อาการ ของ ไตวาย

อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ผู้ป่วยโรคไตในระยะเริ่มต้นอาจไม่รู้สึกอาการป่วยหรือสังเกตอาการที่เกิดขึ้น เมื่อไตไม่สามารถกรองได้อย่างเหมาะสม ของเสียจะสะสมในเลือดและร่างกาย สภาพนี้เรียกว่าภาวะเลือดคั่งสารไนโตรเจน (อังกฤษ: azotemia) ระดับ azotaemia ที่ต่ำมากอาจไม่แสดงอาการเลย ถ้าโรคดำเนินไป อาการเริ่มที่จะเห็นได้ชัด (ถ้าความล้มเหลวมีระดับสูงเพียงพอที่จะทำให้เกิดอาการ) ไตวายที่มาพร้อมกับอาการที่เห็นได้ชัดเจนจะเรียกว่ายูเรียในเลือด (อังกฤษ: uraemia)[2]

ไตวายจะมีอาการดังต่อไปนี้[2][3][4][5]

  • มียูเรียในเลือดระดับสูง จะส่งผลดังนี้
    • อาเจียนและ / หรือท้องร่วง ซึ่งอาจนำไปสู่​​การขาดน้ำ
    • อาการคลื่นไส้
    • น้ำหนักลด
    • ปัสสาวะเวลากลางคืน
    • ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือในปริมาณที่สูงกว่าปกติและมีสีซีด
    • ปัสสาวะไม่บ่อยหรือในปริมาณที่มีน้อยกว่าปกติและมีสีเข้ม
    • มีเลือดปนในปัสสาวะ
    • ปัสสาวะยาก ต้องเบ่ง
    • ปัสสาวะมีปริมาณมากผิดปกติ
  • การสะสมของฟอสเฟตในเลือดที่ไตที่วายแล้วไม่สามารถกรองได้อาจก่อให้เกิด:
    • อาการคัน
    • กระดูกเสียหาย
    • กระดูกที่หักแล้ว ต่อไม่ได้
    • เป็นตะคริว (เกิดจากระดับแคลเ​​ซียมต่ำซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับภาวะมีฟอสเฟสมากเกินไป (อังกฤษ: hyperphosphatemia))
  • การสะสมของโพแทสเซียมในเลือดที่ไตที่วายแล้วไม่สามารถกรองได้ (เรียกว่าภาวะโพแทสเซียมสูง) อาจก่อให้เกิด:
    • จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
    • อัมพาต[6]
  • ไตล้มเหลวในการกรอง​​ของเหลวส่วนเกินออกอาจก่อให้เกิด:
    • การบวมของขา, ข้อเท้า, เท้า, ใบหน้าและ / หรือมือ
    • การหายใจช่วงสั้นเนื่องจากมีของเหลวส่วนเกินในปอด (หรืออาจจะเกิดจากโรคโลหิตจาง)
  • โรคไตหลายถุงน้ำ (อังกฤษ: Polycystic kidney disease) ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดซีสต์ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของเหลวในไตและบางครั้งในตับ อาจทำให้เกิด:
    • อาการปวดหลังหรือปวดด้านข้าง
  • ไตที่มีสุขภาพดีจะผลิตฮอร์โมน erythropoietin ที่ช่วยกระตุ้นไขกระดูกเพื่อให้เซลล์เม็ดเลือดแดงที่แบกออกซิเจน เมื่อไตล้มเหลว มันจะผลิต erythropoietin น้อยลง ส่งผลให้ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงที่จะมาแทนที่การสลายตามธรรมชาติของเซลล์เม็ดเลือดแดงเก่าลดลง ผลก็คือเลือดจะแบกฮีโมโกลบินน้อยลง สภาพนี้เรียกว่าโรคโลหิตจาง ซึ่งจะส่งผลให้:
    • รู้สึกเหนื่อยและ / หรืออ่อนแอ
    • มีปัญหาเรื่องความจำ
    • ลำบากในการตั้งใจทำงาน
    • เวียนหัว
    • ความดันโลหิตต่ำ
  • โดยปกติแล้วโปรตีนจะมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะผ่านไตได้ แต่มันสามารถที่จะผ่านได้เมื่อ glomeruli (เส้นเลือดในตับ)ได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการจนกระทั่งความเสียหายของไตเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง[7] หลังจากนั้น จะมีอาการดังนี้:
    • ปัสสาวะเป็นฟอง
    • มีอาการบวมในมือ ที่เท้า ที่หน้าท้องหรือใบหน้า
  • อาการอื่น ๆ ได้แก่:
    • สูญเสียความอยากอาหาร อาหารในปากรสชาติไม่ดี
    • นอนหลับยาก
    • ผิวสีเข้ม
    • โปรตีนเกินในเลือด
    • ถ้าใช้ยาเพนิซิลลินมาก ผู้ป่วยไตวายอาจมีอาการชัก[8]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไตวาย http://www.diseasesdatabase.com/ddb26060.htm http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=584 http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=585 http://www.medicinenet.com/hyperkalemia/page4.htm http://www.renalinfo.com http://www.renalinfo.com/uk http://www.uptodate.com/contents/renal-involvement... http://kidney.niddk.nih.gov/Kudiseases/pubs/yourki... http://kidney.niddk.nih.gov/kudiseases/pubs/protei... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2921485