ประวัติ ของ ไผ่ผารบ_ก่อเกียรติยิม

ไผ่ผารบเคยชกมวยไทยมาก่อน โดยใช้ชื่อว่า "คนโหด ลูกเขาวงค์" ก่อนจะมาชกในศึกวันทรงชัยที่สนามมวยเวทีลุมพินี ของโปรโมเตอร์ ทรงชัย รัตนสุบรรณ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ดาวเด่น สิงห์คลองสี่"[1] จากความเป็นนักมวยหมัดหนัก จึงได้รับฉายาว่า "ไอ้หมัดดาวตก" แม้จะไม่เคยเป็นแชมป์ แต่ก็เป็นรองแชมป์ประเทศไทยในรุ่นฟลายเวท (112 ปอนด์) และเคยเอาชนะ ธงชัย ต.ศิลาชัย นักมวยไทยชื่อดังมาแล้ว

เมื่อหันมาชกมวยสากลอาชีพ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ "ไผ่ผารบ" โดยนำชื่อและนามสกุลจริงมารวมกัน โดยเป็นนักมวยในสังกัดก่อเกียรติกรุ๊ป ของ ก่อเกียรติ พณิชยารมณ์ ได้ชกในครั้งที่สองก็ได้ขึ้นชิงแชมป์ในรุ่นฟลายเวทของสมาคมมวยแห่งทวีปเอเชีย (PABA) เลยทันที จากนั้นก็ได้เปลี่ยนไปชกในรุ่นที่เล็กกว่าอีกคือรุ่น ไลท์ฟลายเวท (108 ปอนด์) และก็ได้เป็นแชมป์ PABA อีก และยังเป็นแชมป์เอเชียแปซิฟิกในรุ่นเดียวกันนี้ของ WBO อีกด้วย ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ได้ลดรุ่นมาชกในรุ่นมินิมั่มเวทและได้ขึ้นชิงแชมป์ในรุ่นนี้ที่ว่างของ WBA ASIA กับนักมวยชาวฟิลิปปินส์ ก็ปรากฏว่าสามารถเอาชนะน็อกไปได้เพียงแค่ยกแรกเท่านั้น

ต่อมาในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ไผ่ผารบได้ขึ้นชิงแชมป์โลกเฉพาะกาลในรุ่นนี้ ของสมาคมมวยโลก (WBA) กับ เฮซุส ซิลเวสเตร นักมวยชาวเม็กซิกัน ปรากฏว่าไผ่ผารบเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์ แต่ก็คู่คี่สูสี เนื่องจากในช่วงท้าย ๆ การชก ไผ่ผารบเป็นฝ่ายถูกนักมวยชาวเม็กซิกันไล่ชกอยู่ฝ่ายเดียว[2]

ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555 ไผ่ผารบถูกตำรวจจับในข้อหาค้ายาบ้าพร้อมกับนักมวยไทยอีกราย โดยเจ้าตัวอ้างว่าทำไปเพราะเงินที่ได้จากการชกมวย ไม่พอกับค่าใช้จ่าย[3] ทำให้ต้องหมดอนาคตในวงการมวยไปเลยทันที[4]

ซึ่งไผ่ผารบถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน ที่เรือนจำอำเภอชัยบาดาล ขณะที่ได้รับโทษมาราว 8 เดือน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ก็ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชกนอกเรือนจำได้ โดยเริ่มจากการชิงแชมป์รุ่นฟลายเวท ของ WBC เอเชีย[5] และพ้นโทษออกมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2557[6] ได้แชมป์รุ่นไลท์ฟลายเวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) โอเรียนทัล เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ปีเดียวกัน[7] และได้แชมป์รุ่นไลท์ฟลายเวท ของ WBA ASIA เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปีเดียวกัน[8]

ต่อมา ไผ่ผารบแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อขึ้นป้องกันแชมป์รุ่นไลท์ฟลายเวท WBO โอเรียนทัล เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เมื่อถูกหมัดของ เจสซี เอสปินัส นักมวยชาวฟิลิปปินส์อัดเข้าลิ้นปี่ในยกที่ 8 ในการชกที่เวทีมวยชั่วคราว วัดโคกกรวด ตำบลตั้งใจ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ [9] หลังจากนั้น ไผ่ผารบก็แขวนนวมไป