ประวัติ ของ โฮซูมิ_ฮาเซงาวะ

โฮซูมิ ฮาเซงาวะ (ขวา) กับ มาซาโตะ ยามาชิตะ เทรนเนอร์ ระหว่างเยี่ยมผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในภูมิภาคโทโฮกุ เมื่อปี ค.ศ. 2011

โฮซูมิ ฮาเซงาวะได้ขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นแบนตั้มเวท สภามวยโลก (WBC) กับ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น ในปี พ.ศ. 2548 และเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างสูสี จากนั้นจึงป้องกันตำแหน่งกับเฆรัลโด มาร์ติเนซ นักมวยชาวเม็กซิกัน เป็นฝ่ายชนะน็อกไปในยกที่ 7 จากนั้นจึงให้วีระพลล้างตาอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2549 และเป็นฝ่ายชนะน็อกย้ำแค้นวีระพลไปได้อีกครั้งในยกที่ 9

โฮซูมิ ฮาเซงาวะ เป็นนักมวยหนุ่ม สภาพร่างกายแข็งแกร่ง มีช่วงชกยาว หมักหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมัดซ้าย ซึ่งฮาเซงาวะสามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ทั้งหมด 9 ครั้ง ก่อนที่จะเสียแชมป์ไปด้วยการแพ้ทีเคโอ ให้กับเฟร์นันโด มอนติเอล นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นแชมป์โลกในรุ่นเดียวกันนี้ของ WBO โดยถูกมอนติเอลรัวหมัดใส่จนฮาเซงาวะประคองตัวไม่ไหวกรรมการยุติการชกไปในยกที่ 4 เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553 [2]

จากนั้น ฮาเซงาวะจึงได้เลื่อนรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นเฟเธอร์เวท และสามารถเอาชนะ ฮวน การ์โลส เบร์โกส นักมวยชาวเม็กซิกันไปได้ ทำให้กลายเป็นแชมป์โลกในรุ่นนี้ของสภามวยโลกไปด้วยการเอาชนะคะแนน

แต่เมื่อขึ้นชกป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับ ฮอนนี กอนซาเลส ก็เป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอไปในยกที่ 4

ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 ได้ลดรุ่นมาชิงแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ก็เป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอ กิโก มาร์ติเนซ แชมป์โลกชาวสเปนที่โอซากะไปในยกที่ 7

ฮาเซงาวะได้แชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559 จากการเอาชนะอาร์ทีดีในยกที่ 9 หลังจากอูโก รุยซ์ เจ้าของตำแหน่งชาวเม็กซิกันไม่ยอมออกจากมุม ทำให้เป็นแชมป์โลกไปเป็นรุ่นที่ 3[3]

ต่อมาในปลายปีเดียวกัน ฮาเซงาวะได้ประกาศแขวนนวม โดยให้เหตุผลว่าเต็มอิ่มกับการชกมวย กอรปกับร่างกายก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม[4]

ใกล้เคียง