มาตรฐาน ของ ไฟร์ไวร์

FireWire รุ่นแรกเรียกว่า FireWire 400 สามารถส่งข้อมูลได้ 100, 200, 400 Mbit/s (ในความเป็นจริงจะส่งได้ 98.304, 196.608, 393.216 Mbit/s ตามลำดับ) สามารถต่อพ่วงอุปกรณ์ได้สูงสุด 63 ชิ้น (โดยใช้ฮับเข้าช่วย) สามารถเชื่อมต่อแบบ peer-to-peer เช่น เชื่อมระหว่างเครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ FireWire ยังสามารถจ่ายพลังงานได้ 45 วัตต์ต่อพอร์ทอีกด้วย

FireWire 800 เป็นมาตรฐานที่แอปเปิลพัฒนาเพิ่มเติมจาก IEEE1394b ในปี ค.ศ. 2003 โดยพัฒนาให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 786.432 Mbit/s โดยที่ยังเข้ากันได้กับ FireWire 400 รุ่นเก่า

ด้วยซอฟต์แวร์เสริม FireWire สามารถต่อในเครือข่ายแทนสายแลนได้แบบไม่ต้องผ่านเราเตอร์ ซึ่งความสามารถนี้สนับสนุนในระบบปฏิบัติการที่นิยมทั่วไป

การพัฒนา

ด้วยการพัฒนาตามหลักการของการส่งข้อมูลแบบใหม่โดยการส่งแบบคู่ขนาน 9 พิน จะช่วยในการส่งผ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยFirewire 2008 ความเร็ว 3.2Gbit/s ได้รับการรับรองแล้ว จากสมาพันธ์ IEEE โดยได้ทำการรับรองมาตรฐาน IEEE 1394 แล้ว หรือที่รู้จักกันในนาม Firewire โดยมาตรฐานนี้ได้ถูกเรียกว่า IEEE 1394-2008 โดยจะมีสเปคความเร็วอยู่ที่ 1.6 Gbit/s และ 3.2 Gbit/s โดย Firewire ใหม่นี้จะใช้เคเบิลแบบ 9 pin เหมือนกับ Firewire 800แต่กลับเป็นที่นิยมมากกว่า หากดูในกลุ่มกล้องถ่ายวิดีโอประเภท DV แต่สำหรับ Firewire 800 นั้นกลุ่มผู้ใช้มีอยู่จำกัดมากIEEE กล่าวว่ามาตรฐานใหม่นี้จะเริ่มนำออกมาใช้ภายในเดือนตุลาคมปี 2551

อุปกรณ์อินพุต
อุปกรณ์เอาต์พุต
หน่วยบันทึกข้อมูลแบบถอดได้
กล่องครอบคอมพิวเตอร์
พอร์ตข้อมูล
บทความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่าง ๆ หรือเครือข่ายนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:เทคโนโลยีสารสนเทศ