ความนิยมที่แพร่หลาย ของ ไมเคิล_แจ็กสัน

ไฟล์:Estatua Michael Jackson Santa Marta RJ.JPGอนุสาวรีย์ไมเคิล แจ็กสัน ที่ชุมชนซานต้า มาร์ต้า เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล สถานที่ใช้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ "They Don't Care About Us"

ในปีค.ศ 1984 หนังสือพิมพ์ของสาธารณรัฐเกาหลี ได้ตีพิมพ์บทความ"ฤดูกาลแห่งความนิยม" โดยใช้ผลสำรวจของเยาวชนพบว่าที่โรงเรียนประถมศึกษาไม่มีนักเรียนคนใดไม่รู้จักไมเคิล แจ็กสันและเด็กๆยังมีความกระตือลือล้นในเพลงของเขา รายงานดังกล่าวยังได้ทำผลสำรวจเพิ่มเติมและพบว่าเด็กนักเรียนต่างรู้จักแจ็กสันแม้จะเป็นชื่อของนักร้องต่างประเทศ[315]นอกจากนี้จากการสำรวจในหัวข้อ"บุคคลระดับโลกที่มีชื่อเสียงมากที่สุด"โดยใช้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กในระดับประถมศึกษากว่า 2,000 คน พบว่าแจ็กสันได้รับการโหวตให้มากที่สุด ตามด้วยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน, ลินคอล์น และทอมัส เอดิสัน[316]ในประเทศญี่ปุ่นแจ็กสันได้รับความนิยมอย่างมากเช่นเดียวกับโลกตะวันตก และเรียกเขาว่าเป็น "ปรากฏการณ์ระดับไต้ฝุ่น" ขณะที่รองประธานอาวุโสของบริษัทโซนี่ มิวสิคญี่ปุ่นยังกล่าวถึงเขาว่า "ไม่มีนักแสดงคนใดมีพลังเหมือนไมเคิล แจ็กสัน เขาเป็นที่รักสำหรับความสามารถของเขา ดนตรีของเขา การเต้นของเขา เช่นเดียวกับจิตใจที่อ่อนโยน"[317]ประเทศแอฟริกาเขาได้รับการยกย่องในฐานะผู้ที่ทลายการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ เขายังทำให้วัฒนธรรมของคนผิวสีและนักร้องรุ่นหลังเป็นที่ยอมรับมากขึ้นอีกด้วย[318]เกาหลีก็ยังเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากแจ็กสันอย่างสูง[319] แจ็กสันยังได้รับความนิยมอย่างมากในอินเดีย ด้วยความนิยมของศิลปินตะวันตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของแจ็กสันได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ฮาร์ด คอร์ด นักร้องชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียพูดว่า"ถ้าคุณไปที่หมู่บ้านใดๆหรือทั่วทุกมุมในประเทศอินเดียคุณจะพบว่าทุกคนคุ้นเคยกับชื่อของไมเคิล แจ็กสัน ไม่มีนักดนตรีคนไหนจะแทนที่เขาได้"[320][321]ในประเทศปากีสถาน แจ็กสันยังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับโคคาโคล่า ขณะที่ประเทศจีนซึ่งปิดตัวเองจากโลกตะวันตกมาจนถึงทศวรรษ 80 แจ็กสันก็ยังมีชื่อเสียงอย่างมาก ในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในชุดสูทสีน้ำตาลอมเหลืองและรัฐก็ยังควบคุมการเปิดเพลงทางวิทยุ แจ็กสันยังเป็นศิลปินคนแรกที่นำพาวัฒนธรรมเพลงป็อปตะวันตกมาสู่ประเทศ [322]

