ลูคัสเกิดในมอสโก ประเทศรัสเซีย ศึกษาที่วิทยาลัยในมอสโก จบการศึกษาด้านกฎหมาย[4] เคยเป็นเจ้าของบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในมอสโกในระยะสั้น ๆ หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย[6] หลังจากนั้นเป็นนายแบบเปลือยและเป็น male escort และเริ่มเข้าสู่วงการหนังโป๊ด้วยการปรากฏตัวในหนังโป๊เยอรมันชาย-หญิง[5] ขณะที่เขาอยู่ในฝรั่งเศสทำงานกับผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Jean-Daniel Cadinot[7] ปรากฏตัวในบท "Ramzes Kairoff" ในหนังเกย์ 2 เรื่อง ที่ออกจำหน่ายในปี 1996[8] โดยใช้ชื่อว่า "Michel Lucas" เขาทำงานให้กับฟอลคอนเอ็กซ์คลูซีฟ แสดงบทรุกในหนัง 5 เรื่องที่ออกในปี 1997 และ 1998[9] จากนั้นได้กำกับหนังเรื่องแรกเรื่อง Back in the Saddle ในปี 1998 ที่เขาได้ร่วมแสดงด้วย[10]

ในปี 1998 ลูคัสก่อตั้งบริษัทของตัวเองที่ชื่อ ลูคัสเอนเตอร์เทนเมนต์ จากเงินที่เขาหาได้ขณะทำอาชีพเป็น male escort[5] โดยเปิดบริษัทในนิวยอร์กซิตี (ซึ่งโดยส่วนมากบริษัทสตูดิโอผลิตหนังโป๊จะตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส) เพื่อจะอาศัยประโยชน์การตลาดจากการที่มีคู่แข่งน้อยกว่า[11] ในปี 2004 เปิด ลูคัสดิสทริบิวชัน อินค์ ที่เป็นบริษัทจัดจำหน่ายวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ ลูคัสกำกับและร่วมแสดงในภาพยนตร์ของเขาเองภายใต้ลูคัสเอนเตอร์เทนเมนต์ สตูดิโอของเขาได้รับรางวัลเกย์วีเอ็นมาแล้วหลายรางวัล[12]

ในฤดูร้อนปี 2005 ลูคัสออกหนังเรื่อง Michael Lucas' Dangerous Liaisons ที่มีเหล่าดาราดังมาร่วมแสดงด้วยอย่าง รูพอล, บอย จอร์จ, เกรแฮม นอร์ตัน, บรูส วิแลนซ์, เลดี บันนี, อะแมนดา เลอโพร์ และ ไมเคิล มัสโต[13] ในปี 2006 สตูดิโอออกหนังเรื่อง Michael Lucas' La Dolce Vita Parts 1 & 2 เป็นหนังโป๊เกย์ที่นำมาสร้างใหม่จากหนังคลาสสิกในยุค 1960 เรื่อง La Dolce Vita[14] ซึ่งได้รับรางวัล 14 สาขารางวัลจากเกย์วีเอ็น ชนะในทุกสาขารางวัลที่ได้เข้าชิง[15]

ในปี 2004 ลูคัสปรากฏตัวในหนังสือ XXX: 30 Porn Star Photographs ของไทโมธี กรีนฟิลด์-แซนเดอร์ส[16] และมีส่วนร่วมในรายการสารคดีทางช่องเอชบีโอ เรื่อง Thinking XXX[17] กรีนฟิลด์-แซนเดอร์สยังให้เขาแสดงรายชื่อภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบ 10 อันดับ ซึ่งที่เขาบอกเป็นหนังของบริษัทเขาผลิตทั้งหมด ทั้ง 10 เรื่อง

ในปี ค.ศ. 20009 ลูคัสออกหนังเรื่อง เม็นออฟอิสราเอล ซึ่งได้รับความสนใจจากนักข่าว อาทิ The Atlantic, Out Magazine และ Yediot Aharonot เขียนว่า ถือเป็น จุดอ้างอิงครั้งแรกของหนังโป๊ที่ถ่ายทำในสถานที่และใช้นักแสดงอิสราเอลทั้งหมด[18] ขณะที่ Tablet Magazine และ Los Angeles Times เขียนว่าถือเป็นหนังเรื่องแรกที่ใช้นักแสดงยิวทั้งหมด[18][19][20]

ลูคัสอย่างเป็นคอลัมนิสต์ ให้กับ The Advocate[21]