ภาพรวม ของ ในกรณีฉุกเฉิน_(ICE)

จากการศึกษาวิจัยโดยโวดาโฟนพบว่า ผู้คนน้อยกว่า 25% ที่แจ้งรายละเอียดว่าควรจะต้องโทรติดต่อใครหลังจากประสบอุบัติเหตุร้ายแรง โดยมีแคมเปญเพื่อสนับสนุนโครงการนี้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548 โดย บ็อบ บรอทชี่ เจ้าหน้าที่หน่วยบริการรถพยาบาลฉุกเฉินฝั่งตะวันออก (East of England Ambulance Service) ของสหราชอาณาจักร โดยแนวคิดนี้เริ่มต้นขึ้นมาหลังจากเหตุระเบิดในลอนดอน 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2548[1]

โดยบรอทชี่ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุบีบีซี รายการทูเดย์ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ว่า:[1]

"ผมกำลังนึกถึงการโทรที่ยากลำบากที่ฉันเคยประสบ ในสถานการณ์เหล่านั้นพวกเขาไม่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผมได้เนื่องจากการบาดเจ็บหรืออาการป่วย และเราไม่สามารถทราบได้ว่าเขาเป็นใคร ผมค้นพบว่าผู้คนจำนวนมากในปัจจุบันพกพาโทรศัพท์มือถือ พวกเราใช้มันเพื่อค้นหาว่าผู้บาดเจ็บเป็นใคร ผมคิดได้ว่า หากเรามีแนวทางปฏิบัติเดียวกันในการค้นหาข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉินในโทรศัพท์มือถือ นั่นจะทำให้ทุกคนทำงานง่ายขึ้น"

บรอทชี่ ยังเรียกรร้องให้ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่สนับสนุนแคมเปญด้วยการเพิ่มหัวข้อ ICE ลงในรายชื่อผู้ติดต่อภายในโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่ทั้งหมด

และด้วยข้อมูลที่จำเป็นและข้อมูลทางการแพทย์เหล่านี้ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานฉุกเฉินสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเหยื่อได้ในกรณีที่ประสบเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะในกรณีที่บาดเจ็บสาหัส จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบข้อมูลเหล่านี้ในชั่วโมงทองแห่งชีวิต (Golden hour) ซึ่งส่งผลสำคัญช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของเหยื่อได้

ด้วยข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลทางการแพทย์นี้ ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นจะสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้จากโทรศัพท์ของเหยื่อได้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บสาหัส จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีข้อมูลนี้ภายในชั่วโมงทอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ในกรณีฉุกเฉิน_(ICE) https://web.archive.org/web/20091212223345/http://... http://www.asb.de/view.php3?show=5900001900164 http://www.hoaxbuster.com/hoaxliste/contact-ice https://mobile.kapook.com/view1886.html https://www.tomsguide.com/uk/us/add-emergency-info... https://www.pcmag.com/article2/0,2817,2489237,00.a... https://www.nokia.com/phones/th_th/support/nokia-2... https://news.bbc.co.uk/1/hi/england/4674331.stm http://edition.cnn.com/2008/HEALTH/02/07/ep.if.i.d...