ผู้คนกว่า 13,957 คน เต้นเพลงทริลเลอร์เพื่อไว้อาลัยแก่เขาในกรุงเม็กซิโกซิตี้

ชาร์ลี เคนดัลล์ ผู้อำนวยของสถานีวิทยุร็อกนิวยอร์ก อธิบายถึงเขาว่า "ไมเคิล แจ็กสันเป็นวัฒนธรรมของมวลชน เขาดึงดูดความสนใจของทุกคน" และกล่าวว่า "ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเขามีเสียงที่น่าเกรงขามและลีลาที่สมบูรณ์แบบ เขาสามารถเต้นราวกับไม่ใช่มนุษย์ เขาดึงดูดความสนใจของคนทุกเพศทุกวัยและผู้ฟังเพลงทุกประเภท อย่างยากที่จะจำแนกหมวดหมู่"[323] ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกก็ยังเป็นช่วงเวลาที่เขาได้พบกับผู้นำประเทศในหลายทวีป นอกจากวงการดนตรีแล้ว แจ็กสันยังมีอิทธิพอย่างมากต่อวงการแฟชั่น ฟิลลิป โบลช สไตลิสชื่อดัง กล่าวว่า "ไมเคิล แจ็กสัน ไม่ได้รับอิทธิพลจากแฟชั่น แต่แฟชั่นต่างหากที่ได้รับอิทธิพลจากเขา"[324]เขายังมีบทบาทด้านมนุษยธรรมและการช่วยเหลือเด็กและสังคม ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกเดนเจอรัสเวิลด์ทัวร์ เขายังได้ยกผลกำไรทั้งหมดเข้าสู่มูลินิธิการกุศล และยังได้มอบเงินให้แก่มูลนิธิในทุกประเทศที่เขาเดินทาง[325] ในขณะที่การเสียชีวิตของเขากลายเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ทั่วโลก สื่อประเทศฮ่องกงได้นำเสนอข่าวว่า "ไม่มีส่วนใดของเอเชีย...และที่เหลือของโลก จะไม่จดจำไมเคิล แจ็กสัน" เว็บไซด์ชื่อดังของจีนขนามนามเขาว่า "นักร้องที่โดดเด่นที่สุดตลอดกาล" ขณะที่หลายๆคนทั่วโลกต่างรู้สึกว่าการเสียชีวิตของเขาเป็นเหมือนการสูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก นับได้ว่าเขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ของโลกผู้สร้างปรากฏการณ์อย่างแท้จริง [326] หลังครบรอบวันเกิดของเขาในปีเดียวกัน ชาวเม็กซิโกยังได้ไปชุมนุมกันในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ กว่า 13,957 คน เพื่อเต้นรำตามจังหวะและท่าทางตามเพลง " ทริลเลอร์ " เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เขา นับเป็นการเต้นรำหมู่เพลงทริลเลอร์ที่ทำลายสถิติของกินเนสส์มีจำนวนคนเข้าร่วมมากที่สุด[327]

หลังจากที่เขาเสียชีวิตไม่นานในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2009 เอ็มทีวีปรับเปลี่ยนช่องโดยเล่นมิวสิกวิดีโอของเขาเพื่อเป็นการอุทิศและเฉลิมฉลองในงานของเขา[328] สถานียังออกอากาศมิวสิกวิดีโอของเขาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง และยังมีการสัมภาษณ์สดในปฏิกิริยาตอบรับทั้งจากพิธีกรเอ็มทีวีและเหล่าบุคคลมีชื่อเสียง ตลอดทั้งสัปดาห์ยังมีรายการและยังมีการถ่ายทอดสดพิธีไว้อาลัย [329] ในพิธีไว้อาลัย ณ วันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 ผู้ก่อตั้งค่ายเพลงโมทาวน์ เบอร์รี กอร์ดี ยังสรรเสริญแจ็กสันว่าเป็น "คนบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา" [330][331][332]

ต่อมาวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2009 สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน รำลึกถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตของแจ็กสันว่าเป็น "เหตุการณ์ที่สำคัญ" และกล่าวว่า "การเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสันอย่างกะทันหันในเดือนมิถุนายน เขาอายุเพียง 50 ปี เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทั่วโลกต่างโศกเศร้าและเกิดการสรรเสริญตัวเขาไปทั่วโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อน"[333]

ใกล้เคียง

ไมเคิล แจ็กสัน ไมเคิล โอเวน ไมเคิล จอร์แดน ไมเคิล ไฮเซอร์ ไมเคิล แจ็กสัน: ดิอิมมอร์ทัลเวิลด์ทัวร์ ไมเคิล ดักลาส ไมเคิล เบิร์น ไมเคิล แคร์ริก ไมเคิล เชาวนาศัย ไมเคิล บลูมเบอร์ก

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไมเคิล_แจ็กสัน http://www.livenews.com.au/entertainment/deborah-r... http://www.mj50.com.au/ http://www.news.com.au/adelaidenow/story/0,22606,2... http://www.smh.com.au/news/entertainment/people/ne... http://www.sonybmg.com.au/news/details.do;.tomcat2... http://www.ultratop.be/nl/search.asp?search=king+o... http://www.ultratop.be/nl/showitem.asp?interpret=M... http://billboard.biz/bbbiz/content_display/charts/... http://www.cbc.ca/news/entertainment/cirque-plans-... http://www2.macleans.ca/2009/07/07/there-was-nothi...