 นี้เธอได้เป็นนางเอกเต็มตัว ในบท "เอี้ยชิวอิ๋ง" คู่กับ หลี่เหลียงเหว่ย

ปีถัดมาพ.ศ. 2524 ในปีนี้เธอมีผลงานกำลังภายใน 2 เรื่อง ได้แก่เรื่อง "สองเทพบุตรโลกันต์" (The Kung Fu Master From Fat Shan 1981) นำแสดงโดย หลี่เหลียงเหว่ย หวงเย่อหัว หยางพ่านพ่าน โดยเธอ รับบทเป็น "เถี่ยเอี้ยนชิว" และเรื่อง "วีรบุรุษเส้าหลิน" (The Young Heroes of Shaolin 1981) ละครเรื่องนี้มีดาราดังมากมายร่วมนำแสดงโดย เช่น สือซิว ต่งเหว่ย เหมียวเฉียวเหว่ย หวงเย่อหัว หวงซิ่งซิ่ว และ เซียะหลี โดยเธอรับบทเป็น "เหยาเหลิ่งชุ่ย" และผลงานแนวสากล เรื่อง "สายรักสายเลือด" (Bloodline 1981) โดยเธอร่วมแสดงนำกับ เซี่ยเสียน และ เหยาเหว่ย

ในปีพ.ศ. 2525 ละครสั้นกำลังภายในเรื่อง "ฤทธิ์ฝ่ามืออรหันต์" (The Buddha's Magic Palm 1982) ร่วมนำแสดงกับ ชิเหม่ยเจิน และ จิ้งไต้อิง โดยเธอรับบทเป็นฉิวอวี้หลาน ผลงานต่อมาในเดียวกันเป็นละครกำลังภายในฟอร์มใหญ่แห่งปีเรื่อง "จอมยุทธพเนจร" (The Mavericks 1982) โดยเธอรับบทนำเป็น "ถังเหล่ย" เรื่องนี้ถือได้ว่า เป็นละครเรื่องแรกที่เธอได้เล่นร่วมกับสามีของเธอ กัวฟง ที่ย้ายค่ายมาจาก RTV อีกทั้งยังเป็นหนังจีนแนวยุทธจักรกำลังภายในเรื่องแรกของโจวเหวินฟะอีกด้วย นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ และดาราสาวดาวรุ่ง จวงจิ้งเอ๋อ และผลงานต่อมาในปีเดียวกันเป็นละครแนวสืบสวน สอบสวน เรื่อง เปาปุ้นจิ้น ตอน รองเท้าที่สวมผิด (All In The Wrong Shoes 1982) นำแสดงโดย เจ้าหย่าจือ โจวซิ่วหลัน เป็นต้น และยังมีละครสากลย้อนยุคแนวดราม่าเรื่องเยี่ยม อย่าง "รอยฝันรอยสลาย" (Lady Sings the Blues 1982) นำแสดงโดย หวังหมิงฉวน และ กัวฟง สามีของเธอ ละครดราม่าเรื่องนี้ทำให้ เธอและ หวังหมิงฉวนได้รับคำชมเป็นอย่างมาก

ปีพ.ศ. 2526 ปีนี้ชื่อเสียงของเธอโด่งดังเป็นอย่างมาก และนับได้ว่าเป็นปีทองของเธอ กับการที่เธอสวมบทบาทเป็น อึ้งย้ง (วัยกลางคน) ในละครกำลังภายในฟอร์มใหญ่แห่งปีเรื่อง "มังกรหยกภาค 2" (Return of the Condor Heroes 1983)มังกรหยกภาค 2 ซึ่งเป็นภาคของ เอี้ยก้วย กับ เซียวเหล่งนึ่ง ที่สร้างต่อจากมังกรหยก ภาค 1 ซึ่งเป็นภาคก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง ในปีเดียวกัน โดยมี หลิวเต๋อหัว รับบทเป็น เอี้ยก้วย,เฉินอวี้เหลียน รับบทเป็น เซียวเหล่งนึ่ง และ เหลียงเจียเหยิน รับบทเป็น ก๊วยเจ๋ง วัยกลางคน บทบาทอึ้งย้ง (วัยกลางคน) ในละครมังกรหยกภาค 2 นี้ เธอได้รับคำชมเป็นอย่างมาก เพราะเธอสามารถสวมบาทบาทนี้ ได้อย่างมีพลัง ดูมีอำนาจ ดุ และน่ายำเกรง และก็ดูเป็นคนดี ได้ในเวลาเดียวกัน ในปีเดียวกันเธอก็มีผลงานละครแนวสากลเรื่อง "พยัคฆ์สาวมือปราบ" (Woman on The Beat 1983) โดยเธอรับบทเป็นตำรวจสาว "เจิ้งซุ่นหว๋า" ร่วมนำแสดงกับ สือซิว และ เจิ้งอวี้หลิง

