ไฟสัญญาณเดินเรือ ของ ไฟสัญญาณ

ประวัติ

เมื่อปี ค.ศ. 1838 สหรัฐอเมริกาได้มีการกำหนดให้เรือจักรไอน้ำที่เดินเรือ ในช่วงเวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้นต้องติดตั้งและเปิดแสดงไฟสัญญาณหนึ่งดวงหรือมากกว่า โดยที่ไม่ได้มีข้อกำหนดถึงสีหรือตำแหน่งที่ติดตั้งเอาไว้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1848 สหราชอาณาจักรได้มีการกำหนดให้เรือจักรไอน้ำต้องติดตั้งและแสดงไฟสัญญาณด้านข้างสีแดงและสีเขียว รวมถึงติดตั้งและแสดงไฟสัญญาณสีขาวบนยอดเสาเรือ หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1849 รัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการแสดงไฟสัญญาณให้ครอบคลุมไปจนถึงเรือใบ

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1889 สหรัฐอเมริกาได้มีการจัดการประชุมนานาชาติทางทะเล (อังกฤษ: International Maritime Conference) เพื่อพิจารณากฎการเดินเรือสากลเพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติภัยการชนกันของเรือในทะเล ผลคือ กฎการเดินเรือจากการประชุมวอชิงตัน (อังกฤษ: Washington Naval Conference) ได้ถูกลงมติยอมรับโดยสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1890 และมีผลใช้ในระดับสากลเมื่อปี ค.ศ. 1897[1]

สำหรับกฎการเดินเรือสากลเพื่อป้องกันอุบัติภัยการชนกันในทะเล (อังกฤษ: The International Regulations for Preventing Collisions at Sea) ได้ถูกกำหนดขึ้นในปี ค.ศ. 1972 เพื่อบังคับให้มีการติดตั้งและแสดงไฟสัญญาณเดินเรือบนเรือหรือพาหนะทางทะเล

ภาพแสดงไฟสัญญาณเดินเรือพื้นฐาน หมายเลข 2 แสดงภาพเมื่อผู้สังเกตหันหน้าเข้าหาหัวเรือ

ไฟสัญญาณเดินเรือพื้นฐาน

เพื่อป้องกันอุบัติภัยในทะเล เรือหรือพาหนะทางทะเลต้องติดตั้งและแสดงไฟสัญญาณเดินเรือที่แสดงให้ทราบถึงประเภทและทิศทางสัมพันธ์ที่กำลังเดินทางไป เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเดินเรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือไม่

เรือหรือยานพาหนะทางทะเลต้องแสดงไฟสัญญาณทางกราบขวาเป็นสีเขียว โดยที่สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่หัวเรือไปทางกราบขวาจนถึง 112.5 องศานับจากหัวเรือ และไฟสัญญาณทางกราบซ้ายเป็นสีแดง โดยที่สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่หัวเรือไปทางกราบซ้ายจนถึง 112.5 องศานับจากหัวเรือ ไฟสัญญาณหัวเรือ คือไฟสัญญาณสีขาวที่สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงมุม 225 องศาโดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ในทิศหัวเรือ สำหรับไฟสัญญาณสีขาวท้ายเรือ มีช่วงมุมที่สามารถสังเกตเห็นได้ 135 องศา(ดังรูป)[2]

เรือโฮเวอร์คราฟต์ หรือเร็วเร็วต่างๆที่แล่นใกล้ฝูงชนสามารถติดตั้งไฟกระพริบสีเหลืองเพื่อเพิ่มทัศนะวิสัยทั้งกลางวันและกลางคืนให้สามารถเป็นที่สังเกตได้ง่ายขึ้น

1) ไฟสัญญาณอากาศยาน
2) ไฟสัญญาณท้ายเครื่องบิน
3) ไฟสัญญาณป้องกันอุบัติภัย
4) ไฟแสดงสัญลักษณ์ชื่อสายการบิน

ไฟสัญญาณเดินเรือบอกสถานะ

นอกเหนือจากไฟสัญญาณเดินเรือพื้นฐานดังที่กล่าวข้างต้น การใช้ไฟสัญญาณตามกฎการเดินเรือสากลเพื่อป้องกันอุบัติภัยการชนกันในทะเล (The International Regulations for Preventing Collisions at Sea) สามารถใช้เพื่อบอกสถานะและประเภทของเรือหรือยานพาหนะทางทะเลนั้น ๆ ได้ด้วย

ยกตัวอย่างเช่น

ในช่วงเวลากลางคืนหรือเมื่อทัศนวิสัยจำกัด เรือที่มีความยาวน้อยกว่า 50 เมตร ขณะจอดทอดสมออยู่ต้องแสดงสัญญาณไฟสัญญาณสีขาวที่สามารถมองเห็นได้รอบทิศทางหนึ่งดวง เรือที่มีความยาวตั้งแต่ 50 เมตรขึ้นไป ต้องแสดงไฟสัญญาณสีขาวที่สามารถมองเห็นได้รอบทิศทางหนึ่งดวงบริเวณหัวเรือ และอีกหนึ่งดวงบนเสาที่มีความสูงน้อยกว่าดวงแรกไปทางท้ายเรือ