ปีพ.ศ. 2527 เธอมีผลงานแนวสากลถึง 3 เรื่องด้วยกัน อาทิเช่น ละครรักวัยรุ่นเรื่อง "บ้านน้อยคอยรัก" (再版人 :The Clones) ที่มี เหลียงเฉาเหว่ย และ หลิวเจียหลิง แสดงนำ, ถัดมาละครเรื่อง "ยอดคุณพ่อ" (father knows best 1984) นำแสดงโดย หวงวิ่นไฉ และ หวง ซิ่งซิ่ว,ตามต่อด้วยเรื่อง "รักในสายรุ้ง" (畫出彩虹 :Rainbow Round My Shoulder)นำแสดงโดย หลินจุ้นเสียน จาง ม่านอวี้ และ หลันเจี๋ยอิง

ในปีพ.ศ. 2528 ในปีนี้เธอมีผลงานเด่น ๆ มากมายหลายเรื่อง เช่นกัน อาทิเช่น ผลงานละครแนวสากลฟอร์มใหญ่แห่งปี เรื่อง"เทพบุตรทรนง" (The Rough Ride 1985) นำแสดงโดยเหลียงเฉาเหว่ย องเหม่ยหลิง หลี่เหลียงเหว่ย และ เฉินหมิ่นเอ๋อโดยในละครสากลเรื่องนี้เธอรับบทเป็น "เหอเพ่ยเพ่ย" ต่อด้วยละครสากลแนวดราม่าปนตลกเรื่อง "คอนโดมีเนียม" (The Condo 1985) นำแสดงโดย เจิงเจียง อู๋ม่งต๋า เหมียวเฉียวเหว่ย เฉินหมิ่นเอ๋อ และ กงฉือเอิน และละครแนวสากลเข้ม อีกเรื่อง คือ "จอมบงการ" (The Pitfall 1985) โดยเธอรับบทเป็น "เจี่ยงหยางหนัน" ร่วมนำแสดงกับ เยิ่นต๊ะหัว และเจิ้งอวี้หลิง ส่งท้ายปีด้วยละครฟอร์มใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 18 ปีของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี เรื่อง "ขุนศึกตะกูลหยาง" (The Yang’s Saga 1985) โดยมี 5 พยัคฆ์ทีวีบี เป็นตัวเอก และมีดาราแถวหน้าเกือบทั้งค่ายมาเป็นดารารับเชิญ และบทบาทของเธอที่ได้รับเป็นสะใภ้ใหญ่ นามว่า "จางจินติ้ง"

ในปีพ.ศ. 2529 ผลงานเด่นๆ ของเธอในปีนี้คือ "เทพเจ้าหวังต้าเซียน" (The Legend Of Wong Tai Sin 1986) นำแสดงโดย เจิ้งเส้าชิว เฉินซิ่วจู จวงจิ้งเอ๋อ และเติ้งชุ่ยเหวิน โดยเธอรับบทเป็น "จื่อเทียนเจียว" และละครเรื่อง "ลิขิตฮ่องเต้" ( Heir to the Throne Is 1986) นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว หลันเจี๋ยอิง และ โจวไห่เม่ย โดยเธอรับบทเป็น "หลี่โห้ว"

ปีพ.ศ. 2530 ผลงานละครเรื่อง "ยอดทรนง" (When Silken Hands Get Rough 1987) โดยเธอรับบท "จุ้ยเตี๋ย" ซึ่งละครได้รับความนิยม ตามด้วยละครยอดนิยมอีกเรื่อง เลือดอำมหิต (The Conspiracy 1987) นำแสดงโดย เซี่ยเสียน กวนหลี่เจี๋ย เส้าเหม่ยฉี และ หลิวเหม่ยเจียน โดยเธอรับบท "ชาเฟยลี่"

และในปีพ.ศ. 2531 ผลงานเรื่องสุดท้ายก่อนที่เธอจะหมดสัญญากับทางช่อง และย้ายไปเป็นนักแสดงที่ค่ายเอทีวี คือละครสากลแนวตลกเบาสมองเรื่อง "พ่อม่ายทีเด็ด" (PATERNAL AFFAIRS 1988) โดยเล่นกับ เจิงเจียง กลางปีเดียวกันเธอได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับค่ายเอทีวี และเริ่มมีผลงานในปีถัดมาเธอมีผลงานมากมายกับทางค่ายเอทีวี แต่ทว่า..ชื่อเสียงของเธอกลับไม่ได้รับความนิยม เหมือนแต่ก่อน อาจด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เปลี่บนไปรวมถึงวัยที่เพิ่มมากขึ้น ด้วย

ในปีพ ศ. 2532 เริ่มงานกับสถานีโทรทัศน์เอทีวี ทางค่ายให้เธอรับบทเด่นทันทีเป็นซูสีไทเฮา กับละครฟอร์มใหญ่ของทางค่ายในเรื่อง"13 ฮ่องเต้ ราชวงศ์ชิง ภาค 4" ตอน ล้างชาติราชวงศ์ชิง (RISE AND FALL OF QING DYNASTY - THE FORBIDDEN CITY IN JEOPARDY 1992) นำแสดงโดยทังเจิ้นเยี่ย, ชีเหม่ยเจิน และ เซียะหลี ต่อมาก็มีผลงานตามมาอีกหลายเรื่อง อาทิเช่นเรื่อง "กระบี่ไร้เทียมทาน ภาค 2" (Reincarnated II 1993) ในปีพ.ศ. 2536 ที่นำแสดงโดย ฉีเส้าเฉียน

และในปีพ.ศ. 2536 เธอได้ประกาศอำลาวงการบันเทิงอย่างถาวร และจะมีผลงานเรื่องสุดท้ายเป็นละครแนวดราม่าเข้มข้นอิง อัตชีวประวัติเรื่อง "สามพี่น้องตระกูลซ่ง" (The Soong Sisters 1994) ที่จะออกฉายในปีพ.ศ. 2537 โดยเธอรับบท "ซ่งไอ่หลิง" ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตของสามศรีพี่น้องตระกูลซ่ง

หลังจากนั้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 เธอก็ได้ห่างหายไปจากวงการ และชื่อเสียงของเธอก็ค่อย ๆ จางหายกลายเป็นอดีต มีข่าวว่าเธอหันไปศึกษาแนวแพทย์แผนจีนโบราณโดยเฉพาะการฝังเข็ม พร้อมทั้งเรียนทางด้านงานศิลปะที่เธอชอบไปด้วย จนถึงขั้นมีการเปิดทั้งโรงเรียนสอนชี่กง และเปิดสอนการปั้นดินญี่ปุ่น

ต่อมาก็มีข่าวว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง และเสียชีวิตในปีพ.ศ. 2560

แหล่งที่มา

WikiPedia: โอวหยัง_เพ่ยซัน http://www.hkmdb.com/db/people/view.mhtml?id=3677&... http://www.hollywood-hdtv.com/h-club/detail.php?ar... http://www.imdb.com/name/nm0787931/ http://www.kwokfung-puishan.com/bbs/index.php http://hk.apple.nextmedia.com/entertainment/first/... http://hk.apple.nextmedia.com/supplement/culture/a... http://hd.stheadline.com/news/realtime/ent/955182/ http://www.susannaauyeung.com http://www.sinchew.com.my/node/1663130 https://wapbaike.baidu.com/item/%E6%AC%A7%E9%98%B3...